6

906 คำ
คืนนั้นอีกด้านหนึ่งของเมืองหลวงหลังจากแยกกับเพื่อนสนิท รณภพหิ้วสาวที่เพิ่งทำความรู้จักกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงมาต่อที่โรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่งย่านรัชดา เล้าโลมกันสนุกสุดเหวี่ยงแต่ไม่หลงลืมการป้องกันตัวทั้งจากโรคร้ายและจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม เขาเซฟตัวเองดีเสมอ ยกเว้นคืนที่มีอะไรกับเฟื่องลดาคืนนั้นเขาจำอะไรไม่ได้เลยเมาหนักจนภาพตัดไปตื่นขึ้นมาอีกทียังจำไม่ได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพลิงสวาทจบลงสาวคนนั้นกำลังจะเคลิ้มหลับทว่าต้องตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากเจ้าของร่างกายกำยำ ร่างนั้นมอบความสุขดิบเถื่อนให้ตัวเองร่วมสองชั่วโมงเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง สาวนิรนามหน้าตาเริ่มดูไม่ได้เพราะลิปสติกเอย รองพื้นเอย เริ่มจะเปื่อยจากการถูกเหงื่อบ้างแล้ว ไหนจะขนตาปลอมที่หลุดออกมาเกินครึ่งแถบ หล่อนกำลังพยายามยันกายขึ้นนั่งบนเตียงกว้างเปิดเปลือยทรวงอกอวบ “ทำไมต้องใส่เสื้อผ้าด้วยล่ะคะจะกลับแล้วเหรอ แต่นี่ก็ใกล้เช้าแล้วนะคะ รอกลับพร้อมกันสิ” “ไม่ล่ะ ฉันจะกลับไปนอนที่บ้าน เธอนอนพักผ่อนให้สบายใจเถอะ” “นอนคนเดียวก็เหงาสิคะเตียงออกจะกว้างขนาดนี้” “ปล่อย…” รณภพปรามเสียงเข้ม ไม่ชอบใจที่เจ้าหล่อนลงมาเต้นร่อนยั่วเขา “ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยล่ะคะ เจนแค่อยากให้เรามาสนุกอีกรอบ” “ขอบคุณมาก แต่วันนี้พอแค่นี้ดีกว่า อยากได้ค่าช็อปปิ้งเท่าไหร่ฉันจะจ่ายให้” “ค่าช็อปปิ้งอะไรกันคะพูดให้ดีๆ นะ เจนไม่ได้ขายตัว เราถูกใจกันจะมาสานต่อก็ไม่เห็นแปลก แล้วรสรักของคุณก็ถูกใจเจนมากเลย เจนคิดว่า… เราแลกเบอร์กันไว้มาสนุกอีกวันหลังก็ดีนะคะ” สาวสวยอกไซส์ใหญ่ยั่วยวนสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง รณภพติดกระดุมจนครบทุกเม็ดก่อนจะจับมือหล่อนออก “ครั้งเดียวจบดีกว่านะ ถ้าเมียฉันจับได้เราสองคนถูกสั่งยิงหัวแบะกันพอดี” “เมีย?” สาวคนนั้นอึ้ง “คุณมีเมียแล้วทำไมถึงไม่บอกฉัน คิดจะหลอกฟันกันฟรีๆ หรือไง!” “ก็บอกแล้วว่าจะให้ค่าช็อปปิ้งแล้วจบๆ กันไป เอาไป หมื่นหนึ่ง หวังว่าคงพอนะ” ก่อนเจ้าหล่อนจะกระทืบเท้าเอาแต่ใจหนักไปมากกว่านี้รณภพหยิบเงินออกจากกระเป๋าสตางค์มายัดใส่มือให้ และทันทีที่เจ้าหล่อนเห็นเงินจำนวนนั้นก็เปลี่ยนใจเลิกกรีดร้องทันที รณภพยิ้มมุมปากนึกรังเกียจผู้หญิงหิวเงิน ชายหนุ่มลงลิฟต์มายังลานจอดรถในเวลาย่างตีสามตาเริ่มปรือแล้วแต่อยากกลับไปนอนบ้าน ถนนค่อนข้างโล่งเขาขับรถได้เรื่อยๆ จนกระทั่งเข้ามาถึงประตูรั้วเหล็กขนาดมหึมาของคฤหาสน์ ลุงยามหน้าบ้านหลับอีกเช่นเคยเขากดเปิดรีโมตก่อนจะเลี้ยวรถขับเข้าไปจอดรถเตรียมขึ้นบ้านไปอาบน้ำนอน กายกำยำเดินลัดเลาะโรงจอดซุปเปอร์คาร์จำนวนหลายคันเข้ามาในบ้าน ขึ้นบันไดมาจนกระทั่งเห็นแสงสว่างส่องมาจากห้องนอนของเฟื่องลดา ดึกป่านนี้แล้วทำไมถึงยังไม่นอนอีกหรือว่ายังอ่านหนังสือ ท่อนขากำยำเปลี่ยนทิศทางเดินมายังห้องนอนเฟื่องลดาหมุนลูกบิดเข้าไปข้างใน มองรอบๆ เห็นว่าไฟกำลังสว่างแต่เจ้าของห้องหลับไปเรียบร้อยบนเตียงของเจ้าหล่อนพร้อมกับกองหนังสือ ข้างเตียงมีเปลนอนของเด็กชายตัวน้อย รณภพยิ้มกว้างเข้าไปดูลูกเป็นลำดับแรกเก็บขวดนมออกจากเปลของแก “คุณป๋ากลับบ้านแล้วนะลูก ไม่ได้ไปเถรไถลไหนเลย ฝันดีนะครับ” แก้มป่องมากลูกชายเขา รณภพอยากจับลูกขึ้นมาหอมแก้มแต่กลัวแกจะตื่นจึงเปลี่ยนทิศทางไปยังเตียงกว้าง ดึงหนังสือออกจากมือเฟื่องลดามาดูว่าหล่อนเริ่มอ่านเรื่องไหน เขาเองก็เรียนจบสายบริหารมาจึงมองแวบเดียวก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ที่จริงถ้าเขาสอนให้หล่อนคงไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเล่มใหญ่ขนาดนี้หรอก เผอิญว่าเขาไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ใบหน้าของเฟื่องลดาไม่เชิงว่าสวยหรือน่ารักมาก ออกจะเรียบเฉยธรรมดา ดวงตาคู่นี้โศกเศร้า จมูกโด่งรั้น รูปหน้ากลมมีคางเล็กน้อย ไม่เรียวยาวพิมพ์นิยมเหมือนสาวๆ ในยุคปัจจุบันที่ชอบศัลยกรรม เขาลดระดับใบหน้าลงมองหล่อนให้ใกล้มากขึ้นอยากมองหาริ้วรอย สิว หรือกระว่ามีบ้างหรือเปล่า ทว่าจู่ๆ เสียงของไอ้รันที่เพิ่งพูดในคืนนี้ก็ดังขึ้นมาในโสตประสาท ‘ออกล่าเหยื่อเหมือนสมัยตัวเปล่าเล่าเปลือยอยู่ได้ ลูกก็มีแล้ว แถมแม่ของลูกยังนอนอยู่ใต้จมูก ทำไมไม่จัดแม่ของลูกวะจะมาหาเศษหาเลยนอกบ้านให้เปลืองตัวทำไม’ “มึงไม่รู้อะไรก็พูดได้สิไอ้รัน ขืนกูทำซ้ำสองคราวนี้แม่คนนี้ได้จับกูไม่ปล่อยแน่” รณภพยกมุมปากขึ้นยิ้มเย้ยดูแคลนในตัวเฟื่องลดา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม