เช้าวันต่อองครักษ์หนุ่มทั้งสองรีบออกไปถนนไฉ่ฟู่ ครั้นได้เห็นเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวของสามร้านติดๆ กันก็ทำเอาบุรุษทั้งสองถึงกับตะลึง ชุดที่ตกแต่งด้วยเชือกแบบเดียวกับเศษเชือกที่หลิวเฉิงเก็บมาได้นั้น มีร่วมหกสิบชุด และมีทั้งของบุรุษและสตรี
“คุณชายทั้งสอง ชุดพวกนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนหนุ่มสาวเลยขอรับ พวกเขานิยมเอาไปสวมคู่กัน เรียกว่า ชุดคู่รัก นี่ข้าเอามายี่สิบชุดแรกก็ขายหมดในเวลาเพียงสิบวัน คราวนี้ร้านใกล้เคียงก็พากันขายเหมือนข้าหมดเลยขอรับ แต่ข้ารับรองว่าของร้านข้าเป็นของแท้ พวกร้านข้างๆ ล้วนเป็นของเลียนแบบ”
บุรุษทั้งสองยืนกวาดตามองไปชุดที่แขวนขายอยู่ในแต่ละร้านแล้วหันไปสบตากัน พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าชุดที่หว่านอิ๋งอิ๋งกล่าวอ้างจะมีขายมากเพียงนี้
“ราคาชุดพวกนี้ก็ราคาสูงอยู่นะ เหตุใดจึงได้ขายดีนัก?” ไห่ฮ่าวมองดูป้ายราคาแล้วถึงกับเอียงคอค้างไว้
“คุณชายทั้งสอง พวกท่านมาหาชุดให้ภรรยาหรือขอรับ?”
“มิได้ๆ ข้ามีข้อสงสัย ขอถามท่านสักหน่อยเถอะ”
สีหน้าของเถ้าแก่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาคาดว่าจะได้ขายชุดคู่รักสักสองคู่ แต่พอบุรุษทั้งสองบอกว่ามีเรื่องจะถาม ในใจของเถ้าแก่ร้านเสื้อผ้าก็รู้สึกผิดหวัง
“ว่ามาเถิด มีสิ่งใดต้องการถามข้า?”
“ชุดพวกนี้ถูกตัดเย็บมาจากที่ใด?”
“พูดถึงเรื่องนี้ข้ายังโมโหไม่หาย เดิมทีชุดนี้ออกแบบโดยร้านของข้าแต่พอขายดี ร้านข้างๆ ก็พากันเลียนแบบไปสั่งช่างตัดเย็บมาคล้ายกับร้านของข้า พวกท่านดูสิ ชุดของพวกเขาใช้เชือกถักประดับเหมือนของร้านค้าไม่มีผิด แต่ต่อให้เขาเลียนแบบได้ก็ยังเป็นของปลอมอยู่ดี”
“ข้าดูอย่างไรก็เหมือนกัน จะแยกอย่างไรว่าเป็นของแท้ของปลอม?”
เถ้าแก่ยิ้มกว้าง ชี้ที่ปลายแขนเสื้อด้วยความภาคภูมิใจ
“ของแท้สังเกตไม่ยากขอรับ ร้านค้าใช้เชือกสีทองที่ทำจากใยไหม ท่านดูสิ ทั้งแวววาวและผ่องใสกว่าร้านอื่นมาก”
หลิวเฉิงยิ้ม รีบควักเอาเศษเชือกนั้นออกมา
“เจ้าดูให้ข้าทีว่า เศษเชือกนี้มาจากชุดของแท้หรือของปลอม”
เจ้าของร้านมองดูเศษเชือกในมือแล้วยิ้ม
“ของแท้แน่นอนขอรับ ท่านได้มาจากชุดของภรรยาหรือ?”
หัวหน้าองครักษ์หนุ่มหน้าม้าน นึกถึงใบหน้าของหว่านอิ๋งอิ๋งแล้วรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ข้ายังไม่มีภรรยา นี่เป็นเชือกที่ข้าเก็บได้มาจากรั้วบ้าน ดูเหมือนคนที่สวมชุดนี้จะแอบเข้ามาขโมยของในบ้านข้า”
“ไอหยา! ชุดนี้ขโมยสวมไปอย่างนั้นหรือ?” เถ้าแก่ของร้านตกตะลึง จากนั้นก็รีบหยิบเอาเชือกมาพิจารณาดูอีกครั้ง
“ชุดที่ใช้เชือกเช่นนี้ น่าจะเป็นชุดที่ข้าสั่งตัดเย็บตั้งแต่คราแรก เป็นชุดสตรีมีจำนวนสิบชุดด้วยกัน”
ได้ยินคำตอบนั้นไห่ฮ่าวกับหลิวเฉิงถึงกับตาโต
“ท่านพอจะจำคนที่ซื้อได้หรือไม่?”
