บทที่ 7
มินตรา
ร่างสูงค่อยๆใช้มือหนาลูบไล้ตั้งแต่เรียวขายาวสวยจนถึงต้นขาอ่อน ก่อนจะค่อยๆมาสัมผัสตรงจุดกลางกายของร่างสาว
“ป้าแฉะแล้วเหรอ” ร่างสูงกระซิบข้างหูร่างบางเบาๆ พร้อมกับค่อยๆลูบข้างล่างของร่างบางอย่างแผ่วเบา
“แฉะอะไร บ้าแล้ว!” ร่างบางเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น ใบหน้าหวานแดงอย่างเห็นได้ชัด
“ตรงนี้อ่ะ เยิ้มเลย” ร่างสูงพูดก่อนจะสะกิดที่กลางกายสาวของร่างบางเบาๆ
“อ๊ะ” เสียงหวานร้องออกมาอย่างตกใจ
“หึ” ร่างสูงหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะลูบไล้กลางกายสาวไปมา ทำให้ร่างบางที่นอนอยู่แอ่นกายบิดไปมาอย่างเขินอายและแสบเสียว
ร่างสูงใช้มือหนาของเขาแหวกกลีบกุหลาบงาม ก่อนที่เขาจะจ้องมองช่องทางตรงนั้นอยู่สักพัก พลางคิดว่าทำไมกลีบกุหลาบของเธอมันถึงดูสวยและยั่วยวนเขาขนาดนี้ แถมยังมีสีแดงชมพูจนน่าลิ้มลองเลยทีเดียว ร่างบางละสายตก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วกลางเข้าไปในช่องทางสีหวานสวยเพียงนิ้วเดียว ทำให้ร่างบางที่นอนอยู่ถึงกับตาเบิกโพรง
ช่องทางของเธอมันทั้งนุ่มและรัดแน่น อย่าบอกนะว่าเธอยังซิงอยู่.... ร่างสูงได้แต่พลางคิดในใจ
“นะ นายทำอะไรย่ะ!”
“อยู่เฉยๆเหอะน่า” ร่างสูงบอกก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วกลางเข้าไปทีละนิดจนสุดนิ้ว ร่างบางได้แต่กลั้นเสียงครางในลำคอ ทำให้ร่างสูงอยากจะแกล้งเข้าไปใหญ่ ตอนแรกเขาก็โกรธเธอมาก พอเห็นท่าทีของเธอแล้วอยากจะแกล้งมากกว่า
“อ๊า...” ร่างบางกัดริมฝีปากแน่น เรียวขางามแนบชิดติดกัน ทำให้ร่างสูงส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ก่อนจะจับเรียวขาของหญิงสาวแยกออกมาจนอ้าเป็นรูปตัวเอ็ม
“รู้สึกดีไหม” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบที่ข้างหูของร่างบาง พลางสอดนิ้วเข้าไปทั้งสองนิ้ว ช่องทางรักของหญิงสาว เริ่มมีน้ำหล่อลื่นจากความเสียวซ่าน ทำให้ร่างสูงต้องค่อยๆเพิ่มจำนวนนิ้วทีละนิ้ว จนถึงสามนิ้ว
เขาคิดในใจแค่ว่า มันแน่นชะมัด นี่ขนาดแค่นิ้ว ถ้าโดนตรงนั้นของเขาเสียบเข้าไป จะไม่รัดแน่นจนเกินต้านทานเลยเหรอ
เฮ้อ! เขาแค่เด็กม.ห้าเองนะ จะมามีอะไรกับใครมันไม่ดีแน่ๆ แต่ว่าร่างบางตรงหน้ามันน่าขย้ำโคตรๆ!
