บทที่ 6
แอบเข้าบ้าน
“เสร็จสักที!” ฉันกดชัตเตอร์ที่กล้องถ่ายรูปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพูดออกมาอย่างโล่งอก ในที่สุดการทำโปรเจคก็เสร็จสิ้นสักที เหลือแค่แต่งรูปให้มันดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ถึงยังไงฉันว่าไม่ต้องแต่งอะไรมากมายพวกเขาทั้งสองคนก็ดูดีโคตรๆอยู่แล้วอ่ะ
สิ้นสุดเสียงของเอิร์ธที่บอกออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะให้กานต์มาถ่ายรูปคู่กับเขาด้วย ฉันเลยตกลงกับมิวสิคว่าจะเปลี่ยนแนวถ่าย เป็นการสื่อถึงมิตรภาพของเพื่อนสนิททั้งสองคน ฉันคิดว่ามันโอเคเลย อาจาร์ยเห็นคงจะปลื้มน่าดู แถมพวกเขายังหล่อแพ็คคู่อีกด้วย
ฉันใช้เวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมงจึงจะถ่ายเสร็จ แสงในยามบ่ายดูไม่จ้าเกินไปไม่มืดเกินไป อากาศที่เย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวพวกเขา ทำให้ภาพของพวกเขาน่าดึงดูดและค้นหา
แถมด้วยความขี้เล่นของคนทั้งสอง มันดูน่ารักน่าชังจนคนแถวนี้แอบมองกันเป็นตาเดียว พวกเขาถ่ายทอดสีหน้าและท่าทางได้เป็นธรรมชาติสุดๆ ทำให้ฉันกับยัยมิวสิคโคตรจะตื้นตันใจ! ไม่เสียแรงเปล่าที่พวกฉันเลือกนายทั้งสองเลย
“เฮ้ย! หกโมงแล้วอ่ะแก” มิวสิคสะกิดแขนฉันแรงๆ ฉันจ้องมองที่นาฬิกาข้อมือเรือนใหญ่ก็พบว่าตอนนี้ห้าโมงสี่สิบเจ็ดแล้ว ถ่ายเพลินจนลืมดูเวลาเลยเหรอเนี่ย
“แกจะไปแล้วเหรอ” ฉันถามออกไป พลางก้มหน้าก้มตาเก็บอุปกรณ์กล้องถ่ายรูปใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย ก่อนจะยกขึ้นสะพายบ่า ตาหวานจ้องไปที่เบ้าหน้าของเพื่อนรัก
“เออดิ ต้องไปแล้วอ่ะ เย็นแล้ว เกือบลืมเลย!” มิวสิคเอ่ยออกมา ประโยคท้ายหลังหันไปพูดกับเอิร์ธที่ตอนนี้กำลังนั่งดูดน้ำผลไม้ปั่นอยู่
“หืม ?” เอิร์ธขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเห็นมิวสิคหันมาพูดด้วย
“ค่าจ้างนายไง เอาเท่าไรอ่ะ” มิวสิคก้มค้นหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าสะพายตัวเอง
“ ฉนไม่เอาเป็นเงินหรอก” เอิร์ธบอกปัด ก่อนจะพูดกระซิบเบาๆที่ข้างหูของมิวสิค ทำให้ฉันกับกันต์ไม่ได้ยินเสียงใดๆทั้งสิน “ ขอเบอร์เพื่อนเธอแทนได้ป่ะ ”
มิวสิคลังเลใจอยู่พักใหญ่ แต่ก็ตัดสินใจให้เบอร์โทรของต้นหอมไป พลางคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก
“หลงเสน่ห์เพื่อนฉันรึไง” มิวสิคถามออกมาอย่างหยอกล้อ
“อืม ก็นะ น่ารักดีว่ะ อยากจีบ” เอิร์ธหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะฉีกยิ้มให้ พลางมองไปทางมิวสิคที่ตอนนี้กำลังยืนคุยกับกันต์อย่างสนุกนาน
“ฉันว่าคงยากอ่ะ” มิวสิคมองตามไปตามสายตาของเอิร์ธที่ทอดมองออกไปมองคนทั้งสอง
“ไม่ลองก็ไม่รู้สิครับ”
“งั้นพยายามเข้าละ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชอบเพื่อนนายเท่าไร มีไรก็ให้ฉันช่วยได้นะ” มิวสิคตบไหล่เอิร์ธเบาๆอย่างให้กำลังใจ
เขากับเธอเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ไส้รู้พุงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นวีรกรรมอะไรต่างๆ หรือแม้กระทั่งความลับอะไรใดๆทั้งสองก็ไม่เคยคิดที่จะปิดบังกัน ทำให้เอิร์ธและมิวสิคต่างเชื่อใจกันมาก และเชื่อว่าไม่มีใครที่คิดจะหักหลังกัน
“ฉันว่าเธอคงต้องช่วยฉันหลายเรื่องแล้วละ”
“ฉันเกลียดรอยยิ้มแบบนั้นของนายชะมัด” มิวสิคเอ่ยก่อนจะรีบเดินไปหาต้นหอม พร้อมกับบอกลาคนทั้งสอง และยังไม่ลืมบอกลาคนที่ยืนฉีกยิ้มหน้าบานอยู่ตรงหน้า พร้อมกับรีบขับรถออกไปอย่างเร่งรีบทันที
ฟิ้ว~
เสียงลมธรรมชาติพัดผ่านไปอย่างแผ่วเบา ฉันยืนคุยเรื่อยเปื่อยกับกันต์มาเนินนาน สำหรับเขาในสายตาฉัน เขาดูเป็นคนที่คุยสนุกมากๆ แถมยังเฟรนลี่สุดๆ อีกทั้งยังสนิทสนมกับเพื่อนในคณะและต่างคณะ แถมรอยยิ้มที่เขายิ้มมาให้ยังกระฉากใจฉันสุดๆ!!
“กันต์ คือว่า... ขอไลน์หน่อยได้ไหมอ่ะ” ฉันทำใจกล้าก่อนจะพูดออกไป เขาทำหน้าตาลำบากใจนิดหน่อย ก่อนจะเอาโทรศัพท์ของฉันไปพิมพ์ไอดีไลน์ของตัวเอง
“อ่ะนี่ มีอะไรก็ทักมาได้นะ” เขาส่งยิ้มเบาๆมาให้ฉัน
“อะ อือ! ขอบคุณนะ” ฉันว่าพลางหยิบโทรศัพท์เก็บไว้ที่เดิม
“เฮ้ๆ! มัวแต่ยืนคุยอะไรกันอยู่อ่ะ” เอิร์ธกล่าวออกมา ก่อนจะเดินไปกอดคอของกันต์อย่างสนิทสนม ตอนนี้ยัยมิวสิคก็เผ่นกลับไปแล้ว แถมฉันยังต้องไปทำธุระต่ออีกด้วย ขอตัวกลับก่อนดีกว่า
“กันต์ เอิร์ธ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ พอดีมีธุระอ่ะ” ฉันพูดพลางโบกมือลาทั้งสองคน พวกเขาพยักหน้าให้ฉันเหมือนกับรับรู้ในสิ่งที่ฉันพูด เห็นดังนั้นฉันจึงรีบขับรถกลับบ้านไปทำธุระโดยทันที
@Tonhom Home
