"ผมเองครับ" ทุกคนในห้องโถงคฤหาสน์ตระกูลนักธุรกิจใหญ่พากันหันไปมองตามเสียงของคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเชิ้ตกางเกงสแลกซ์แว่นตากรอบหนาเดินเข้ามาอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เคารพแล้วลงมานั่งตรงข้ามหญิงสาวผู้ตกเป็นข่าวด้วยกัน
"คนในรูปคือวอร์มเหรอลูก" น้ำฟ้าเอ่ยถามด้วยใบหน้าแปลกประหลาดใจ เช่นเดียวกับพร้อมพงศ์ผู้เป็นพ่อของหญิงสาว เขามองชายหนุ่มด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แล้วอีกฝ่ายก็เอ่ยออกมาเสียงหนักแน่น
"ใช่ครับ ในรูปคือผมเอง" หมอวอร์มพูดจบก็หันสบตากับหญิงสาว เธอยังคงอ้าปากหวอกับการปรากฏตัวของเขาที่ไม่ทันคาดคิด
"…" หลังจากนั้นภายในห้องก็เกิดความเงียบงัน พลันสายตาของน้ำฟ้าก็หันไปมองคนเป็นสามี เขายังคงจดจ้องชายหนุ่มไม่ห่าง เช่นเดียวกับวอร์มที่ถูกจับตามองก็มองคนเป็นอากลับบ้าง สองคนมองหน้ากันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจ จนสุดท้ายก็เป็นน้ำฝนที่เป็นคนพูดทำลายความเงียบหลังจากที่ตนได้สติ
"เห็นไหมคะปาป๊า เรื่องก็เกิดขึ้นกับคนกันเองทั้งนั้น ถ้าจัดแถลงข่าวแล้วบอกเป็นพี่ชายคนสนิทของหนู ทุกคนก็ต้องเชื่อหนูอยู่แล้ว" น้ำฝนพูดออกไปตามความคิด เธอเริ่มคิดว่าเรื่องยิ่งเล็กลงแล้ว อีกคนที่ตกเป็นข่าวก็เป็นคนกันเอง ถึงจะไม่ได้สนิทกับเธอแต่ก็พอจะสนิทกับพ่อเธออยู่บ้าง เรื่องแค่นี้เขาก็คงจะยินดีที่ยื่นมือมาช่วยเธออีกครั้ง
"อยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปไหน ส่วนวอร์มตามอามา" ประโยคแรกพร้อมพงศ์เหลือบบอกกับลูกสาวคนเดียวของตน ก่อนที่จะหันไปบอกกับอีกคนที่พูดจบก็เดินนำเข้าไปในห้องทำงานของเขา
"ขอตัวนะครับคุณน้า" วอร์มยกยิ้มบาง ๆ ให้น้ำฟ้า หยัดยืนขึ้นแล้วเดินตามพร้อมพงศ์เข้าห้องทำงานอย่างไม่รีรอ ห้องโถงของคฤหาสน์จึงเหลือเพียงแค่สามสาวที่มองชายหนุ่มสองคนที่เดินจากไป
"ทำไมปาป๊าต้องเรียกเฮียวอร์มไปคุยในห้องด้วยล่ะคะ เป็นความลับเหรอ?" คนขี้สงสัยโพล่งถามคนเป็นแม่ ชวนให้น้ำฟ้าเริ่มอึกอักเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะตอบลูกสาวอย่างไรเหมือนกัน
"หม่ามี้ก็ไม่รู้ ว่าแต่คนในข่าวคือเฮียวอร์มของลูกจริง ๆ เหรอ?" น้ำฟ้ายังคงประหลาดใจไม่หาย เธอช่างไม่รู้ว่าท่าทางของเธอกำลังทำให้ลูกสาวเริ่มสงสัยขึ้นตาม
"จริงค่ะ แล้วทำไมหม่ามี้ถึงต้องตกใจขนาดนั้นล่ะคะ?"
