บทที่ 8 ชุดยอดนิยม

1500 คำ
หลิวเฉิงอาบน้ำเสร็จก็มานั่งจิบชา เขาหยิบเอาเศษเชือกที่เก็บมาได้ออกมานั่งพิจารณา เศษเชือกสีแดงเกลียวคลิปทองขนาดครึ่งฝ่ามือสะดุดตาของชายหนุ่มยิ่งนัก “เคยเห็นจากที่ใดกันนะ?” ไห่ฮ่าวเห็นประตูห้องของหลิวเฉิงเปิดอ้าเล็กน้อยเมื่อส่องเข้าไปก็เห็นหัวหน้าองครักษ์หนุ่มกำลังเหม่อลอยมองดูเชือกในมือก็ยิ้ม แอ้ด....! “ท่านกำลังเหม่อลอยคิดถึงสตรีคนใดอยู่หัวหน้าหลิว?” หลิวเฉิงหันกลับไปมองแล้วก็คิ้วกระตุก “เจ้าเสร็จธุระแล้วหรือ?” “ขอรับ หัวหน้ามือปราบเพิ่งกลับไป ข้าก็เลยคิดว่าจะมาบอกกล่าวท่าน” หัวหน้าองครักษ์หนุ่มถอนหายใจยาว ระยะนี้เรื่องราวยุ่งเหยิงรอบตัวทำให้เขาหลับไม่เต็มที ตื่นก็ไม่เต็มตา ต้องคอยระแวดระวังความปลอดภัยอยู่แทบทุกขณะจิต “คราแรกที่ย่างเท้ามาถึงจวนเจ้าเมืองได้ยินว่ามีคนร้ายบุกเรือนรับรองข้าแทบจะหัวใจวาย ดีนะที่มีแม่นางเจียงอยู่ ไม่เช่นนั้นชีวิตของใต้เท้าฉีเราคงรักษาเอาไว้ไม่ได้” ไห่ฮ่าวยิ้มน้อยๆ “ข้าพอใจในฝีมือของนางเช่นกันขอรับ ไม่คิดเลยว่าองครักษ์หญิงสกุลโม่ฝีมือดีทุกคน ครั้งก่อนตอนที่ข้าเห็นแม่นางหว่านขว้างมีดก็ยังนึกชื่นชมนาง เห็นทีวันข้างหน้าสกุลชิงก็ควรมีองครักษ์หญิงบ้าง ท่านคิดเห็นอย่างไรขอรับ?” “ไม่ควร!” “เพราะเหตุใดขอรับ?” “สตรีเหมาะจะอยู่เป็นภรรยาและมารดาที่ดีในเรือน พวกนางยังมีระดูซึ่งจะเป็นอาการที่มีทุกเดือนซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำหน้าที่องครักษ์ สกุลชิงของเราต้องอารักขาใต้เท้าชิงซึ่งเป็นถึงเจ้ากรมกลาโหม เภทภัยมากมีต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา” “มิได้ๆ หัวหน้าหลิว ข้าหมายถึงองครักษ์หญิงสำหรับคุณหนูสี่ต่างหาก” “ไห่ฮ่าว มีเจ้าเพียงผู้เดียวก็พอแล้ว ฝีมือของคุณหนูเองก็ยากที่ผู้อื่นจะต้านได้ไหว เหตุใดต้องเพิ่มสตรีมาเป็นภาระ?” “ท่านหัวเสียเกินไปแล้ว มาๆ มาดื่มสุรากับข้าหน่อยดีกว่า ข้าพกมาสองขวดพอดี” ไห่ฮ่าวหัวเราะร่วน เรื่องที่จ้งซูกับจ้งหนิงเล่าให้ฟังคงจะเป็นเรื่องจริง หัวหน้าองครักษ์หลิวผู้เคร่งครัดและรักษากฎในจวนอย่างเข้มแข็งต่อต้านการรับองครักษ์หญิง เมื่อวานก็ยังโต้เถียงกับหว่านอิ๋งอิ๋งต่อหน้าชิงเว่ยเว่ย “เจ้าไปได้สุรามาจากที่ใด?” “มีคนเอามาให้ ท่านอย่ารู้เลยว่าเป็นผู้ใด ในเมื่อเรามีสุราแล้วก็เริ่มต้นดื่มกันเถอะ” “ก็ดีเหมือนกัน คืนนี้ดื่มสักหน่อยก็น่าจะหลับสบาย” ไห่ฮ่าวยกขวดขึ้นชนกับหลิวเฉิง ครั้นเขาวางขวดลงบนโต๊ะก็มองเห็นเชือกสีแดงคลิปทองเข้าพอดี “ของนี่ ท่านนั่งดูอยู่เมื่อครู่หรือ?” “อืม...