“มาช้า!” เสียงทุ้มต่ำตะโกนขึ้นมา ทำให้ร่างบางที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในบ้านถึงกับตกใจในทันที นัยน์ตาหวานจ้องมองคนตรงหน้าอย่างสำรวจ
“แกไปไหนมา ฉันบอกให้กลับบ้านมาเร็วๆ” ร่างบางทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างอารมณ์เสีย
“ไปทำงานมา” ฉันถอนหายใจเบาๆ
“งาน ?” คิ้วหน้าขมวดเข้าด้วยกัน
“โปรเจคถ่ายรูปของมหาลัยอ่ะ นี่ก็เพิ่งทำเสร็จครึ่งนึงเอง ว่าแต่พี่มีอะไร ไลน์มาหาเมื่อตอนบ่าย ว่าแล้วเชียวต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ” ฉันถามออกไปอย่างจับผิด ก่อนจะจ้องมองหน้าหล่อได้รูปที่ตอนนี้กำลังทำท่าทางอึดอัก
“ฉันมีเรื่องให้แกช่วยว่ะ...” น้ำเสียงของผู้เป็นพี่ดูอ่อนลงขึ้นมา
ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยจะกลับบ้านมาดูแลฉัน แต่เวลาตัวเองมีปัญหาถึงมาหาฉันเนี่ยนะ ไอ้พี่บ้า! ฉันละอยากจะไล่เขาออกจากบ้านไปเลยจริงๆ
“เรื่องอะไร ?” ฉันว่าพลางหยิบกระเป๋ากล้องและกระเป๋าสะพายของตัวเองวางไว้บนโต๊ะ
“ผับที่ฉันทำอยู่อ่ะ แกเองก็รู้ใช่ป่ะว่าตอนนี้ฉันก็ยังเปิดกิจการผับนั่นอยู่”
“อืม แล้วไง ?” ฉันขมวดคิ้วอย่างสงสัยในคำบอกเล่า
พี่ชายของฉันเป็นเจ้าของผับใหญ่แห่งหนึ่งใจกลางกรุง มีลูกค้าเข้ามาอย่างล้นหลามในทุกๆวัน สาวเล็ก สาวใหญ่ หญิงเทียม ชายโฉด แถมเด็กเสริ์ฟที่นั่นยังหน้าตาดีสุดๆ อ๋อ! ลืมบอกไป พวกระดับVIPที่นั่นนะ ล้วนเป็นแต่คนใหญ่คนโตในแวดวงสังคมทั้งนั้น
“แกจะยอมช่วยฉันป่าววะ” ร่างสูงถามเสียงจริงจัง
“บอกมาก่อนดิ”
“ ฉันเป็นพี่แกนะ แกต้องช่วยฉันดิ”
“ พี่ก็บอกมาก่อนสิคะ ว่าจะให้ช่วยอะไร หนูจะได้คิดดูก่อน”
ร่างสูงชะงักลงนิดนึงก่อนจะเอ่ยปากพูดออกมา
“ฉันชอบผู้หญิงคนนึงที่นั่นอ่ะ...”
“แล้ว ?” ฉันเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจ ฉันหูไม่ฝาดไปใช่ไหม พี่ชายฉันพูดคำว่า ‘ชอบ’ ออกมา!
“แกช่วยฉันจีบผู้หญิงคนนั้นหน่อยดิ!” ร่างสูงพูดออกมาอย่างหัวเสีย ฉันมองพฤติกรรมของคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ พลางคิดหน้าผู้หญิงที่พี่ชอบอย่างคร่าวๆ
ตั้งแต่เกิดมาพี่ชายของฉันยังไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยนะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันอ่ะ!?
