แชะ!!!!
เสียงกดชัตเตอร์ของกล้องนักข่าวหลายสำนักระรัวใส่ดาราสาวและผู้จัดการรวมไปถึงต้นสังกัดที่ลงมานั่งเรียงกันบนเวทีกว้าง น้ำฝนไล่มองกล้องทุกกล้องที่กำลังจับใบหน้าของเธอ วันนี้เป็นวันที่เธอต้องออกมาแถลงข่าวฉาวที่เกิดขึ้นตามคำสั่งของคนเป็นพ่อ แม้ว่าในตอนแรกต้นสังกัดจะออกมายืนยันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น แต่ใช้เวลาไม่นานทางต้นสังกัดดันกลับลำการตัดสินใจเสียดื้อ ๆ เธอได้รับอนุญาตให้ประกาศวิวาห์ฟ้าแลบ ถึงน้ำฝนจะไม่ค่อยเข้าใจกับการเปลี่ยนใจของต้นสังกัด แต่สุดท้ายเธอก็ต้องทำตามคำสั่งของทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้
"คุณน้ำฝนช่วยยืนยันข่าวที่เกิดขึ้นหน่อยได้ไหมคะ?" นักข่าวคนแรกเริ่มตั้งคำถามใส่ดาราสาวที่นั่งอยู่ตรงกลางแถว น้ำฝนเหลือบมองผู้จัดการด้วยสีหน้าลำบากใจ เธอไม่อยากทำแบบนั้นเลย ไม่อยากประกาศให้รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานในไม่ช้า
สุดท้ายคิมมี่ก็พยักหน้าเพื่อเสริมความมั่นใจให้รุ่นน้องสาว ถึงจะรู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะทำลายอนาคตในวงการบันเทิงของเธอ แต่ในฐานะที่เขาเป็นแค่ผู้จัดการส่วนตัวก็ทำอะไรนอกเหนือจากนั้นไม่ได้
"คนในรูปเป็นฉันจริง ๆ ค่ะ" สิ้นเสียงหวานที่เอ่ยก็เรียกเสียงฮือฮาจากนักข่าวและคนในละแวกหลาย ๆ สำนัก ทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเพราะที่ผ่านมาดาราสาวไม่เคยมีข่าวฉาวเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่เลยสักครั้ง เธอประพฤติตัวและวางตัวดีมาตลอด ครั้งนี้หลายคนจึงมักจะไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังได้ยิน
"คุณน้ำฝนมีความสัมพันธ์อะไรกับคนในรูปคะ?" คำถามที่สองเริ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนยิ่งจับตามองหนักกว่าเดิม สร้างความลำบากใจแก่ดาราสาว แต่สุดท้ายเธอก็เลี่ยงที่จะตอบคำถามไม่ได้
"เราสองคนเป็นคู่หมั้นกันค่ะ" เสียงฮือฮาดังอื้อกว่าเดิม ทุกคนเริ่มจับกลุ่มคุยกันเสียงดัง ต่างถกเถียงถึงข่าวฉาวของเธอจนสุดท้ายน้ำฝนก็ต้องพูดขึ้นต่อ
"ในเมื่อข่าวออกมาแบบนี้แล้ว ฉันจึงจำเป็นต้องประกาศว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานในไม่ช้าค่ะ"
"แล้วชายคนลึกลับในรูปเป็นใครกันคะ?"
"เรื่องนั้นฉันขอเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราสองคนดีกว่าค่ะ ขอจบการแถลงข่าวเท่านี้ค่ะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็หยัดตัวยืนขึ้นหมายจะลงจากเวที ทว่านักข่าวที่ไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจก็กรูเข้ามาปิดทางเพื่อถามต่อ คนตัวเล็กถูกดึงไปยืนข้างหลังของผู้จัดการ โดยที่คิมมี่จัดการดันนักข่าวให้ออกห่างจากตัวเธอ
"เป็นคนในวงการหรือเปล่าคะ?"