ข้าเก็บได้โดยบังเอิญ” “คุ้นมาก ข้าเคยเห็นเชือกนี้มาก่อนนะ เหมือน...เหมือนเชือกที่ประดับอยู่แขนเสื้อของอนุหว่าน ใช่! ข้าเคยเห็นหว่านอิ๋งอิ๋งสวมชุดนี้” ไห่ฮ่าวกล่าวยืนยัน “เป็นนางงั้นหรือ? ข้าต้องไปถามให้รู้เรื่อง” หลิวเฉิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขากระดกขวดสุราจนหมดแล้วลุกขึ้น “ท่านจะไปไหนหัวหน้าหลิว?” “เจ้าไม่ต้องตามมา เรื่องนี้ข้าต้องจัดการด้วยตนเอง” หลิวเฉิงคิดว่าตนเองคงจะสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพียงพอ เขาไม่อยากให้ไห่ฮ่าวตามเข้าไปในเรือนพักของหว่านอิ๋งอิ๋ง เพราะกลัวว่าหากตนเองแอบเข้าไปแล้วเห็นนางในสภาพไม่ควรจะได้ไม่มีผู้อื่นเห็นด้วย ยามนี้นางไม่ใช่อนุภรรยาอีกต่อไปแล้ว คนทั้งจวนเจ้าเมืองเรียกนางว่าแม่นางหว่าน ฐานะขององครักษ์หญิงสกุลโม่ถูกเปิดเผย หว่านอิ๋งอิ๋งกับเจียงลี่จังยังคงพักอยู่เรือนอนุภรรยาคนละเรือน หัวหน้าองครักษ์หนุ่มลอบเข้าเรือนของหว่านอิ๋งอิ๋ง ทว่าครั้งนี้นางกลับรู้ทัน เขาเพิ่งจะแง้มหน้าต่างย่องเข้าไปในห้องนางได้เพียงขาเดียวกระบี่ก็ทาบมาบนคอของเขาแล้ว “หัวหน้าหลิว นี่ท่านเป็นโจรเด็ดบุบผาหรือ? ท่านเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์สกุลชิง ทำเช่นนี้ช่างน่ารังเกียจนัก” หลิวเฉิงถึงกับสะดุ้ง เขาไม่คิดว่าตนเองจะถูกจับได้ง่ายดายเพียงนี้ “ข้า...ข้าไม่มีทางเป็นโจรเด็ดบุบผาแน่” แม้จะปฏิเสธแต่ว่าใจของหลิวเฉิงกลับนึกถึงตอนที่ตนเองเห็นเจ้าของห้องเปลือยกายเปลี่ยนเสื้อผ้าถึงสองครา ใบหน้าของเขาก็ซับสีเลือด “แน่ะ! หน้าของท่านมันบ่งบอกว่ากำลังโกหกอยู่” “ข้าดื่มสุรามาหนึ่งขวด หน้าก็ย่อมจะแดงเป็นธรรมดา เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว อีกอย่างที่ข้าลอบเข้ามาก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะถามเจ้า แต่ไม่อาจจะถามต่อหน้าผู้อื่นได้” “เหตุใดจึงถามต่อหน้าผู้อื่นไม่ได้?” ชายหนุ่มเห็นนางเอากระบี่ออกจากบ่าเขาแล้วจึงค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หัวโล้นที่อยู่ข้างโต๊ะกลม แสร้งรินน้ำชาดื่มไปหนึ่งจอก “เพราะเรื่องนี้เป็นเจ้าที่ล้ำเส้นการทำงานของข้า” หว่านอิ๋งอิ่งผงะ นางกำลังนึกสงสัยว่าหลิวเฉิงจับได้ว่านางแอบตามไปเรือนนอกเมืองที่ท่านข่านน้อยฉงซ่อนตัวอยู่ ...แต่เขาไม่มีหลักฐานแน่ เพราะนางจำได้ว่าวันนั้น มีผู้ใดเห็นตัวนางสักคน หากเขาพยายามหลอกถามนางต้องไม่ยอมรับ... “ข้าหรือ? ข้าไปวุ่นวายงานของท่านเมื่อใดกัน?”