"ปะ เปล่า ไม่มีอะไรสักหน่อย" เธอรีบตอบปฏิเสธลูกสาวในทันที
"จะว่าไปเฮียวอร์มของแกแซ่บมาก ทำไมไม่เคยบอกว่ามีหมอประจำตัวหล่อขนาดนี้" คิมมี่ที่เงียบอยู่นานเริ่มพูดขึ้น เธอเก็บความรู้สึกนี้อยู่ตั้งนาน จนสุดท้ายก็อดที่จะพูดออกไปไม่ได้ ถึงจะไม่ใช่เวลาแต่เพราะนั้นเป็นนิสัยที่เธอห้ามไม่ได้ แต่พอได้เห็นสายตาของน้ำฟ้า คิมมี่ก็รีบยกมือขอโทษยกใหญ่ ลืมไปเสียสนิทว่ายังมีอีกคนอยู่ด้วย
"แหะ…ขอโทษค่ะ คิมมี่ลืมตัว"
"ไม่เป็นไรจ้ะหนูคิมมี่ น้าเข้าใจสถานการณ์มันกดดันเกินไป น้าก็อึดอัด" น้ำฟ้าป้องปากพูดเบา ๆ กลัวสามีออกมาได้ยินในสิ่งที่เธอไม่ค่อยได้พูดออกมาเท่าไหร่
"หนูจะฟ้องปาป๊า" น้ำฝนยกยิ้มกริ่ม แม่ของเธอเป็นคนอ่อนหวาน ซึ่งต่างไปจากเธอมาก นั้นจึงทำให้เธอชอบแกล้งคนเป็นแม่อยู่บ่อย ๆ
"เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมเรา"
"แหนะ!…เดี๋ยวนี้หม่ามี้ของหนูเก่งขึ้นเยอะเลย ต้องให้ปาป๊าทำโทษหน่อยแล้ว"
"ยังจะเล่นอีกน้ำฝน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา หม่ามี้ก็ช่วยลูกไม่ได้"
"คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ แค่ข่าวซุบซิบทั่วไปเอง ปาป๊าคงจะไม่ได้ซีเรียส" แม้ปากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ข้างในก็รู้สึกหวั่น ๆ ไม่หาย ยิ่งตอนที่เรียกวอร์มเข้าพบพร้อมพงศ์ดูนิ่งเรียบกว่าทุกครั้ง เธอจึงไม่แน่ใจว่าครั้งนี้มันจะออกมาเป็นอย่างไร
"หม่ามี้ก็ขอให้เป็นแบบนั้น"
ผ่านไปหลายต่อหลายนาทีชายหนุ่มสองคนที่หายเข้าไปในห้องก็ยังไม่ออกมา น้ำฝนเริ่มอยู่ไม่สุข เธอเดินวนไปวนมาเพื่อหวังจะคลายความกังวลได้บ้างโดยที่โทรศัพท์มือถือก็เริ่มมีสายของต้นสังกัดโทรเข้ามาเป็นระยะ เช่นเดียวกับนักข่าววงการบันเทิงที่กระหน่ำโทรไม่ซ้ำสำนัก แต่เธอก็ยังกดรับไม่ได้เพราะต้องรอข้อสรุปจากคนเป็นพ่อเสียก่อน
ตึก
ตึก
ในที่สุดเสียงฝีเท้าของคนสองคนก็เดินเข้ามาในห้องโถง ทั้งพร้อมพงศ์และวอร์มกลับมานั่งลงที่เดิม แน่นอนว่าทันทีที่คนเป็นพ่อก้นติดเบาะลูกสาวที่รอคำตอบก็รีบสวนถามขึ้นมาในทันที
"ตกลงหนูให้ต้นสังกัดตั้งโต๊ะแถลงข่าวเลยนะคะ"
"อืม จะมีการแถลงข่าวของหนูเกิดขึ้น" พร้อมพงศ์ตอบ ซึ่งเรียกรอยยิ้มจากลูกสาวยกใหญ่ แต่ก็ไม่ทันที่เธอจะได้พูดต่อ คนที่ยังพูดไม่จบก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
"แต่ไม่ใช่แถลงข่าวอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เป็นการแถลงข่าวประกาศว่าวอร์มเป็นคู่หมั้นของหนูแทน"