"คุณน้ำฝนคะ ช่วยตอบด้วยค่ะ"
"ขอทางให้น้องด้วยนะคะ" คิมมี่พยายามแหวกทางเพื่อที่จะพาน้ำฝนหนีออก แต่นักข่าวก็ยังยื้อที่จะปิดทางขอความจริงให้ได้ จนสุดท้าย…
"คนในรูปคือผมเองครับ" เสียงที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างพากันหยุดนิ่ง น้ำฝนโผล่หน้าจากแผ่นหลังของคิมมี่ ก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนตอบคือ…ว่าที่สามีของเธอจริง ๆ
"เจ๊ตามเขาให้มาเหรอ?" เธอสะกิดคิมมี่ระรัวเมื่อเห็นการปรากฏตัวของวอร์มโดยที่ไม่ได้นัดไว้ ตอนนี้นักข่าวเลิกให้ความสนใจดาราสาว ทว่ากรูกันไปสัมภาษณ์วอร์มที่เพิ่งเข้ามาแทน
"ฉันไม่ได้นัด" คิมมี่ส่ายหัวเป็นคำตอบ เขาก็ไม่รู้ว่าวอร์มมาที่นี่ได้อย่างไร
"บ้าจริง…" น้ำฝนสบถออกมาเบา ๆ เธอเริ่มเป็นห่วงวอร์มที่กำลังถูกนักข่าวรุมทั้งหน้าและหลัง เขาไม่ใช่คนสาธารณะเหมือนเธอที่จะรับแรงกดดันเช่นนี้ได้ ยิ่งการมาปรากฏตัวฉายเดี่ยวแบบนี้เขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
"เจ๊รีบไปดึงตัวเฮียหน่อย" น้ำฝนเอ่ยด้วยท่าทีลนลาน เธอเป็นอิสระจะเดินหนีตอนนี้ก็ได้ ทว่าเธอเลือกที่จะให้คิมมี่รีบไปช่วยวอร์มแทน
"แกรีบออกไปก่อน ฉันจะไปช่วยว่าที่สามีแกให้" คิมมี่เอ่ยจบก็ดันให้ดาราสาวรีบหลบ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบบึ่งไปช่วยคู่หมั้นของรุ่นน้องสาวแทน
"เป็นไปตามที่น้ำฝนแถลงเลยครับ ผมคือคนนั้นและกำลังจะแต่งงานในไม่ช้า" คิมมี่ยืนนิ่งเมื่อได้ยินวอร์มให้สัมภาษณ์อย่างไม่มีความเกรงกลัวต่อนักข่าวบันเทิง เขาตอบอย่างฉะฉานและชัดเจนทุกอย่างแม้ลุคภายนอกดูจะเนิร์ดเกินกว่าจะเป็นแบบนั้นก็ตาม
"พี่ ๆ นักข่าวพอแค่นี้ก่อนนะคะ คิมมี่ขอตัวพาคุณไปพักก่อน" คิมมี่แหวกกลางวงนักข่าวหลาย ๆ คนที่กำลังให้ความสนใจหมอวอร์ม พูดแค่นั้นวอร์มก็ถูกคิมมี่จัดการจับมือฝ่าวงนักข่าวแล้วหลบกลับเข้าไปในห้องเตรียมตัวที่มีน้ำฝนอยู่ก่อนแล้ว
"โอ้ย…นักข่าวจะหิวข่าวไปถึงไหนเนี่ย ฉันอยากจะบ้าตาย" เข้ามาในห้องเก็บตัวได้ผู้จัดการก็บ่นโอดไม่พัก น้ำฝนที่ได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งไปหาอีกสองคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ก่อนที่จะถามไถ่ความปลอดภัยของว่าที่เจ้าบ่าวที่พลอยโดนลูกหลงจากข่าวของเธอ
"เฮียเป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงได้มาที่แบบนี้โดยไม่บอกกันก่อนคะ"
