หัวหน้าองครักษ์หลิวกำกระบี่แน่นเข้าต่อสู้กับองครักษ์ของพ่อบ้านซุยอยู่พักใหญ่ หว่านอิ๋งอิ๋งดึงผ้าปิดหน้าออกด้วยความหงุดหงิด เมื่อได้เห็นตัวของใต้เท้าเสิ่นแล้วนางก็รู้สึกสบายใจ
“ลี่จัง สู้กับพวกมันให้ถึงที่สุด มันไม่ใช่คนของทางการ”
พ่อบ้านซุยหันมาแสยะยิ้ม
“เจ้าพูดถูกแล้ว หว่านอิ๋งอิ๋ง พวกเขาคือคนของข้าที่พร้อมจะฆ่าทุกคนที่ขัดขวางแผนของเรา”
หว่านอิ๋งอิ๋ง เจียงลี่จัง และไห่ฮ่าวพร้อมเหล่าองครักษ์ของสกุลชิงเข้าปะทะกับคนของพ่อบ้านซุยตัวปลอม พวกมันมากกว่าครึ่งสิ้นชีพไป อีกครึ่งรักตัวกลัวตายจนยอมจำนน
“มัดพวกมันใส่เสาไว้ก็แล้วกัน รอมือปราบมาจับตัวไปเข้าคุกให้หมด”
เสิ่นฮูหยินหันไปมองพ่อบ้านซุยด้วยความโมโห นางพุ่งเข้าไปต่อสู้กับคนผู้นั้น ทั้งสองต่อสู้กันอยู่นานพอสมควร เสิ่นฮูหยินก็ฆ่าคนผู้นั้นได้สำเร็จ
เจ้าเมืองฉู่จิ้งตัวจริงถูกนำตัวไปอาบน้ำและเรียกมือมาตรวจรักษา ร่างกายของเสิ่นฮั่นเหลียงผ่ายผอมและทรุดโทรมลงไปอย่างมาก
“ข้าถูกพวกมันไล่ล่าจนตกลงไปจากหน้าผา มีคนมาพบและนำตัวข้าไปให้ท่านหมอผู้หนึ่งรักษา ตอนนั้นกระดูกข้าหักไปทั้งตัว ไม่นานนักก็มีคนของพวกมันไปพบเข้าแล้วชิงตัวข้ามาเอาซ่อนไว้ห้องใต้ดิน ข้าก็เพิ่งรู้ในตอนนั้นว่ามันปลอมเป็นข้าเข้ามาอยู่ในจวน ข้าร้อนใจยิ่งนักกลัวว่าน้องหญิงจะพลาดท่าหลงกลพวกมัน”
เสิ่นฮูหยินจึงเล่าเรื่องความผิดปกติที่นางรู้สึกได้จากคนผู้นั้น
“ข้าจึงไม่วางใจ จึงมิได้ให้มันเข้าใกล้นัก และน่าแปลกที่มันเองก็มิได้พยายามจะเข้าไปร่วมห้องกับข้า ช่างโชคดีนัก”
นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากว่ามันดึงดันจะร่วมห้องหรือใช้เล่ห์เหลี่ยมมากกว่านี้อีกนิด นางอาจจะพลาดท่ากลายเป็นภรรยาของคนเลว ถึงวันนั้นคงไม่อาจจะมีหน้ากลับไปอยู่กับท่านพี่ได้อีก คงต้องกระโดดแม่น้ำล้างความผิดให้ตนเอง
หว่านอิ๋งอิ๋งและเจียงลี่จังเองก็พากันโล่งใจเช่นกัน พวกนางถูกอุปโลกน์ให้เป็นอนุภรรยาเพียงในนามของเสิ่นฮั่นเหลียง แต่พอมาถึงจวนเทียนโต่วแห่งนี้ดูเหมือนใต้เท้าเสิ่นจะเปลี่ยนไปจากเดิม
“ข้าเองก็สงสัยเจ้าค่ะ เดิมทีท่านดูเหมือนจะมิได้สนใจพวกเราสองคน แต่กลับมาครั้งนี้จู่ๆ ท่านก็เหมือนจำข้ากับลี่จังไม่ได้ ซ้ำยังดูเหมือนชอบในตัวพวกเราแต่ไม่อาจร่วมเตียงได้ ช่างประหลาดนัก”
“เรื่องนี้เอาไว้ทีหลังเถิด ตอนนี้พวกเราต้องรีบเตรียมตัวรอรับคนเลวผู้นั้นกลับมาที่จวนแล้ว จะได้กระชากหน้ากากในคราวเดียว”
ใต้เท้าเสิ่นตัวปลอมที่ถูกหลอกให้ออกจากจวนเจ้าเมือง กลับมาถึงก็พบว่าเรือนของตนถูกบุกรุก ซ้ำชิงเว่ยเว่ยยังได้กระบี่เมฆาพิฆาตที่เขาซ่อนไว้ออกมาจากห้องใต้ดินด้วย
“เจ้าบังอาจสวมรอยเป็นข้า จับข้ามาขังในห้องใต้ดิน เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”
มารใต้มองเห็นเสิ่นฮั่นเหลียงตัวจริงยืนอยู่บนระเบียงพร้อมด้วยเสิ่นฮูหยินก็เดือดดาล ในขณะที่คนทั้งหมดมองคนทั้งสองที่หน้าเหมือนกันราวกับฝาแฝดด้วยความตื่นตะลึง
...มันอุตส่าห์ให้คนแปลงโฉมแซ่เหมาทำหน้ากากหนังมนุษย์เป็นใต้เท้าเสิ่นเจ้าเมืองฉู่จิ้งจนเข้ามาอยู่ในจวนนี้ได้ ยังมีคนรู้อีก...