“อ๊ะ เสียว” ร่างบางครางออกมา เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าขยับนิ้วเข้าๆออกๆเพื่อเรียกความเสียวซ่านจากช่องทางรัก แถมยังเป็นการเบิกช่องทางรักให้กว้างขึ้นเพื่อพร้อมกับการสอดใส่อีกด้วย
“ป้ายังซิงอยู่เหรอ” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย ก่อนจะค่อยๆเร่งจังหวะขยับนิ้วเร็วและแรง แถมยังลึก
“มะ ไม่บอกหรอก” ร่างบางบอกอย่างขัดขืน ร่างกายของเธอตอนนี้มันรู้สึกเสียวมาก จนอยากจะโดนสอดใส่อย่างเต็มที่
“บอกมาเลยนะครับ” ร่างสูงแกล้งถามอย่างยั่วยวนก่อนจะสะกิดติ่งกระตุ้นต่อความรู้สึกเสียวซ่านของหญิงสาว
“อือ อืม” ร่างบางครางไม่หยุด ใบหน้าแดงเถือก อารมณ์เสียวซ่านเริ่มปะทุขึ้นมาจนอยากจะปลดปล่อย ร่างสูงเห็นว่าน้ำใสๆจากร่างบางเริ่มออกมาเรื่อยๆ จึงชักนิ้วออกมาอย่างรวดเร็วก่อนที่ร่างบางจะได้ปลดปล่อยอารมณ์กาม
“อ๊ะ เอาออกทำไม!” ร่างบางลืมตามขึ้นอย่างขัดอารมณ์ เสียงหวานตะหวาดลั่นหลังจากที่เคลิบเคลิ้มมาเนิ่นนาน
“อะไรกัน ป้าติดใจเหรอ” ใบหน้าหล่อยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน
“อะไรใครติดใจกันย่ะ!” เสียงหวานเอ่ยปฏิเสธออกมาอย่างวางมาด
เธอกำลังรู้สึกดีกับนิ้วของเขา ทำไมเขาต้องชักนิ้วออกด้วย!
“งั้นผมไม่ทำต่อให้ละนะ” ร่างสูงพูดออกมา ก่อนจะเดินออกไปตรงหน้าระเบียงห้อง
“นายจะไปไหน” ร่างบางที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นจัดการเอาผ้าขนหนูมาผันๆรอบกายที่เปลือยเปล่าอย่างลวกๆก่อนจะเดินตามเด็กหนุ่มวัยมัธยมออกไป
“วันนี้ผมพอแค่นี้ดีกว่า” กานต์เด็กวัยมัธยมส่งยิ้มอย่างจริงใจมาให้ต้นหอมที่ตอนนี้ได้แต่ยืนกัดฟันดังกรอดๆ
“นายจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น นายยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ!”
“ถามว่าอะไรเหรอครับ ผมลืมแล้ว” ร่างสูงเบ้ปากอย่างไม่รู้ไม่ชี้
“นายเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง!!!”
“ปีนมาไงครับ ไม่เห็นจะยากเลย ห้องป้าไม่ได้ล็อคกุญแจด้วย ผมกะจะมางีบหลับเฉยๆเท่านั้น แต่บังเอิญไปเห็นป้าโป๊อยู่ซะงั้น ความผิดป้าเองนะ หึ” ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่แคร์ในคำถามของอีกฝ่าย
“หน๊อย! นายมัน.... ไอ้เด็กบ้า!!!”
“บ้าแล้วรักไหมละครับ”
“ใครจะไปรักเด็กอย่างนายได้กัน ไอ้บ้า! ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้านายยังแอบเข้ามาในบ้านฉันอีก ฉันจะแจ้งตำรวจจริงๆด้วย!” ร่างบางกัดฟันดังกรอดอย่างระงับอารมณ์โทสะที่พุ่งขึ้นมาเพราะเด็กวัยมัธยม ร่างบางในตอนนี้อยากจะกระชากร่างสูงให้แหลกเป็นเสี่ยงๆเหลือเกิน
“งั้นขอบคุณสำหรับอาหารนะครับป้า ผมไปก่อนนะ อ่อ ถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับพี่ชายผมอีกละก็ ระวังผมจะทำมากกว่านี้นะ!” ร่างบางเอ่ยเสียงเข้ม แววตาของเขาดูจริงจังขึ้นมา เด็กหนุ่มมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้หน้าแดงเหมือนลูกแตงโม ก่อนจะกระโดดลงจากระเบียง
ฟิ้ว~
ตุบ!