"เรื่องนี้มันก็เกี่ยวกับฉัน จะปล่อยให้เธอโดนอยู่ฝ่ายเดียวได้ยังไง" วอร์มพูดจบก็จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ จัดเสื้อให้เนี๊ยบดังเดิมเพราะถูกนักข่าวฉุดดึงกันให้ควัก
"แต่เฮียปรากฏตัวแบบนี้ก็ถูกนักข่าวขุดประวัติเอานะคะ"
"…" วอร์มเงียบลง นั้นจึงยิ่งทำให้น้ำฝนเริ่มรู้สึกผิด เธอรู้ดีว่าไม่นานประวัติของชายหนุ่มจะว่อนเต็มโซเชียลมีเดียเป็นแน่ แล้วคนรักความเป็นส่วนตัวแบบเขาก็จะไม่มีความเป็นส่วนตัวอีกต่อไป
"ฝนขอโทษนะคะกับเรื่องที่เกิดขึ้น เฮียไม่ได้ผิดหรอก ยังไงเฮียก็มาช่วยฝน" น้ำฝนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้ว่าที่วอร์มมาที่นี่เพื่อต้องการช่วยเธอไม่มากก็น้อย เขาคงคาดไม่ถึงว่าจะมีการถูกโจมตีจากนักข่าวแบบนี้
"งั้นทุกคนอยู่ในห้องนี้ก่อน เดี๋ยวคิมมี่จะออกไปดูนักข่าวเองว่ากลับไปกันหรือยัง" ว่าแล้วผู้จัดการใจหญิงก็เดินออกไป ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่เขาและเธอที่กำลังมองหน้ากันและกัน
"เป็นยังไงบ้างคะ ยังตกใจอยู่ใช่ไหม?" ดาราสาวเอ่ยถาม
"นิดหน่อย" ในขณะที่วอร์มจัดกรอบแว่นหนาแสดงท่าทีที่ประหม่าเล็กน้อย เธอที่เห็นแบบนั้นก็รีบพุ่งเข้ามาหาจนอีกคนขยับหนีเล็กน้อย
"จะทำอะไร?" มือบางที่จับกรอบแว่นของเขาทำเอาวอร์มชะงักไปไม่เป็น เขาเอ่ยถามเสียงเรียบในตอนที่น้ำฝนถอดแว่นเขาออกมา
"เวลาเฮียประหม่าเฮียชอบจัดแว่น ฝนขอไถ่โทษด้วยการจัดให้ก็แล้วกัน" ร่างสูงที่ไร้แว่นตาบนใบหน้าจดจ้องหญิงสาวในระยะประชิด เขามองเธออย่างไม่ละสายตาในขณะที่ดาราสาวค่อย ๆ สวมแว่นตาให้เขาแล้วจัดให้เข้าที่
"แค่นี้ก็หล่อแล้ว" เรียวปากบางยกยิ้มบาง ๆ ให้เจ้าของแว่น เธอและเขามองหน้ากันในระยะประชิด ใบหน้าที่ใกล้กันแค่ไม่กี่คืบกำลังรดหายใจใส่กัน ก่อนที่จะชะงักเมื่อมีอีกคนที่เข้ามาใหม่
"เอิ่ม…" คิมมี่มองภาพนนั้นตาค้าง เขาทำอะไรไม่ถูกจึงรีบปิดปากตัวเอง ก่อนที่ดาราสาวจะผละหน้าออกจากชายหนุ่มทันที
"นักข่าวกลับไปหรือยังเจ๊?" น้ำฝนเอ่ยถาม ซึ่งคิมมี่ก็พยักหน้าตอบรัว ๆ แล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างพยายามแซว
"งั้นฝนไปส่งเฮียนะคะ"
"อืม" วอร์มพูดจบก็เป็นคนเดินนำออกจากห้อง เมื่อน้ำฝนที่กำลังจะเดินตามแต่ก็ถูกผู้จัดการคว้าตัวไว้ก่อน
"หล่อนจะทำอะไร ฉันเห็นนะ"
"แค่จัดแว่นหนาเจ๊ คิดอะไรเล่า"
"ใช่หรือเปล่า…"
"คนเนิร์ด ๆ แบบเฮียไม่ได้คิดอะไรกับฉันหรอกหนา วัน ๆ คงสนใจแต่หนังสือกับคนไข้"
"แล้วหล่อนล่ะ…"
"ไม่รู้สิ…"
"นี่หล่อนพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง"
"รีบไปได้แล้ว"