“จีบยังไง”
“เออน่า เดี๋ยวก็รู้เอง เอานี่ไป” ฉันมองตามพี่ชายไป เห็นพี่ของฉันเดินไปหยิบถุงอะไรบางอย่างก่อนจะยื่นให้ฉันรับมาอย่างงงๆ
“เอาอะไรมาให้หนูอ่ะ” ฉันกระพริบตาปริบๆพร้อมกับจ้องมองข้างในถุง
“ลองใส่ชุดนี้ซะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันออกมารับตอนสามทุ่ม”
“พรุ่งนี้หนูไม่...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ พี่ชายของฉันก็ชิงพูดตัดหน้าก่อน
“ฉันรู้ว่าแกไม่มีเรียน อย่ามาอ้างว่าไม่ว่าง” ร่างสูงรู้ทันร่างบางที่ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะช่วย
“โถ่! รู้ทันอีกละ ช่วยก็ช่วย” ฉันเบ้ปาก ก่อนจะจำใจให้ความช่วยเหลือกับพี่ชายสายเลือดเดียวกันอย่างช่วยไม่ได้
ฉันลืมแนะนำพี่ชายของตัวเองเลย! เอาละ มาแนะนำอย่างคร่าวๆดีกว่า ฉันขี้เกียจจะอธิบายอะไรมากมาย เขาอายุประมาณยี่สิบห้าปี ชื่อว่า ‘ต้นไม้’ ตอนนี้ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ ซึ่งนั่นก็คือผับหรูหราใจกลางกรุงนั่นเอง
“ฉันไปก่อนนะ ต้องไปดูแลแขกVIPต่อ”
“ค่าาา เชิญกลับไปทำงานต่อเลย”
“พรุ่งนี้... อย่าลืม!!!” ร่างสูงเน้นเสียงเข้ม ก่อนจะเดินจ้ำอ้าว ขับรถหรูออกไปจากบ้านโดยทันที
“เหนื่อยเป็นบ้า” ฉันเดินขึ้นบันไดมาถึงห้องนอน ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า พลางกดโทรศัพท์เลื่อนขึ้นลงไปมา
เอ๊ะ!? ทำไมฉันรู้สึกว่าเตียงมันยุบลงแปลกๆ หรือว่าฉันน้ำหนักขึ้น!? ไม่ใช่แล้ว! คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง...
ฉันจ้องมองไปยังเตียงขนาดคิงไซส์ที่มีตุ๊กตาน่ารักๆวางไว้ล้อมรอบเตียงนอน พร้อมกับหมอนข้างใบเบ่อเร่อที่มีถึงสองใบ ตอนนี้หมอนข้างทั้งสองใบโดนผ้าห่มผืนใหญ่ๆคลุมไว้อยู่
แต่อีกใบมันใหญ่กว่าปกติรึเปล่านะ!?
ฉันเห็นดังนั้นจึงไม่คิดอะไรมากให้ปวดหัว จึงจัดการถอดเสื้อ กระโปรง บราเซีย และกางเกงชั้นในตัวจิ๋วทิ้งไว้ในห้อง ก่อนจะเดินพันผ้าขนหนูไปในเข้าห้องอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่วันนี้เหนื่อยล้ามาอย่างเต็มที่ พอฉันอาบน้ำและนุ่งผ้าขนหนูเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาคู่สวยพลันไปเห็นถุงกระดาษที่ในนั่นมีเสื้อผ้าที่พี่ชายเอามาให้
“ลองดูหน่อยดีกว่า” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่อยู่ในถุงออกมา
ฉันเดินไปที่หน้ากระจกใกล้ๆกับตู้เสื้อผ้า ก่อนจะจัดแจงถอดผ้าขนหนูผืนเล็กออก พลางคลี่เสื้อที่ถูกพับอยู่ออกมาดู
“ทำไมมันสั้นอย่างงี้เนี่ย” ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดเดรสสั้นสีแดงสดรัดรูป ฉันมองตัวเองผ่านกระจก หุ่นสวยได้รูปของฉันแนบชิดไปกับเนื้อผ้าชิ้นน้อย ฉันสำรวจร่างกายของตัวเองว่าเหมาะกับชุดนี้ไหม ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
พอฉันสำรวจดูความเรียบร้อยเสร็จแล้ว ฉันก็ถอดชุดนั้นออก พรุ่งนี้ฉันต้องใส่ชุดนี้ไปกับพี่ฉันสินะ เอ่อ... แล้วทำไมพี่ถึงรู้ไซส์ฉันได้ละเนี่ย ? ถึงจะคับไปหน่อยก็เหอะ
ฉันมองเห็นเรือนร่างตัวเองที่โป๊เปลือยไม่ได้ใส่อะไรอยู่ในกระจก แต่ใจก็ต้องกระตุกวูบ เมื่อเห็นอะไรข้างหลัง...
“กะ กรี๊...”
“ชู่วววว”
“อ่อยอะ!!! (ปล่อยนะ!!!)”
“เงียบๆสิ อย่าโวยวาย!”