“ไอ้บ้า กระโดดลงไปอย่างนั้นได้ยังไง!” เสียงหวานอุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นร่างสูงกระโดดลงไปอย่างไม่เป็นอะไร
“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับป้า” ร่างสูงขยิบตาให้ก่อนจะออกตัววิ่งต่อไป
“…”
หญิงสาวได้พลางแต่คิดอะไรหลายๆอย่างในใจแต่กลับไม่ได้ตะโกนตอบออกไป สายตาคู่หวานทอดมองไปยังร่างสูงที่วิ่งไปปีนกำแพงที่คั่นระหว่างบ้านของหญิงสาวกับบ้านของเขา
ว่าแต่นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ เธอยังไม่ได้ทำอะไรพี่ชายเขาเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องดูโกรธแค้นเธอนัก จนแอบเข้ามาในบ้านเธอ แถมยังมาทำเรื่องแบบนั้นกับเธออีก
“เป็นแค่เด็กบ้าแท้ๆ กล้ามาทำแบบนี้กับฉันได้ยัง” ฉันสบถกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปปิดประตูกระจกตรงระเบียง และรูดผ้าม่านปิดไว้อย่างมิดชิดไม่ให้ใครที่ไหนเข้ามาได้เป็นครั้งที่สองเด็ดขาด**
ฉันล้มลงที่เตียงอันแสนนุ่มนิ่ม ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นย้อนเข้ามาในหัวสมองของฉันอีกครั้ง แค่คิดหน้าฉันก็แดงเถือกแล้ว แถมอารมณ์ตอนนี้ยังค้างอีกด้วย จะบ้าตาย!
ฉันหลุบตาก้มลงมองช่องทางข้างล่างที่เปียกแฉะ ฉันยอมรับจริงๆว่าในชีวิตนี้ร่างกายฉันไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน แถมหมอนั่นยังเหมือนรู้ด้วยว่าฉันยังซิง น่าอายชะมัด!
“เป็นแค่เด็กม.ห้าแท้ๆ จะปีนเกลียวเกินไปแล้วนะ” ฉันถอนหายใจเบาๆอย่างระงับอารมณ์กามที่ต้องการปลดปล่อย
‘หมอนั่นมาให้อยากแล้วจากไป’ ฉันพูดในใจเบาๆ ก่อนจะใช้มือเรียวบางของตัวเองลูบไล้วนไปมาที่ช่องทางรัก
“ทนไม่ไหวแล้ว อ๊า...” ฉันครางออกมาอย่างไร้ความอดกลั้น เมื่อนิ้วเรียวยาวทั้งสามนิ้วของตัวเองสอดเข้าสอดออกที่ช่องทางรักอย่างต้องการปลดปล่อย มือบางอีกข้างพลางนวดคลึงยอดอกตัวเองเบาๆอย่างปลุกอารมณ์
“อ๊า เสียวจังเลย” เสียงหวานครางระงม ก่อนจะเร่งจังหวะสอดนิ้วเข้าออกให้รวดเร็วขึ้น
“อื้อ...” ช่องทางรักของฉันมันทั้งนุ่มและอุ่นมากๆ น้ำเหนียวๆแฉะๆเริ่มไหลออกมามากกว่าเดิม เมื่อถึงจุดที่ฉันใกล้จะปลดปล่อย
“อ๊ะ อ๊า! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันทนไม่ไหวกระตุกมือแรงๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยออกมา มันรู้สึกเสียวซ่านจนบอกไม่ถูก ตอนนี้ที่ช่องทางรักของฉันเต็มไปด้วยน้ำรักของตัวเองที่เพิ่งปลดปล่อยไป
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันช่วยตัวเอง แต่มันเป็นครั้งที่สองที่ฉันช่วยตัวเอง ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้เลย พลางคิดว่าถ้าจะมีความสัมพันธุ์ลึกซึ้งกับใครมันคงจะเสียวมากกว่านี้น่าดู...