"ห๊ะ!?" ทุกคนในห้องอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฉพาะน้ำฝนที่เบิกตาโพลงยกใหญ่ ริมฝีปากบางอ้าปากหวอพูดอะไรไม่ออก อะไรคือการแถลงข่าวบอกว่าเขาสองคนเป็นคู่หมั้นกัน
"ได้ยินไม่ผิด ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ป๊าจะให้หนูหมั้นแล้วก็แต่งงานกับเฮียเขา"
"แต่งงาน!?" สิ่งที่ได้ยินยังคงมาถึงจุดพีคขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนยังคงตกใจไม่หยุดโดยเฉพาะน้ำฝนที่ไม่คิดว่ามันจะออกมาในรูปแบบนี้
"ดะ เดี๋ยวนะคะ หนูว่าคงต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ คือในรูปมันไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยสักนิด เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน อยู่ในฐานะของหมอกับคนไข้ จะเอาประวัติการรักษาให้คนอื่นเขาดูก็ได้ มันยังมีอีกหลายวิธีที่ไม่ใช่การแต่งงาน ปาป๊าต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ"
"ป๊าไม่ได้เข้าใจอะไรผิด ลูกต้องแต่งงานกับเฮียวอร์ม คิมจัดการเรื่องแถลงข่าวด้วย" คิมมี่เริ่มหันไปถามความเห็นของรุ่นน้องดาราสาว เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าต้องทำแบบนั้นจริง ๆ
"แต่เราไม่ได้รักกันนะคะป๊า!"
"วันนี้ฉันมีงานต่อ ไว้ค่อยคุยกันวอร์ม"
"ครับอาพร้อม" ว่าจบพร้อมพงศ์ก็รีบเดินออกไปโดยไม่สนใจคำประท้วงจากลูกสาว สับเท้าอย่างเร็วไวไม่แม้แต่จะหันมาทักทายภรรยาอย่างที่ชอบเป็น
"หม่ามี้ทำไมปาป๊าไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะคะ"
"หม่ามี้จะลองไปถามให้นะคะ" ว่าแล้วคนเป็นแม่ก็เดินหายไปตามสามี ที่ตรงนั้นจึงเหลือแค่ผู้จัดการส่วนตัวเธอ เธอ และเขา…
"เฮียไม่เดือดร้อนที่เราต้องแต่งงานกันเลยเหรอคะ!?" หญิงสาวเริ่มเปิดประเด็นถามอีกคน เขาไม่มีความเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลยสักนิด ใบหน้ายังคงนิ่งเรียบเช่นเดิมในขณะที่เธอลนลานพยายามหาคำตอบของเรื่อง
"ไม่" วอร์มตอบแค่คำถามสั้น ๆ พูดจบเขาก็หยัดยืนขึ้นหมายจะเดินหนีแต่ก็ถูกน้ำฝนเรียกไว้ก่อน
"เฮียวอร์มมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"
"ฉันมีเคสด่วน" เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นกระชับกรอบแว่นแล้วเดินออกไป น้ำฝนถอนหายใจพรืดใหญ่ คนเนิร์ดแบบเขาคงจัดอยู่ในคนประเภทหัวอ่อน ใครให้ทำอะไรก็ทำโดยไม่ขัดคำสั่งเลยสักนิด พร้อมพงศ์คงบังคับให้เขาทำแบบนั้น แต่เธอเองยังคาใจอยู่มาก ในเมื่อคนไม่ได้รักกันแล้วจะแต่งงานกันได้ยังไง?