จะไม่ให้ฉันโวยวายได้ยังไงละ สิ่งที่ฉันเห็นในกระจกจากทางด้านหลังของฉันก็คือเด็กผู้ชายข้างบ้าน ‘กานต์’ เขาเข้ามาในบ้านฉัน ห้องฉันได้ยังไง แถมยังเห็นตอนฉันกำลังเปลือยเปล่าอีก โถ่! ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนละเนี่ย ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเคยเห็นฉันโป๊แบบนี้เลยนะ
พี่จ๋า ช่วยหนูด้วย ฮือๆ
“อ่อยอันอะ (ปล่อยฉันนะ)” มือหนากุมเข้าปิดปากของฉัน ทำให้ฉันได้แต่ส่งเสียงร้องที่ไม่เป็นภาษา พร้อมกับขัดขืนเขาไปมา อย่างไร้หนทาง
“อ่ะๆ ปล่อยแล้ว เงียบๆซะ” ร่างสูงเอ่ยก่อนจะผลักฉันล้มลงไปนอนที่เตียง ตามด้วยร่างสูงที่ทับลงมาอีกที
“นะ...นายเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง!!! O///O” ฉันเอ่ยถามออกไปอย่างเขินอาย หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมา พลางจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง มือก็ควานหาอะไรมาปกปิดร่างกายตัวเอง แต่แล้วก็ถูกเขาจับข้อมือเอาไว้ ทำให้ฉันไร้หนทางที่จะขยับร่างกายเตะต่อยเขาเพื่อขัดขืน
“ฉันรู้นะว่าวันนี้เธอไปถ่ายรูปกับพี่ของฉัน”
“แล้วไง เกี่ยวอะไรกับนาย” ฉันใจกล้าพูดออกไปเสียงแข็ง
“ฉันเตือนเธอแล้วไม่ฟังเองนะ” นัยน์ตาคมเข้มมองสำรวจร่างบางที่เปลือยเปล่า ไม่มีอะไรมาปกปิด ก่อนจะค่อยๆเอามือเรียวหนาลูบไล้ไปที่ต้นขาของร่างบางที่ตอนนี้นอนอยู่ ไร้หนทางขัดขืนเขา
“นะ นายจะทำบ้าอะไรเนี่ย!” ฉันตาลุกวาวทันที เมื่อมือของเขามาสัมผัสที่ต้นขาของฉัน หน้าของฉันเริ่มแดง ใจเริ่มเต้นรัว เขาคิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่!
“ลงโทษป้าไง” จู่ๆเขาก็เปลี่ยนสรรพนามที่เรียกฉัน พร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปาก มือหนาของร่างสูงลูบไล้ไปทั่วตัวของร่างบางอย่างเสียวซ่าน
“ฉันจะแจ้งตำรวจ นายบุกรุกบ้านของฉัน!” ฉันขัดขืน โดยการดิ้นไปมาอย่างไม่ยอมแพ้
“ทำได้ก็ลองดูสิ” ร่างสูงยกยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะก้มหน้าไปซุกไซร้ที่คอขาวของร่างบาง ทำให้ร่างบางหน้าแดงมากกว่าเดิม ใจก็เต้นแรงกว่าเดิมอย่างทีไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าหล่อซุกไซร้ต้นคออย่างหยอกล้อ ก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นร้อนเลียต้นคอขาวสวยของร่างบาง
“ออกไปนะ!” ฉันสะดุ้งเฮือก ก่อนจะผลักร่างสูงให้ขยับออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล
“อย่าดิ้น” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น
“ปละ...” ฉันอ้าปากกำลังจะตะโกนใส่หน้าเขา แต่กลับเป็นริมฝีปากของร่างสูงที่มาประกบริมฝีปากของฉันแทน ทำให้ฉันต้องจำยอมใจรับจุมพิตที่วาบหวาม ลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กของฉันไปมาอย่างหยอกล้อ
“อือ” ร่างบางครางอย่างแผ่วเบา หลับตาแน่นปี๊อย่างคนขาดอากาศหายใจ ก่อนจะใช้มือขย้ำที่เสื้อของร่างสูงแรงๆ ทำให้ร่างสูงต้องผละริมฝีปากออกมา
“ป้าครางด้วย ชอบรสจูบผมอ่ะดิ” ใบหน้าได้รูปเอ่ยขึ้น พลางเหลือบไปมองที่หน้าอกของร่างบางซึ่งไร้การปกปิดใดๆทั้งสิ้น มันใหญ่ซะจนน่าหนักใจจริงๆ! ร่างสูงกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ สายตาก็จับจ้องอยู่ที่หน้าอก ทำให้ร่างบางที่นอนอยู่รู้สึกตัว จนต้องรีบเอามือมาปกปิดโดยทันที
“ไอ้โรคจิต! ออกไปจากบ้านฉันเลยนะ” ฉันใช้มืออีกมือหนึ่งหยิบหมอนที่อยู่ใกล้ๆมือ พร้อมกับฟาดลงไปที่หน้าของร่างสูง ตอนนี้เขาคล่อมอยู่บนร่างของฉัน
ตุบ!