“ชิงเว่ยเว่ย บังอาจนัก! เจ้ากล้าช่วยมันแลวยังชิงกระบี่ข้าอีก”
“ของที่เจ้าขโมยมาได้ จะนับเป็นของเจ้าได้อย่างไร? นี่มันกระบี่เมฆาพิฆาตของอาจารย์ใหญ่หวังต่างหาก”
การต่อสู้ระหว่างใต้เท้าเสิ่นตัวปลอมและคุณหนูสกุลชิงไปเป็นอย่างดุเดือด ขณะเดียวกันหว่านอิ๋งอิ๋งก็ช่วยองครักษ์ประจำตัวของชิงเว่ยเว่ยทั้งกลุ่มต่อสู้กับคนร้าย
เสิ่นฮูหยินโมโหยิ่งนัก นางประกาศจะฆ่าคนเลวผู้นั้นด้วยตนเอง เจียงลี่จังและหว่านอิ๋งอิ๋งจึงรีบกระโจนเข้าไปช่วยเสิ่นฮูหยินต่อสู้
“อย่าพูดให้มากความเลยเจ้าค่ะ เราลุยกันเลยจะดีกว่า”
อนุภรรยากำมะลอพุ่งเข้าไปหาคนของมารใต้ เสียงกระบี่กระทบกันดังสนั่นไปทั่วทั้งจวนเทียนโต่ว
“เว่ยเว่ย! ให้ข้าสู้กับคนเลวผู้นี้เอง เจ้าถอยไป” เสิ่นฮูหยินประกาศกร้าว
“ได้! แค้นนี้ท่านชำระเองเถิดเจ้าค่ะ”
ชิงเว่ยเว่ยหันไปจัดการคนชั่วที่เหลือช่วยองครักษ์ของตน หว่านอิ๋งอิ๋งกับเจียงลี่จังคอยอารักขาเสิ่นฮูหยินอยู่ใกล้ๆ เพื่อมิให้มีคนเข้าไปขัดขวางการต่อสู้ระหว่างนางกับเจ้าตัวปลอมผู้นั้น
สุดท้ายเป็นเสิ่นฮูหยินที่ปักกระบี่เข้าไปทะลุร่างใต้เท้าเสิ่นตัวปลอมจนล้มหงายตาเหลือกลงไปสิ้นใจ นางตรงไปกระชากหน้ากากของมันออก
“มันคือผู้ใดหรือเว่ยเว่ย?”
ชิงเว่ยเว่ยเดินเข้ามาใกล้ มองคนผู้นั้นถนัดตาก็ผงักศีรษะ
“เป็นอย่างที่ข้าคาดไว้ มันคือมารใต้ หนึ่งในสี่จตุรทิศองครักษ์ของท่านข่านน้อยฉงเจ้าค่ะ มันหนีหายไปตั้งนาน ข้าไม่คิดเลยว่าจะซ่อนอยู่ในคราบของใต้เท้าเสิ่น”
เสิ่นฮูหยินมองเด็กหญิงด้วยความอัศจรรย์ใจ ที่แท้นางก็รู้เห็นเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น มิน่าเล่า…นางจึงเดาทุกอย่างออกอย่างง่ายดาย
“เจ้าเก่งจริงๆ หากไม่มีเจ้า ข้าคงหาท่านพี่ไม่พบโดยง่าย”
ไม่นานนักข่าวจากสำนักมือปราบก็มาถึง เหมาชุนนักแปลงโฉมก็ถูกจับกุม ศพของพ่อบ้านซุยตัวจริงก็ถูกขุดพบ ที่แท้คนของมารใต้ก็ฆ่าเขาแล้วปลอมมาเป็นพ่อบ้าน จากนั้นๆ ค่อยๆ เปลี่ยนเอาคนของตนเข้ามาทำงานในจวนเจ้าเมืองเพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดสงสัย
หว่านอิ๋งอิ๋งเอนตัวลงนอนกับเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน เรื่องราวในจวนเจ้าเมืองในรอบเจ็ดวันนี้ช่างน่าปวดหัวยิ่งนัก
“อิ๋งอิ๋ง เจ้าจะนอนแล้วหรือ?”