วันรุ่งขึ้น
“ฉันมาแล้ว… เห้ย! นี่แกยังไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกเหรอ” ร่างสูงที่เดินจ้ำอ้าวเข้ามาทางประตูหน้าบ้านเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เมื่อเห็นร่างบางผู้ซึ่งเป็นน้องสาวที่ตอนนี้อยู่ในชุดไปรเวทธรรมดาๆสำหรับใส่อยู่บ้าน นอนเกือยกลิ้งอยู่บนโซฟา นัยน์ตาของยิ่งสาวเอาแต่จดจ้องอยู่กับโทรทัศน์จนไม่ได้หันไปมองพี่ชายของตัวเองเลยสักนิด
“อ้าว อะไรกันนึกว่าใคร พี่เองเหรอ มีไรอ่ะ ?” ร่างบางเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน เหลือบสายตามองพี่ชายของตัวเองที่ตอนนี้อยู่ในเสื้อสีดำคอปกที่ปลดกระดุมประมาณสองเม็ด กางเกงสีดำสนิท และรองเท้าหนังสีดำเงา ร่างบางได้แต่คิดในใจว่าจะคุมโทนดำไปถึงไหน
“อย่าบอกนะว่าแกลืมเรื่องที่บอกจะช่วยฉันนะ!?”
“ไม่ลืมหรอก มันยังไม่ถึงเวลาเลยนะ” ร่างบางหันไปมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง พบว่าพึ่งจะประมาณสองทุ่มครึ่งได้
“ฉันรู้ไงว่าแกจะสาย ฉันเลยมาก่อนเวลา แล้วแกมันก็สายจริงๆด้วย!” ร่างสูงกอดอกมองน้องสาวตัวเองอย่างเอือมระอา ความสายตลอดของยัยนี่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
“รู้แล้วค่ะๆ เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนชุดแล้ว จะแต่งสวยๆเลย”
“เออ”
20 นาทีผ่านไป
“มาแล้วค่ะคุณพี่ชาย รอนานไหมค่ะ !” ร่างบางเดินลงมาจากบันไดด้วยสีหน้าบึ้งตึง ตอนนี้เธอสวมชุดที่พี่ชายเอามาให้ เป็นชุดเดรสสีแดงสดรัดรูป แถมผิวเธอยังขาวสว่างจนทำให้ชุดดูเด่นขับกับสีผิวของเธอเสียยิ่งกระไร ใบหน้าหวานสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างเบาบาง
“ทำไมแกใส่ชุดนี้แล้วไม่เซ็กซี่เลยวะ” ร่างสูงมองร่างบางอย่างประเมิน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อ้าว! พี่พูดอย่างงี้ได้ยังไงอ่ะ ชุดมันเซ็กซี่จะตาย” ร่างบางพูดก่อนจะหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมราคาสูงมาถือไว้พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ
“ชุดอ่ะเซ็กซี่ แต่แกไม่เซ็กซี่ไง ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย”
“ปากแบบนี้น่าต่อยจริงๆค่ะ” ร่างบางเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเดินไปที่ห้องเก็บร้องเท้าของตัวเอง สายตาหวานจ้องมองร้องเท้าหลากหลายคู่ จนเลือกคู่ที่ถูกใจเหมาะกับชุดได้ ก่อนจะหยิบมันออกมาใส่ เป็นร้องเท้าส้นแหลมสูงสีแดงสวย
“ไปยัง สายแล้วเนี่ย” ร่างสูงเอ่ยบ่นๆก่อนจะเดินนำออกจากบ้านไป
