บทที่9
จื่อรั่วทิ้งตัวลงกับตั่งไม้แทบจะทันทีที่มาถึงเรือนเหมยฮวา เลือกเรือนหลังเล็กสุดและอยู่ลึกที่สุดในจวนสกุลจื่อแห่งนี้ เพิ่งเดินทางมาถึงก็ต้องไปปั้นหน้ายิ้มกับบิดา กว่าจะเข้ามาถึงเรือนนอนก็ขาแทบลาก
ฮูหยินใหญ่ช่างรักนางเสียจริง เล็กๆน้อยๆให้ได้กลั่นแกล้งกันก็ไม่คิดที่จะผ่อนปรน
“เดี๋ยว! แม่นม เหตุใดในเรือนไม่มีข้าวของของข้า”
เมื่อนั่งพักจนหายเหนื่อยจึงมีเวลาได้สำรวจข้าวของที่นำมาจากฝูโจว ไม่มีชิ้นใดเลยที่คุ้นตา ทุกชิ้นล้วนเป็นของใหม่
“ของเก่าที่มาจากฝูโจว ฮูหยินใหญ่บอกว่ามันเก่าแล้ว อีกทั้งไม่กี่วันคุณหนูก็จะแต่งออกไปต้องมีเครื่องเรือนติดตัวไปด้วยให้สมฐานะ ของเดิมที่ขนมาจากฝูโจไม่อาจนำไปบ้านสามีได้ เพราะจนจะพังแล้วเจ้าค่ะ”
แม่นมจางหยิบจับ ปัดกวาดเช็ดถูเครื่องเรือนใหม่ด้วยรอยยิ้ม แม้ฮูหยินใหญ่จะเกลียดคุณของนางยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน แต่ก็ยังมีสำนึกผิดชอบชั่วดี จัดการเสื้อผ้า เครื่องเรือน และเครื่องประดับใหม่ มาให้เพื่อให้สมเกียรติคุณหนูใหญ่ของตระกูลจื่อ แม้ข้าวของเหล่านี้จะไม่ได้ล้ำค่ามากมายเท่าใดนัก แต่ก็ดีกว่าของเก่าหลายสิบเท่า
“แล้วของเดิมเล่า เอาไปไว้ไหน” เท่าที่จำได้ขนกลับมาหลายคันรถ เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามที่พูดคุยกับบิดา คนพวกนั้นก็ขนของนางไปไว้ที่ไหนกัน
ยิ่งเห็นสีหน้าอึกอักลำบากใจในทันทีของแม่นมจางหลังจากนางเอ่ยถึงของเดิม เมื่อรอคำตอบอยู่นานแม่นมก็ยังไม่ปริปากบอก ยังคงก้มหน้าก้มตาหยิบจับข้าวของในเรือนต่อ จึงถามต่อ
“คงจะเอาไปแจกจ่ายบ่าวไพร่ในจวนสินะ ของพวกนั้นเก่าพุพังแล้ว หากแม่ใหญ่คิดจะขายคงจะได้ไม่กี่ตำลึง ไม่คุ้มที่จะเสียหน้าของตนเองหรอก”
“คุณหนูเข้าใจผิดไปผิดแล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่สั่งให้รื้อทิ้งเอาไปทำเป็นฟืนในโรงครัวเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่
“ท่านหมายความว่าอย่างไรแม่บ้านหม่า”คำตอบที่ได้ ไม่ตกใจเท่าอยู่ๆ แม่บ้านหม่าก็มาที่เรือนของนางพร้อมสาวใช้อีกสองคน พวกนางมาที่นี่เพราะเหตุใด
“เดิมของพวกนั้นฮูหยินสั่งให้แจกจ่ายบ่าวไพร่ในเรือนแล้ว แต่ตอนที่ข้าวของของคุณหนูมาถึงกลับไม่มีบ่าวคนไหนเลยที่จะเลือกของพวกนั้นกลับเรือนนอน จะว่าพวกนางก็ไม่ได้ของที่พวกนางใช้สภาพดีกว่าของที่คุณหนูขนมาจากฝูโจมากนัก หากพวกนางนำกลับเรือนนอนก็จะเป็นขยะมากกว่าประโยชน์ เมื่อคิดถึงผลได้ผลเสียแล้ว จึงไม่มีบ่าวคนใดหยิบจับพวกมันเลย รังจะกองข้าวของเหล่านั้นทิ้งไว้ที่ลานจวนก็คงจะดูไม่มีเท่าใด นำไปขยะพวกนั้นไปขายก็จะเสียชื่อตระกูลอย่างที่คุณหนูกล่าว ฮูหยินจึงให้ข้าน้อยรื้อของพวกนั้นทำเชื้อเพลิงในโรงครัว ยังจะมีประโยชน์มากกว่า”