“ราคาชุดนี้สูงพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นคุณหนู หรือไม่ก็ฮูหยินของขุนนางและคหบดีในหลายครอบครัว แม้แต่คนจากจวนท่านเจ้าเมืองยังมาซื้อเลยนะท่าน”
“จวนเจ้าเมืองหรือ? ใช่อนุภรรยาของใต้เท้าเสิ่นหรือไม่?”
“อ๊ะ! ท่านเดาได้ถูกเผงเลยขอรับ ท่านรู้ได้อย่างไร?”
“ข้าเคยเห็นนางสวมน่ะสิ” ไห่ฮ่าวรีบตอบ ก่อนจะหันไปหาหลิวเฉิง “หัวหน้าหลิว แค่เถ้าแก่จำได้ว่าในสิบคนมีผู้ใดบ้าง? เราสืบจนครบ นางก็ไม่อาจจะบิดพลิ้วได้แล้ว”
“นางตามพวกเราไปแต่นางไม่ยอมปรากฏตัว ข้าอยากจะรู้นักว่านางตามพวกเราไปด้วยเหตุใด?”
“ท่านสงสัยในตัวนางหรือ?”
“ข้าไม่เคยไว้ใจผู้ใด ยิ่งนางทำตัวเช่นนี้ก็ยิ่งน่าสงสัย”
หลิวเฉิงชวนไห่ฮ่าวไปตรวจดูศพของคนร้ายที่สำนักมือปราบ เมื่อเห็นว่ามีคนส่วนหนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกมีดสั้นปักเข้าไปที่ต้นคอ องครักษ์หนุ่มทั้งสองหันไปสบตากัน
“ปามีดได้แม่นยำเช่นนี้คงมีไม่กี่คนหรอกนะหัวหน้าหลิว”
พวกเขานำเอารายชื่อลูกค้าที่ได้จากเถ้าแก่ในร้านไปลองสืบหาดู ลูกน้องของหลิวเฉิงทั้งสี่คนแยกย้ายกันไปคนละทาง หลิวเฉิงกับไห่ฮ่าวไปด้วยกัน พวกเขาออกไปตรวจดูที่คฤหาสน์ถึงสามตระกูล
“พวกนางสามคนไม่มีวรยุทธ์ ไม่ใช่แน่นอน เรากลับไปรอคนของท่านที่โรงน้ำชาหัวมุมถนนกันเถอะ”
หลิวเฉิงปักใจเชื่อว่าคนที่ตามเขาไปต้องเป็นหว่านอิ๋งอิ๋งแน่นอน แต่เพื่อให้ไร้ข้อโต้แย้งเขาต้องสืบข่าวให้แน่ชัด
“เดี๋ยวข้าเลี้ยงของว่างท่านเอง”
“ท่านไม่ร้อนใจแล้วหรือหัวหน้าหลิว?”
“ไม่แล้ว ข้าค่อนข้างแน่ใจว่าต้องเป็นนาง”
เมื่อคนของหัวหน้าหลิวกลับมารายงานก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ ในสตรีทั้งสิบคนที่ซื้อเสื้อผ้าราคาสูงพวกนั้นไป มีเพียงอนุภรรยาของใต้เท้าเสิ่นหรือหว่านอิ๋งอิ๋งเท่านั้นที่มีวรยุทธ์
“ในเมื่อชัดเจนแล้ว ต่อไปเจ้ากับข้าต้องช่วยกันระวังนางไว้ให้มาก ไม่รู้ว่าที่นางตามพวกเราไปดูการจับกุมท่านข่านน้อยฉงเป็นเพราะเหตุใด?”
“ข้าเองก็ไม่ได้ยิน คุณหนูสี่กับเสิ่นฮูหยินหารือกันเรื่องนี้สักครั้ง คาดว่าจะเป็นนางที่ทำเองโดยพลการ” ไห่ฮ่าวซึ่งเป็นผู้ติดตามชิงเว่ยเว่ยตลอดเวลายืนยันอย่างหนักแน่น
“เพราะเหตุนี้ล่ะ ข้าจึงรู้สึกว่านางน่าสงสัย”
หว่านอิ๋งอิ๋งรู้สึกแปลกๆ หลังจากการจับกุมท่านข่านน้อยฉงแล้ว นางรู้สึกว่าตนเองถูกคนจับจ้องเป็นพิเศษ
“เจ้าดูหัวหน้าหลิวกับองครักษ์ไห่นั่น ดูเหมือนจับตามองข้า”
“เจ้ามั่นใจนะว่าไม่ได้ระแวงไปเอง อิ๋งอิ๋ง”
“ไม่แน่นอน บางทีพวกเขาอาจจะไปสืบแล้ว รู้ว่าเป็นข้าที่แอบติดตามพวกเขาไป”
“พวกเราสารภาพตรงๆ กับเขาดีหรือไม่?”