ร่างบางเห็นอย่างนั้นจึงรีบสาวเท้าก้าวออกจากบ้านโดยทันที ไม่ลืมที่จะล็อคประตูบ้านให้เรียบร้อย ก่อนจะเปิดประตูรถรถสปอร์ตสีส้มสดคันหรูของผู้เป็นพี่ พร้อมกับยัดตัวเองเข้าไปนั่งในนั้น
@ผับหรูใจกลางกรุง
“แกเข้าใจที่ฉันบอกใช่ไหม” ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มอย่างออกคำสั่ง ใน ใจของเขาตอนนี้กลัวน้องสาวสายเลือดเดียวกันจะพลาดท่าทำแผนเขาพังจริงๆ
“อืม เข้าใจแล้วค่ะ อย่าลืมค่าตอบแทนหนูละ” ฉันจ้องตาพี่ชายตัวเองเขม็งเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในผับอย่างสวยๆ
ในระหว่างที่ฉันนั่งรถกับพี่ชายมา เขาก็ได้สรุปเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฉันฟัง พี่ฉันหลงรักผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งแบบรักแรกพบ ฉันเห็นรูปแล้วแหละ
เด็กคนนั้นมีใบหน้าหวานสวยได้รูป ปากเล็กจมูกหน่อย ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตา ผิวพรรณขาวสะอาดผ่องใส ส่วนสูงค่อนไปทางตัวเล็ก ตอนนี้ฉันก็พอจะจดจำใบหน้าหวานนั่นได้
แถมฉันยังได้ยินมาว่าพี่ของฉันให้ลูกน้องของตัวเองไปสืบมาว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่คณะอะไร แล้วมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้พี่ชายฉันมาขอความช่วยเหลือจากฉัน อยากจะเบ้ปากมองบนแรงๆชะมัด
ฉันพอรู้จะประวัติของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาคร่าวๆบ้างแล้ว เธอชื่อว่า ‘มินตรา’ เรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ ปีหนึ่ง นิสัยร่าเริงแจ่มใสเฟรนลี่เฟรชชี่สุดๆ น่าหมั้นไส้ชะมัดเลย ทำไมฉันเห็นรูปเธอครั้งแรกก็รู้สึกไม่ถูกชะตาซะแล้ว
คงจะสงสัยกันใช่ไหมละค่ะ ฉันไม่คิดจะช่วยพี่ชายฉันฟรีๆหรอก ของแบบนี้ต้องมีค่าตอบแทนกันมั่ง ฉันขอให้พี่ชายสืบประวัติทั้งหมดของกันต์ พร้อมกับรูปถ่ายหลายๆใบ ฉันยังไม่ได้บอกกับพี่ชายของฉันว่ากันต์คือใคร ได้แต่บอกว่ามีคนที่แอบชอบ ถ้าเสร็จงานนี้ฉันจะทวงสัญญาแน่ หึหึ
“หนูไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเลยอ่ะ” ฉันสะกิดชายเสื้อผู้เป็นพี่เบาๆ พลางกระซิบกระซาบที่ข้างหู
“แกอิจฉาเขาว่างั้นเลยไม่ชอบหน้า ?” ร่างสูงเลิกคิ้วถามอย่างงุนงง
“ไม่ใช่สักหน่อย!” ฉันปฏิเสธอย่างทันควัน
“ยัยต้นหอม แกเห็นโต๊ะนั้นใช่มั้ย!?” พี่ชายดึงแขนฉันแรงๆให้เดินตามเขามาเพื่อมองไปยังโซน VIP ได้อย่างชัดเจน ก่อนจะชี้ไปยังโต๊ะที่มีเด็กสาวร่างบางใบหน้าหวานสวยนั่งหัวเราะอยู่กับเพื่อนๆที่ร่วมโต๊ะ ฉันมองหน้าเด็กคนนั้นสักพัก สายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนนั่งอยู่ข้างๆยัยนั่นด้วย