​ หญิงสาวเสนั่งรินน้ำชาดื่มด้วยเช่นกัน “เจ้าแอบตามข้าไปนอกเมือง ตอนที่ข้าตามคุณหนูสี่บุกไปเรือนซ่อนตัวของท่านข่านน้อยฉง” “มีผู้ใดเห็นข้าหรือ?” “ไม่มี!” “ในเมื่อไม่มีผู้ใดเห็นข้า แล้วเหตุใดท่านจึงปรักปรำข้าเล่า?” “เพราะข้าเห็นสิ่งนี้น่ะสิ นี่มันคือเชือกที่อยู่บนชุดของเจ้า ใช่หรือไม่?” หว่านอิ๋งอิ๋งอึ้งไปเล็กน้อยกับเศษเชือกบนฝ่ามือของหลิวเฉิง พลันนางก็เปลี่ยนท่าทีเป็นโวยวาย “ใส่ร้าย! ใส่ร้ายข้าชัดๆ” “ข้าถามคนในจวนนี้มาแล้ว เขาบอกว่าบนชุดที่เจ้าใส่เมื่อหลายวันก่อนมีเชือกแบบนี้ประดับที่แขนเสื้อ” หญิงสาวพยายามขึงหน้าให้ตึงเข้าไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อถือ “ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นของข้า? ท่านไม่รู้หรือว่าชุดเช่นนี้มีขายอยู่บนถนนไฉ่ฟู่ตั้งหลายร้าน แค่ท่านเก็บเศษเชือกได้ไม่กี่ชุ่นก็จะมาโทษว่าเป็นของข้า แบบนี้ไม่เท่ากับใส่ร้ายกันหรอกหรือ?” หลิวเฉิงที่คิดว่าจะจับนางได้คาหนังคาเขา ได้ฟังเช่นนั้นก็เริ่มลังเล “ข้าคิดว่ามันบังเอิญเกินไป ข้าเห็นหลังมือขว้างมีดผู้หนึ่งอยู่บนหลังคา เห็นหลังไวๆ แต่จับตัวคนไม่ได้ แต่กลับเจอเศษเชือกนี้ติดอยู่บนหลังคาแทน ในเมืองฉู่จิ้งแห่งนี้จะมีคนที่ใส่ชุดเหมือนเจ้าแล้วขว้างมีดได้สักกี่คนกัน” “ข้าจะไปรู้หรือ? ท่านควรไปสืบให้แน่ชัดเสียก่อนค่อยมากล่าวหาข้า แล้วนี่ท่านก็ทำเกินไปนะ ท่านน่าจะรู้ตัว จู่ๆ ท่านสงสัยแล้วแอบเข้ามาในห้องนอนของข้า เกิดผู้อื่นมาเห็นเข้าจะมองข้าเป็นสตรีเช่นไร?” หลิวเฉิงจนด้วยคำพูด จำต้องถูกหว่านอิ๋งอิ๋งลากไปผลักออกทางหน้าต่าง หัวหน้าองครักษ์หนุ่มกระโจนกลับไปที่เรือนพักของตนด้วยความหัวเสีย ไห่ฮ่าวที่ยังไม่ยอมกลับไปห้องนอนของตน นั่งยิ้มรออยู่ “หัวหน้าหลิวทำหน้าเช่นนี้ เห็นทีจะไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจกระมัง?” “ข้าไม่น่าฟังแล้วแล้วบุ่มบ่ามไปถามนางเลย คำตอบของนางฟังแล้วก็มีเหตุผล ข้าคงต้องไปสืบให้กระจ่างเสียก่อน” หัวหน้าองครักษ์หนุ่มเล่าบทสนทนาระหว่างตนกับหว่านอิ๋งอิ๋งจนจบ “ไหวพริบนางดียิ่ง ตอบมาเช่นนี้เป็นข้าก็ย่อมลังเล เห็นทีพรุ่งนี้เราคงต้องไปร้านเสื้อผ้าบนถนนไฉ่ฟู่กันสักหน่อย ชุดของนางมีขายเยอะนักหรือไร?” ไห่ฮ่าวทำหน้าฉงน เรื่องเสื้อผ้าของสตรีเขาไม่เคยสนใจเลยสักนิด “หึ! ข้าก็อยากรู้เหมือกนกัน พรุ่งนี้ตื่นแล้วพวกเราไปตลาดกัน” “ได้! ถ้าหากว่านางโกหกท่านล่ะก็ ข้าจะช่วยท่านประณามนางเอง” บุรุษทั้งสองตกลงกันเช่นนั้นแล้วก็แยกย้ายกันไปนอน ***************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม