หัวหน้าทีมจากแผนกต่างๆ ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการรายงานโครงการและงบดุลประจำไตรมาสแรกของปีต่างทยอยเข้ามานั่งประจำเก้าอี้ก่อนผู้ถือหุ้นหลายคนจะเดินเข้ามาภายใน รณภพเข้าไปสวัสดีทุกท่านอย่างมีมารยาท อุ้มลูกพามาแนะนำเพื่อแจ้งให้ทราบว่าจะมีตัวป่วนมาสร้างบรรยากาศยุ่งๆ ให้การประชุมในวันนี้ ทว่าทุกท่านก็ดูเหมือนจะยินดีและหลงในความน่ารักของแกทว่ามีเพียงคนเดียวที่พูดขัด
“อวดลูกอยู่ได้ เริ่มเข้าเรื่องสักทีสิ ที่ยอมเสียเวลามาประชุมวันนี้ตั้งใจจะมาฟังผลการดำเนินงานไม่ได้ตั้งใจมาฟังว่าไปทำท่าไหนถึงได้เด็กชายตัวอวบอ้วนหน้าตา… น่ารัก คนนี้มา” ฐานัส หนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับรณภพเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ ดวงตาคู่นั้นคมกล้าทว่ามีความคล้ำกระจายเป็นวงกว้าง ไม่ปิดบังเลยว่าภายใต้ดวงตาคู่นั้นมันแฝงลึกไปด้วยความเกลียดชัง
“กำหนดการเริ่มประชุมคือสิบโมงตรงแต่ตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมงห้าสิบแปด แต่ไม่เป็นไร เพื่อให้คุณฐานัสสบายใจผมเริ่มการประชุมตอนนี้เลยก็ได้ คุณรส” ตวัดหางตากลับไปมองเลขาส่งตัวลูกชายไปให้เธอช่วยดูแล รณภพเกลียดชังน้ำหน้าฐานัสไม่ต่างจากที่มันเกลียดและพยายามจะแย่งตำแหน่งรองประธานบริษัทจากเขา แต่เสียใจด้วยเพราะเขาคือทายาทโดยตรงที่มีสิทธิ์ในการขึ้นเป็นประธานบริษัทคนถัดไป
บรรยากาศในห้องประชุมเย็นขึ้นมากอันเนื่องมาจากรัศมีความเกลียดชังที่สองหนุ่มคอยส่งให้กัน รณภพคอยควบคุมสถานการณ์ในห้องประชุมพลางฟังลูกน้องใต้สายการบังคับบัญชารายงานผลการดำเนินงานภายในบริษัท โครงการที่จบลงไปแล้วทำกำไรได้เท่าไหร่ และโครงการที่กำลังจะเริ่มมีอะไรบ้าง การประชุมในวันนี้ยังรวมไปถึงเรื่องความมั่นคงทางการเงินของบริษัทที่มีมูลค่าเพิ่มจากปีที่แล้วหลายหมื่นล้าน รณภพมือหนึ่งก็จับลูกให้นั่งนิ่งๆ ส่วนสายตาเขาคอยส่งไปให้ไอ้ฐานัสกับเลขาหนุ่มคู่ขาของมัน ท้าทายมันทางสายตาว่ามีปัญญาทำธุรกิจให้ได้กำไรมหาศาลเหมือนอย่างที่เขากับเจ้าสัววิทยาผู้เป็นพ่อได้หรือเปล่า คนขี้แพ้อย่างมันธุรกิจเดียวที่ทำแล้วไปรุ่งก็คงจะมีแต่บ่อนการพนันแถบชายแดน!
“และทั้งหมดนี้ก็คือเนื้อหาของการประชุมในวันนี้ ขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่เสียสละเวลามาฟังผลการดำเนินงาน หลังจากนี้จะเปิดให้ตั้งคำถามทุกเรื่องที่ทุกท่านสงสัยนะครับ ผมจะเป็นคนตอบเอง เชิญครับคุณอากิตติ” หนุ่มหล่อนั่งบนแท่นประธานบริษัทผายมือเชิญนักลงทุนท่านแรกที่ยกมือขึ้น
“อาสงสัยเรื่องโปรเจ็คร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยออลสตาร์ของท่านภูธเนศ เคยได้ยินท่านเจ้าสัวเคยเกริ่นๆ ไว้ ตอนนี้โครงการดำเนินไปถึงไหนแล้ว”
“กำลังจีบๆ พี่หมอกอยู่ครับ ช่วงนี้ทางไทยออลเขาโครงการใหญ่ๆ เพียบ แต่เท่าที่ร่างโครงการไว้คือจะเป็นช่วงของงบประมาณปีถัดไปยังบอกไม่ได้ว่าจะทำอะไร กระซิบได้แค่เป็นโปรเจ็คก่อสร้างร่วมกันระดับนานาชาติครับ”
“แล้วเรื่องสัญญาล่ะ ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว”
“เป็นสัญญาใจก่อนครับ เพราะทั้งผมและทั้งพี่หมอกก็ยังไม่มีเวลามาลุยเต็มที่ แต่ไม่ว่าจะยังไงโครงการนี้จะเกิดขึ้นแน่นอนและถ้าสัญญาถูกร่างขึ้นเมื่อไหร่ผมจะให้เลขาส่งเอกสารแจ้งให้ทุกท่านทราบ”
“สัญญาใจ เหอะ! โปรเจ็คหนึ่งหมดเงินไปตั้งหลักร้อยหลักพันล้าน พูดเป็นเด็กๆ ไปได้”
“ถูกของพี่ฐานัสนะครับผมไม่เถียง แต่อยากอธิบายเพิ่มเติมว่าก็เพราะว่าการลงทุนมันแพงมากน่ะสิครับถึงไม่สามารถจับมัดมือให้เซ็นสัญญาอะไรโดยปราศจากการทำความรู้จักกันก่อน ไทยออลสตาร์บริษัทเขาไปไกลกว่าเรามากเขาไม่จำเป็นต้องมาร่วมงานกับเราก็ได้ แต่ตอนนี้เขากำลังสนใจเรา ผมถือว่ามันเป็นโอกาสดี”
“ภพเขาพูดถูกนะฐานัส ลองรอไปก่อนดีกว่า แต่ถึงจะได้หรือไม่ได้บริษัทเราก็ได้กำไรมหาศาลจากการบริหารงานของภพอยู่ดี”
ผู้ถือหุ้นหลายคนต่างเทความคิดเห็นชื่นชอบมาทางรณภพ ฐานัสรู้สึกเหมือนถูกลากไปตบกลางสี่แยกไฟแดงแอบกำหมัดแน่นใต้โต๊ะ ทนนั่งฟังจนจบเขารีบลุกจากเก้าอี้เดินออกเป็นคนแรก ใครจะอยู่ชมเชยมันหรือลูกของมันเขาไม่สนใจ
ฐานัสโกรธมากเดินด้วยความเร็วสูงไปยังลิฟต์จนกระทั่งเผลอชนไหล่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งจะแทรกกายเบียดออกจากลิฟต์มาได้ ตัวหล่อนกระเด็นกลับไปข้างหลังเกือบจะล้มโชคดีที่คนข้างหลังช่วยพยุงไว้ เขาหงุดหงิดมากตวัดสายตาขุ่นเคืองไปให้และกำลังจะด่าทว่าเสี้ยวใบหน้าหวานของสาวคนนั้นทำให้เขาเกิดเปลี่ยนใจ
เพราะจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้… คือแม่ของลูกไอ้ภพ!