“งั้นก็ต้องเลิกยุ่งกับพี่ผม” ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มอย่างไม่สะทกสะท้านที่โดนหมอนฟาดหน้าหล่อๆเข้าไปเต็มๆ “ แรงป้าโคตรน้อยเลยวะ ”
“เอามือออกไปเลยนะ!” ร่างบางตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นมือหนาของร่างสูงมาสัมผัสลูบไล้บริเวณหน้าอกของตัวเอง ร่างสูงรู้ทันว่าร่างบางจะขัดขืนจึงจับมือของร่างบางรวบขึ้นอย่างรวดเร็ว มือหนาอีกข้างกำข้อมือเรียวเล็กทั้งสองไว้อย่างไม่น่าเชื่อ
“นมป้าโคตรใหญ่เลยวะ ขอผมชิมหน่อยนะ” ร่างบางยกยิ้ม ก่อนจะค่อยๆใช้มือหนาของตัวเองลูบไล้หน้าอกของคนตรงหน้าอย่างเสียวซ่าน ทำให้ร่างบางดิ้นขัดขืนไปมา ริมฝีปากหนาได้รูปจูบที่อกสวยเต่งตึงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นร้อนเลียยอดอก พร้อมกับงับเบาๆ ทำให้ร่างบางถึงกับครางออกมาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นร่างสูงจึงค่อยๆดูดยอดอกสีชมพูสวยที่ตอนนี้กำลังชูชันต่อหน้าเขาด้วยความเสียว
“อะ อือ” ร่างบางพยายามกลั้นเสียงครางที่เล็ดลอดออกมา ทำให้ร่างสูงยิ่งอยากจะกลั้นแกล้งเข้าไปใหญ่
ทำไมยัยป้าน่ารักได้ขนาดนี้วะ!
ร่างสูงได้เพียงคิดในใจ ก่อนจะใช้ริมฝีปากดูดเข้าที่หน้าอกได้รูปจนเกิดรอยแดง มือหนาลูบไล้ไประหว่างขา จนร่างบางต้องหุบขาด้วยความเสียวซ่าน ร่างสูงมองหน้าร่างบาง พลันหน้าแดงไปด้วย
“ป้าชอบสัมผัสของผมอ่ะดิ ฮ่าๆ” ร่างสูงถอนริมฝีปากออกมา ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“จะบ้าเหรอ ใครจะไปชอบเด็กอย่างนายกัน!”
“เด็กอย่างผมมันไม่เร้าใจป้าว่างั้น ?”
“ใช่! เด็กแก่แดดอย่างนายไม่เร้าใจฉันสักนิด สู้คนอื่นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!” สิ้นเสียงของร่างบาง ทำให้อารมณ์ของร่างสูงขาดผึง ตอนนี้อารมณ์โกรธเริ่มปะทุเข้ามาแทนที่อารมณ์ที่อยากจะหยอกล้อ
“เหรอ งั้นผมขอลองดูหน่อยละกัน ป้าอาจจะติดใจขึ้นมาก็ได้ หึ!”