แม่บ้านหม่าพูดไปก็จีบปากจีบคอเดินพูดไปเรื่อย แต่สายตาคอยลอบสังเกตสีหน้าท่าทางของคุณหนูใหญ่ไปด้วย อยากรู้ว่านางจะมีทีท่าเยี่ยงไรเมื่อสมบัติของตนเองมีค่าเป็นเพียงแค่เชื้อเพลิงหุงหาอาหารเท่านั้น และแล้วนางก็สมใจ เมื่อเห็นประกายความเสียใจบนดวงหน้านวล แม้จะเพียงชั่วพริบตาหากไม่ได้คอยจับตามองดูตลอดเวลาใช่นางคงไม่ทันได้เห็น
“ท่านแม่ใหญ่คิดทำอย่างไรข้าก็เห็นดีด้วย” จื่อรั่วคลี่ยิ้มเพียงเล็กน้อย
“แม้ว่า ของพวกนั้นจะเป็นสินเดิมของมารดาท่านอย่างนั้นหรือเจ้าค่ะ”
“โอ้ย แม่บ้านหม่า ของที่แม้แต่บ่าวไพร่ยังไม่แล ไม่มีค่าอะไรกับข้านักหรอก ท่านดูเรือนนอนของข้าสิ โต๊ะเครื่องแป้งใหม่ คันฉ่องทองเหลืองบานใหญ่ ข้าจะไปสนใจของพวกนั้นไปทำไม” พูดแล้วก็เดินสับขาไปทรุดตัวลงที่โต๊ะเครื่องแป้งหลังงามที่แกะหลักฉลุลวดลายดอกโบตั๋น หยิบจับหวีไม้อันใหม่ขึ้นมาสางผมยางดำขลับพร้อมทั้งส่องกระจกไปด้วยสีหน้าชื่อบาน
หลังจากแม่บ้านหม่าและสาวใช้เดินออกจากเรือนเหมยฮวา จื่อรั่วถึงกับน้ำตาร่วงหล่น ทั้งๆที่บอกกับตนเองและทำใจที่จะโดนฮูหยินของจวนกลั่นแกล้ง ของพวกนั้นจริงอยู่เป็นสินเดิมของมารดา แม้จะพร่ำบอกตอนเองว่าทุกสิ่งล้วนเป็นเพียงของนอกจาก ไม่ได้หวงแหนหรือผูกพันเป็นเพียงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น แต่พอถูกฮูหยินใหญ่ทำแบบนี้ก็อดที่จะเสียใจและเสียดายพวกมันไม่ได้ และที่สำคัญมันเจ็บอยู่ข้างใน เหมือนถูกสตรีผู้นั้นหย่ามเกียรติและศักดิ์ศรี มือบางปาดน้ำตาออกจากดวงหน้าลวกๆ อยู่ๆก็ลุกพรวดพราดจนแม่นมจางที่กำลังเอื้อมมือหมายจะปลอบโยนถึงกับผงะถอยหลบแทบไม่ทัน
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดด” ร่างบางทิ้งตัวลงบนฟูกนอนฝังใบหน้าลงบนหมอนใบใหม่ กรี้ดร้องออกมาจากแสบคอ ดิ้นดิ้นแตะแข็งแตะขาอยู่บนเตียงนอนอีกพักใหญ่ ก่อนจะล้วงเข้าไปในสาบเสื้อแล้วยกยิ้มให้กับสิ่งที่อยู่ในกำมือ
“แม่นมข้าอยากไปโรงครัว ไปดูซักหน่อยว่าเครื่องเรือนของข้าถูกแยกชิ้นส่วนเป็นอย่างไรบ้าง ให้นางได้คิดว่าข้านั้นอาลัยอาวรณ์เสียอกเสียใจกับสินเดิมของมารดาที่ขนไปขนกลับ”
แม่นมจางทำเพียงเดินตามหลังคุณหนูจางนางเงียบ หวังว่าคุณหนูของนางคงไม่เจ็บแค้นกับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้อย่างที่กล่าวออกมา เพราะของใหม่ในเรือนดีกว่าของเก่ามากนัก เท่าที่เลี้ยงดูกันมา คุณหนูก็ไม่ได้ยึดติดกับข้าวของพวกนั้น แต่สิ่งที่คิดกลับผิดคาด เพราะวันต่อมา บ่าวไพร่และเจ้านายทุกคนในเรือนใหญ่ท้องร่วง จนต้องตรวจสอบกันเป็นการใหญ่ พบว่าบ่อน้ำหลักปนเปื้อน
ไม่มีใครสงสัยคุณหนูใหญ่ผู้มาใหม่เลยซักนิด เพราะนางเองก็ท้องเสียเช่นเดียวกับทุกคนในจวน