หว่านอิ๋งอิ๋งรีบยกมือขึ้นห้าม “อย่าตีตนไปก่อนไข้ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้มาซักไซ้สอบสวนข้า หากข้าวิ่งไปสารภาพจะไม่ยิ่งน่าสงสัยหรือ?”
“เออ...ข้าลืมคิดข้อนี้ไป”
“ข้าตัดสินใจทำเรื่องนี้ด้วยตนเอง คุณหนูไม่รู้เรื่องด้วย ขอเพียงเจ้าไม่พูดออกไป เรื่องก็จะยุติเพียงเท่านี้ ข้าไม่อยากจะถูกคุณหนูลงโทษหรอกนะ”
“ได้! ข้าจะไม่พูดเรื่องของเจ้า แต่เจ้าต้องระวังให้ดี อย่าให้หัวหน้าหลิวจับผิดเจ้าได้เล่า?”
“ไม่มีทาง ข้าจะไม่ให้เขาบุกเข้าเรือนนอนของข้าได้อีกเด็ดขาด”
เจียงลี่จังถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าวันต่อมาหว่านอิ๋งอิ๋งเรียกบ่าวรับใช้หลายคนนำเอาแผ่นไม้มาตอกตะปูหน้าต่างห้องนอนของนางจนแน่นหนา
“อิ๋งอิ๋ง เจ้าแน่ใจหรือ? ห้องของเจ้าจะอับเอาได้นะ”
“ไม่เป็นไร ข้าอาศัยเปิดประตูกับหน้าต่างด้านหน้าเอา”
ผ่านไปสองวันในยามค่ำ หัวหน้าองครักษ์หลิวก็คิดจะลอบเข้ามาในห้องของนางเพื่อสืบความลับ ทว่าพอมาถึงหน้าต่างบานเดิมกลับพบว่าถูกปิดไว้อย่างมิดชิด ชายหนุ่มที่ยื่นมือกำลังจะผลักหน้าต่างถึงกับชะงัก
‘นางร้ายกาจมาก ถึงกับปิดตายหน้าต่างทั้งสองบาน’
เมื่อเห็นว่าเข้าทางหน้าต่างไม่ได้ หลิวเฉิงจึงคอยลอบมองระเบียงทางเดินรอจังหวะที่บ่าวรับใช้ซึ่งทำหน้าที่ตรวจตราในจวนผ่านไป ลอบย่องเข้าไปทางประตู แล้วกระโจนขึ้นไปบนขื่ออย่างว่องไว
แอ้ด....!
“พวกเจ้าเร็วเข้า ผสมน้ำอุ่นให้เสร็จ อีกประเดี๋ยวแม่นางหว่านจะมาแล้ว”
หลิวเฉิงที่อยู่บนหลังคาถึงกับชะงัก เขาก้มหน้าลงมองก็เห็นบ่าวรับใช้หลายคนเดินเข้ามาเทน้ำลงในอ่างไม้กลมทรงสูง สักพักสาวใช้ก็เริ่มใช้กระบวยไม้คนให้น้ำเย็นกับน้ำร้อนเข้ากัน ก่อนจะใช้นิ้วแตะในน้ำ
“อุ่นพอดีแล้ว เจ้าวางน้ำร้อนไว้บนตั่งไม้หนึ่งถังด้วย วันนี้ข้าจะดูแลนางอาบน้ำ”
“ขอรับ”
องครักษ์หนุ่มพลันหน้าซีด เขาไม่อาจจะแอบหลบออกไปได้ เพราะด้านหน้ายามนี้มีสาวใช้เฝ้าอยู่ถึงสามคน
‘นางหาเรื่องให้ข้าแท้ๆ หากไม่ปิดตายหน้าต่างพวกนั้น ข้าก็หลบออกไปได้แล้ว คราวนี้แย่แน่ หากมีคนรู้ว่าหัวหน้าองครักษ์อย่างข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องของสตรียามนางอาบน้ำ ชื่อเสียงข้าป่นปี้หมดพอดี’
************************