เสียงเล็ดลอดเข้ามาจากหน้าประตูทำเอาเจ้าของห้องพลันสะดุ้ง
“ลี่จัง เจ้าหรือ?”
“ข้าเอง เปิดเร็วเข้า มีเรื่องด่วนจะเล่าให้ฟัง”
หว่านอิ๋งอิ๋งรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู เจียงลี่จังทำหน้าตาตื่นเข้ามาหา
“อย่าบอกนะว่ามีเรื่องตื่นเต้นอีกแล้ว”
“ก็มีน่ะสิ”
“ยังมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นกว่าเรื่องเจ้ามารใต้กับพ่อบ้านซุยอีกหรือ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ก็คุณหนูชิงกับสหายพากันลงไปสำรวจห้องใต้ดิน รู้หรือไม่? พวกนางพบคนผู้หนึ่งถูกขังไว้คนละฟากกับใต้เท้าเสิ่น นั่นคือใต้เท้าฉี นามฉีหรง ซึ่งเป็นญาติของคุณชายฉีที่หายไป”
“ไอหยา! อีกแล้วหรือ? พวกเขาขึ้นมาจากห้องใต้ดินหรือยัง?”
“ขึ้นมาแล้ว รีบไปดูกันเถอะ”
อนุภรรยาทั้งสองวิ่งตามกันไปที่เรือนพักรับรองของคุณหนูชิง เด็กๆ ทั้งสี่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ม้าหินในศาลาหน้าเรือนพัก
“คนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะคุณหนูชิง?”
“อิ๋งอิ๋ง ลี่จัง พวกเจ้านั่งลงก่อน ท่านหมอกำลังดูอาการอยู่ เขาทั้งถูกบังคับให้อดอาหาร ถูกโบย ถูกแทงและล่ามตรวน ไม่ต่างจากใต้เท้าเสิ่นหรอก”
“เหตุใดจึงพากันไปห้องใต้ดินอีกเล่าเจ้าคะ?”
“พวกเราอยากไปสำรวจดูน่ะ พวกเขาสามคนอยากเห็น ข้าจึงพาเข้าไป ไม่คิดเลยว่าจะเจอท่านอาฉีเข้า”
หัวหน้าองครักษ์หลิวที่ยืนอยู่ด้านหลังชิงเว่ยเว่ยมองหว่านอิ๋งอิ๋งกับเจียงลี่จังสลับกัน เดิมทีเขาคิดว่าพวกนางอาจจะเป็นแค่สาวใช้ที่มาคอยช่วยเหลือเสิ่นฮูหยินไม่คิดว่าฝีมือของพวกนางทั้งสามจะร้ายกาจจนองครักษ์อย่างเขาไม่อาจจะประมาทได้
หว่านอิ๋งอิ๋งรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกจับจ้อง นางเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาจับผิดของหลิวเฉิงเข้าพอดี...เหตุใดเขาจึงมองนางด้วยสายตาไม่วางใจ?
“คืออย่างนี้นะ อนุหว่าน ท่านอาของข้าถูกสวมรอยมาพักใหญ่แล้ว พวกเรากลุ่มฉีหลินสืบเรื่องนี้จนรู้ชัดว่าเอี้ยชุนคือคนที่ปลอมเป็นท่านอาของข้า ต่อมามันหนีไปแต่เรายังหาท่านอาไม่เจอ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะพบโดยบังเอิญเช่นนี้”
“กลุ่มฉีหลินคืออันใดหรือเจ้าคะ?”
ฉีเหยียนมองหน้าหว่านอิ๋งอิ๋งแล้วยิ้มแฉ่ง
“มาๆ อนุหว่านข้าจะเล่าให้ท่านฟังเอง”
ระหว่างที่ฉีเหยียนเล่าที่มาของการตั้งกลุ่มฉีเหยียนให้หว่านอิ๋งอิ๋งฟัง หลิวเฉิงยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิก พอฟังจนจบเด็กกลุ่มฉีหลินก็พากันออกไปสืบเรื่อภายนอกต่อ
“คุณหนูชิง ให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ?”
“อนุหว่าน วรยุทธ์ของท่านดียิ่ง ข้าอยากไหว้วานท่านให้ช่วยดูแลความปลอดภัยใต้เท้าฉีในยามที่ข้าไม่อยู่เจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือไม่?”
“ยินดีๆ เดี๋ยวข้าจะมาดูแลที่นี่ระหว่างที่พวกท่านออกไปข้างนอกเอง”
********************