หลังจากที่ดื่มกันจนเมา เสิ่นฮูหยินก็เล่าเรื่องที่นางรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของสามีหลังจากกลับมาจากเมืองหลวง ชิงเว่ยเว่ยจึงบอกสิ่งที่นางสืบรู้มาให้เสิ่นฮูหยินได้ทราบ
“เสิ่นฮั่นเหลียงผู้นี้มิใช่สามีของท่าน มันเป็นพวกเดียวกันกับคนที่ปลอมเป็นใต้เท้าฉี ตอนนี้ข้ากำลังตามหาว่าพวกมันเอาใต้เท้าเสิ่นกับใต้เท้าฉีไปซ่อนไว้ที่ใด?”
บอกได้เท่านั้น สตรีทั้งสามก็ฟุบหลับลงไป ชิงเว่ยเว่ยที่ยืนโงนเงนอยู่ข้างโต๊ะถูกองครักษ์ของนางอุ้มกลับไปนอนยังเรือนรับรอง ส่วนเสิ่นฮูหยินก็ถูกสาวใช้สองคนประคองไป หว่านอิ๋งอิ๋งที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเงยหน้าขึ้นโวยวายให้สาวใช้พาอนุเจียงเข้าไปนอน ส่วนนางสะบัดมิให้ผู้ใดจับ
“ม่ายต้อง...เดี๋ยวข้าเดินเอง”
หลิวเฉิงที่ยืนดูอยู่ห่างๆ เห็นหว่านอิ๋งอิ๋งโซซัดโซเซตามหลังทุกคนเพื่อจะกลับไปยังห้องนอน เขาก็รีบลอบตามไป
ปัง!
หว่านอิ๋งอิ๋งยกเท้าขึ้นถีบประตูก่อนจะเดินก้มหน้าป่ายมือเปะปะคลำไปถึงโต๊ะกลมกลางห้องแล้วฟุบลงไป
‘สตรีบ้า! ดูทำเข้า คนอย่างเจ้า มันช่างห่ามเสียเหลือเกิน’
หัวหน้าองครักษ์หนุ่มมองสภาพของอนุภรรยาของท่านเจ้าเมืองด้วยความเอือมระอา เขานึกเป็นห่วงว่าเธอจะได้รับอันตราย หากว่าคนของใต้เท้าเสิ่นตัวปลอมเกิดบุกเข้ามา
ชายหนุ่มรีบเข้าไปลั่นดาลประตูห้องนอนให้นางแล้วประคองผู้หญิงที่เมาเละเทะผู้นั้นขึ้นไปนอนบนเตียง เขามองปลายเท้าของนางแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
‘ข้ายังต้องถอดรองเท้าแล้วห่มผ้าให้เจ้าด้วยหรือ? ข้าไม่ได้ใจดีกับผู้อื่นขนาดนั้น? แค่ดูแลความปลอดภัยก็พอแล้ว’
เขาดึงผ้าห่มมาคลุมให้นางอย่างจำใจแล้วก็ลอบออกไปทางหน้าต่าง
แสงแดดยามสายทำให้หว่านอิ๋งอิ๋งรู้สึกตัว เสียงเคาะประตูถี่ๆ นั้นเร้าให้นางต้องลุกขึ้นโซเซไปเปิดประตู สาวใช้สองคนทักทายยามเช้า
“อนุหว่าน พวกเรามาเตรียมน้ำอุ่นให้เจ้าค่ะ”
“ดีๆ ข้าอยากอาบน้ำมากเลยตอนนี้”
“นายหญิงให้ท่านรีบหน่อยเจ้าค่ะ เพราะเรื่องเมื่อคืนที่พวกท่านเมาเละเทะนั่น ทำให้ความลับถูกคุณหนูชิงเปิดโปงแล้ว”
“อ๋า?” ใบหน้าของหว่านอิ๋งอิ๋งเหลอหลา นางเริ่มจำเรื่องเมื่อคืนได้แล้ว แต่ยังนึกไม่ออกว่าตนเองไปถึงเตียงได้อย่างไร?