“กันต์!” ฉันอุทานออกมาอย่างเผอเรอ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปิดปากตัวเองไว้ทันที ทำให้พี่ชายหันมามอง
“ห๊ะ แกพูดว่าอะไรนะ ?” ร่างสูงไม่ได้ยินเสียงร่างบางที่เผลออุทานออกมา เพราะเสียงเพลงในผับนั้นดังมากจนกลบเสียงพูด
ตอนนี้ใจฉันเต้นไม่เป็นส่ำ กันต์มาอยู่ที่นี่ด้วย ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ละ หรือว่ามาเที่ยวกับเพื่อน ฉันยังคงยืนสอดส่องผู้คนที่นั่งร่วมโต๊ะกับเขา สายตาก็มองไปเห็นใบหน้าที่คุ้นชิ้น ‘เอิร์ธ’ เขามากับกันต์ด้วยเหรอเนี่ย! มีแต่คนที่ฉันรู้จักทั้งนั้น ฉันไม่ทำตามแผนของพี่ชายแล้วได้ไหม T^T
“หนูขอถอนตัวได้ไหม....” ฉันพูดเสียงเบาก่อนจะทำสายตาอ้อนวอนให้พี่ชายสงสาร
“ไม่ได้!!!” เสียงเข้มเอ่ยอย่างหนักแน่น
“หนูต้องทำจริงๆใช่ไหม”
“เออ!!!”
กระซิกๆ ฉันต้องหน้าด้านอายอดทำตามแผนของพี่จริงๆสินะ ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินแนบเคียงกับพี่ชายของฉันขึ้นไปยังชั้นVIPสุดหรู ฉันเดินฉับๆไปยังโต๊ะโต๊ะหนึ่งเป็นโต๊ะเฉพาะของพี่ชาย ที่มีเพื่อนๆของพี่ชายนั่งเรียงล้อมกันอยู่สองคน
“ทำไมพวกมึงมาเร็วกันจังเลยวะ” เสียงพี่ชายฉันเอ่ยขึ้นถามไถ่เพื่อนทั้งสองของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงที่โซฟาหรู
“มาดูรอแกจีบสาวไง ฮ่าๆ” หนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พร้อมกับหัวเราะขำๆ
“สวัสดีค่ะพี่คิว พี่ชิน” ฉันเอ่ยทักทายพวกเขาทั้งสองที่ตอนนี้กำลังกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก พวกพี่เขาหันมายิ้มๆให้กับฉันก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนม คงไม่แปลกหรอกที่ฉันจะสนิทสนมกับพวกเขาทั้งสอง เพราะว่าเพื่อนทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย เขามักจะมาเล่นที่บ้านของฉันบ่อยๆ จนคุ้นชิ้นกัน
“ได้ข่าวว่าน้องต้นหอมจะมาช่วยไอ้ต้นไม้จีบสาวเหรอครับ” พี่ชินเอ่ยถามขึ้นมา ฉันพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะก้มลงกดโทรศัพท์ เปิดแอพไลน์ขึ้นมาอ่าน
เอ๊ะ ฉันจ้องมองแอพไลน์อย่างแปลกใจเมื่อเปิดเข้าไป มีคนทักฉันมาเมื่อสักครู่นี้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว รู้สึกจะเป็นคนที่ฉันไม่รู้จักซะด้วยสิ ฉันกดดูโปรไฟล์ของคนที่ส่งมา แต่กลับไม่มีรูปอะไรเลยที่บ่งบอกว่าเป็นใคร
Earth ET : สวัสดีครับ
ฉันจ้องข้อความอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
Tonhom : สวัสดีค่ะ ใครเอ่ย ?