“เมื่อคืนท่านเข้านอน ไม่ถอดรองเท้านะเจ้าคะ ดูสิ ที่นอนเปื้อนหมด”
“เออ...ข้าขอโทษด้วยก็แล้วกัน”
นางรีบอาบน้ำแล้วออกไปหาเสิ่นฮูหยิน ฝ่ายนั้นกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับเจียงลี่จัง ทั้งสามมองหน้ากันด้วยความกังวล ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตารับประทานจนอิ่ม
สาวใช้ผู้หนึ่งจึงวิ่งเข้ามารายงานว่าคุณหนูชิงมาขอพบ เด็กหญิงเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เรื่องเมื่อคืนพวกท่านอย่าได้กังวล...ข้าจะช่วยพวกท่านเอง”
หว่านอิ๋งอิ๋งนั่งฟังด้วยความตื่นเต้นเมื่อชิงเว่ยเว่ยเป็นผู้วางแผนจะพาคนบุกเข้าไปในเรือนหลังใหญ่ของใต้เท้าเสิ่น
“ความลับที่ข้ายังไม่ได้บอกพวกท่าน เพราะพวกท่านเมาหลับกันไปก่อนก็คือ ข้าเป็นสายลับสำนักข่าวนกกระจิบและมีวรยุทธ์พอตัว”
สตรีทั้งสามรีบรวมศีรษะเข้าหารือ พวกนางไม่วางใจในตัวชิงเว่ยเว่ยเพราะนางเป็นเพียงเด็กสิบเอ็ดขวบ หว่านอิ๋งอิ๋งจึงเสนอให้ทดสอบฝีมือ
เสิ่นฮูหยินคิดอยากให้จะเจียงลี่จังประลองฝีมือกระบี่กับไห่ฮ่าวองครักษ์ประจำตัวของชิงเว่ยเว่ย ทว่าเด็กหญิงกลับโพล่งขึ้นมา
“เอาอย่างนี้ พวกเรามาทดสอบการปากมีดในนี้จะดีกว่า”
“ก็ดี หากผู้ใดปามีดได้แม่นยำที่สุดผู้นั้นจะมีสิทธิ์ตัดสินใจในแผนการทั้งหมด”
เสิ่นฮูหยินยิ้มกว้าง ยังไม่มีผู้รู้ว่าคนของนางนับว่าเป็นมือขว้างมีดที่หาตัวได้ยาก นางรีบรับคำแล้วให้คนจัดการติดเป้าใส่ที่ผนังและเตรียมมีดสั้นมา
เจียงลี่จังทำหน้าที่ขว้างมีดเป็นคนที่หนึ่ง แต่นางกลับปาไม่เข้าจุดกึ่งกลางเลยสักเล่ม นางจึงหันไปบอกกับหว่านอิ๋งอิ๋ง
“ฝีมือข้าแย่นัก เจ้ามาแก้ตัวแทนข้าที”
หว่านอิ๋งอิ่งยิ้มกว้าง หญิงสาวยืนหลังตรงมองตรงไปยังเป้า
ฟิ้ว! ฉึก!
เมื่อมีดสั้นเล่มนั้นปักเข้าไปในจุดดำที่มีขนาดสามตารางชุ่นอย่างแม่นยำ คนทั้งหมดก็ถึงกับตกตะลึง
“ฝีมือเจ้าร้ายกาจจริงอนุเจียง”
เจียงลี่จังยิ้มกว้างค้อมศีรษะลงขอบคุณทุกคน จากนั้นก็ยืนหลับตาปามีดออกไปอีกครั้ง
ปลายมีดเล่มที่สองปักลงไปใกล้มีดเล่มแรก นางปาต่อไปอีกจนกระทั่งครบห้าเล่ม มีดทั้งห้าของนางปักซ้อนกันอยู่บนเป้าตรงกลาง
“คุณหนูขอรับ ฝีมือนางร้ายกาจมาก ไม่คิดเลยว่าอนุหว่านจะมีฝีมือเช่นนี้” ไห่ฮ่าวก้มหน้ากระซิบกับคุณหนูของตนเอง
“นางเก่งจริงๆ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก”
ชิงเว่ยเว่ยปลอบใจองครักษ์ของตนแล้วเดินไปยืนในตำแหน่งพร้อมจะปามีด แต่ที่เหนือความคาดหมายของฝ่ายภรรยาเจ้าเมืองก็คือ เด็กหญิงเรียกให้สาวใช้เอาผ้ามาคาดปิดตานาง
“ปิดตา!” สตรีทั้งสามที่รอดูตกใจอย่างมาก
“ขอรับ คุณหนูฝึกอย่างนี้เป็นประจำ” ไห่ฮ่าวหันไปตอบอย่างเย่อหยิ่ง
สตรีทั้งสามจ้องเขม็ง มองดูมีดสั้นอันแรกถูกปาออกไปปักที่กลางเป้าอย่างแม่นยำ แต่ยังไม่ทันจะปรบมือยินดี ชิงเว่ยเว่ยกลับปามีดอันที่สอง สาม สี่ และห้าออกไป
ฟิ้ว! ฉึก! ฟิ้ว! ฉึก!
ยังไม่มีผู้ใดได้ปรบมือ ชิงเว่ยเว่ยก็ปามีดไปจนหมด มีดเล่มที่หนึ่งถึงสามเบียดกันแน่นอยู่กลางเป่าส่วนเล่มที่สี่กับเล่มที่ห้าเสียบต่อท้ายจากมีดสามเล่มแรก
ภรรยาของใต้เท้าเสิ่นทั้งสามถึงกับยืนขึ้นจ้องมองที่เป้าแล้วอ้าปากค้าง
“น้องเว่ยเว่ยฝีมือเจ้าร้ายกาจนัก”
“คุณหนูชิง ท่านปามีดเก่งกว่าเจ้าสำนักของข้าเสียอีก” หว่านอิ๋งอิ๋งถึงกับกล่าวชื่นชม นางที่เป็นมือปามีดอันดับหนึ่งในหมู่มวลศิษย์ยังยอมพ่ายด้วยใจ
“ถ้าพวกท่านยอมแพ้แล้ว เราก็มาวางแผนบุกห้องใต้ดินกันเถอะ”
ชิงเว่ยเว่ยกับไห่ฮ่าวนำคนของตนเองสวมชุดดำปกปิดใบหน้าบุกเข้าไปในเรือนของใต้เท้าเสิ่น พวกเขาแอบงัดหน้าต่างฝั่งที่อยู่ทางสวนเข้าไป เสิ่นฮูหยินกับอนุภรรยาทั้งสองแอบซุ่มรออยู่ด้านนอก
“ครั้งนี้เราน่าจะหาใต้เท้าเสิ่นพบนะเจ้าคะ”
พวกนางทั้งสามคนทำหน้าที่รอคอยอยู่ด้านนอกเพื่อป้องกันมิให้องครักษ์ของเสิ่นฮั่นเหลียงรู้ตัวหรือบุกเข้าไปด้านในหากมีความเปลี่ยนแปลง
ผ่านไปร่วมครึ่งชั่วยาม ชิงเว่ยเว่ยกับไห่ฮ่าวก็นำตัวของเสิ่นฮั่นเหลียงออกมาจากห้องใต้ดินได้สำเร็จ เมื่อเห็นพ่อบ้านซุยนำองครักษ์เข้าไปต่อสู้กับชิงเว่ยเว่ยและคนของนาง เสิ่นฮูหยินกับอนุภรรยาทั้งสองจึงเข้าไปช่วย
พ่อบ้านซุยเป็นพ่อบ้านประจำจวนเจ้าเมืองเห็นคนชุดดำจำนวนมากบุกเข้ามาก็ตวาดเสียงดัง
“พวกเจ้าที่บุกมาครั้งก่อนใช่หรือไม่? ดีๆ คราวนี้มาพร้อมกันจะฆ่าทิ้งเสียในคราวเดียว”
หว่านอิ๋งอิ๋งที่ปกปิดหน้ามิดชิดจ้องมองพ่อบ้านซุยอย่างแปลกใจ
“เจ้าเองก็รู้ใต้เท้าเสิ่นผู้นี้เป็นตัวปลอมแต่ยังทำงานรับใช้เขา หรือว่าแท้จริงเจ้าเองก็ใช่พ่อบ้านซุย?”
“ฮ่าๆ ดูออกแล้วหรือ? ใช่! ข้าไม่ใช่พ่อบ้านหน้าโง่ผู้นั้น น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่อาจจะหนีออกไปบอกผู้ใดได้อีกแล้ว”
หว่านอิ๋งอิ๋งเข้าไปช่วยชิงเว่ยเว่ยกับไห่ฮ่าวต่อสู้ นางใช้กระบี่ไล่ฆ่าองครักษ์ที่มาพร้อมกับพ่อบ้านซุยอย่างดุเดือด เสิ่นฮูหยินโมโหอย่างมากที่เห็นสามีตนเองอยู่ในสภาพโทรมราวกับศพ ก็บุกฝ่าเข้าไปจนถึงตัวสามีของนาง
“ท่านพี่! นี่ข้าเอง โม่จางลี่”
ใต้เท้าเสิ่นที่ถูกจับไปขังในห้องใต้ดินเรือนนอนของตนเองนานนับเดือนถึงกับน้ำตาคลอ ภรรยาของเขาเป็นคนฉลาด ดีจริงที่นางมิได้หลงกลคนเลวผู้นั้น
“ข้าสกปรกอยู่เลย เจ้าอย่าเพิ่งกอดข้า”
“ท่านพี่ ข้าตามหาท่านทุกหนทุกแห่ง เจ้าคนบัดซบผู้นั้นมันปลอมเป็นท่านแต่ข้ารู้สึกว่าเขาแปลกๆ จึงไม่วางใจ”
*********************
*ชิงเว่ยเว่ย นางเอกจากเรื่อง “เว่ยเว่ยสาวน้อยสลับวิญญาณ”