“เฮ้ย ต้นหอม ฟังที่ฉันพูดอยู่รึเปล่า” พี่ต้นไม้หันมาพูดกับฉันก่อนจะจ้องเขม็ง
“ห๊ะ? ว่าไงนะ” ฉันละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะจ้องมองหน้าพี่ชายอย่างงุนงง
“จำแผนที่ฉันบอกให้แกเข้าไปใกล้ชิดกับมินตราได้ไหม”
“ได้ ทำไมเหรอ ?”
“ฉันเปลี่ยนแผนแล้ว ฉันจะให้แกไปจัดการผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆมินตราแทน ขวางหูขวางตาฉันชะมัด” ร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะหันไปมองที่โต๊ะโต๊ะหนึ่งที่มีเด็กสาวที่เขาหลงรักนั่งอยู่ พลางเหลือบมองไปยังผู้ชายที่นั่งข้างๆเธอ
“จัดการผู้ชายคนนั้นนะเหรอ!?” ฉันชี้ไปยังกันต์ที่นั่งข้างๆมินตรา
“ใช่ ฉันรำคาญมันว่ะ เมื่อกี้เห็นแม่งโอบไหล่กันด้วย ”
“ … ”
ว่าไงนะ กันต์โอบไหล่เด็กคนนั้นเหรอ ฉันได้แต่พูดในใจไม่กล้าพูดออกมา กลัวพี่ฉันจะได้ยิน และรู้ได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่ฉันแอบชอบ ฉันเห็นวี่แววว่าพี่ชายดูจะไม่ชอบกันต์เอามากๆ
“แล้วฉันต้องทำยังไงอ่ะ”
“เฮ้ย ไอ้ต้นไม้ มึงจะให้น้องมึงเสี่ยงกับไอ้เด็กข้างๆมินตราจริงๆเหรอวะ...” พี่คิวหันไปกระซิบกระซาบที่ข้างหูของพี่ต้นไม้อย่างแผ่วเบาทำให้ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย
“ทำไมว่ะ ?”
“ไอ้เด็กนั่นมันเป็นตัวอันตรายนะเว้ย...”
“อันตรายไงว่ะ ?”
“...” ร่างสูงนิ่งเงียบ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆแล้วพูดต่อ
“มันแย่งแฟนกูไป มันมีอะไรกับใครไปทั่ว คิดว่าผู้หญิงทุกคนเป็นแค่เพื่อนของมัน แต่แฟนกูก็ยังหลงเสน่ห์มันตอนไปอยู่อเมริกา เลยนอกใจกูไปหามัน สุดท้ายก็โดนมันเขี่ยทิ้ง กูได้ข่าวจากลูกน้องมาว่า วันนี้มันจะหลอกมินตราไปฟัน”
“ไอ้เด็กนั่นเนี่ยนะ หน้าตามันดูไมได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นเลยนะเว้ย !?”
“มึงก็ลองให้น้องมึงไปยุ่งกับมันดิ เดี๋ยวก็รู้ แต่กูว่ามึงอย่าเสี่ยงเลย”
“ถ้ากูไม่เสี่ยง มินตราก็จะเสียซิงว่างั้น ?”
“เออ ก็คงงั้น”
“หึ กูจะให้น้องกูไปยุ่งกับมัน น้องกูเอาตัวรอดเก่งอยู่แล้ว รู้ทันผู้ชาย ไม่โดนหลอกง่ายๆหรอก”
“เห้ย มึงเอาจริงดิ!?”
“เออ กูจะไม่ให้มินตราเสียซิง กูรักผู้หญิงคนนั้นจริงๆ... แล้วก็จะไม่ให้น้องสาวกูเจออันตรายเด็ดขาด กูปกป้องทั้งสองคนได้” ร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น ก่อนจะคิดถึงเรื่องอดีตที่เกิดขึ้นกับเขาและมินตรา ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขาก็ไม่เคยลืมเลือนเลยสักครั้งเดียว