ธิปรกมองตามแล้วกัดฟันกรอดๆ ด้วยความโมโหทั้งตนเองและรดา พอหันหลังไปมองที่โรงครัวซึ่งอยู่ไม่ไกลนักก็ต้องหน้าแดงก่ำด้วยความอายผสมความโกรธเมื่อคนงานในไร่ทุกคนกำลังจับจ้องมองมาที่เขาและพากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน
บางคนก็แกล้งล้อเลียนทำท่าเหมือนเขากับรดาเมื่อสักครู่ เขากัดฟันกรอดๆ ตีหน้าถมึงทึงเดินกระแทกเท้าเข้าไปหาคนงาน แต่ลูกน้องตัวแสบมีหรือจะอยู่รอบาทาหนักๆ พอเขาเดินตรงดิ่งมาหา กลุ่มคนงานก็แตกฮือวิ่งหนีคนละทิศคนละทางไปที่บ้านพัก
รดาเดินลงจากเรือนกล้วยไม้ไปที่โรงครัวเมื่อได้ยินเสียงเคาะโหม่งเรียกคนงานในไร่ให้ไปทานข้าวมื้อเย็น หญิงสาวยิ้มหวานให้คนงานในไร่ที่ทยอยเดินเข้ามาในโรงครัว เธอเดินเข้าไปหาป้าอ้วนที่กำลังวุ่นวายกับการจัดสำรับข้าวก่อนจะเอ่ยถาม
“ป้าอ้วนมีอะไรให้รดาช่วยไหมคะ”
ป้าอ้วนละมือจากงานที่กำลังทำอยู่ก่อนจะบ่นงึมงำ “มีอีหนู ไม่รู้วันนี้คนงานในไร่มันเป็นอะไรกัน ปกติป้าเคาะโหม่งเป็นสิบๆ ครั้งพวกมันถึงจะมาที่โรงครัว แต่วันนี้ป้ายังไม่ทันได้เคาะโหม่งด้วยซ้ำพวกมันก็มาออเต็มโรงครัวป้าก็เลยจัดกับข้าวไม่ทัน”
รดาอมยิ้มขณะที่ฟังป้าอ้วนบ่นก่อนจะเอ่ยอาสาด้วยความเต็มใจ “งั้น...รดาจะช่วยป้าอ้วนเองนะคะ”
ป้าอ้วนหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างมีเลศนัยแล้วหันไปส่งซิกให้กับลูกมือจากนั้นก็เอ่ยถามเพื่อหยั่งเชิงหญิงสาว
“เอ็งจะช่วยป้าจริงหรือวะ”
“จริงสิค่ะ รดาอยากช่วยทุกคนทำงานบ้าง ให้รดาอยู่เฉยๆ รดาก็เกรงใจเหมือนกันค่ะ” รดาเอ่ยตอบยิ้มๆ แล้วช่วยหยิบผักสดใส่จาน
ป้าอ้วนได้ยินคำตอบแล้วยิ้มกริ่มแผนการเป็นป้าดันให้หญิงสาวมาเป็นแม่เลี้ยงของไร่ธิปรกกำลังจะเริ่มขึ้น มืออวบอูมเอื้อมไปยกสำรับกับข้าวแล้วยื่นให้รดาก่อนจะแกล้งเอ่ยบอกเสียงเศร้า
“นังหนู เอ็งช่วยยกสำรับนี้ไปให้พ่อเลี้ยงหน่อย ป้างานยุ่งจนไม่มีเวลายกไปให้เอง”
รดามองสำรับกับข้าวแล้วทำหน้ามุ่ยหันไปมองลูกมือป้าอ้วนที่ต่างก็ทำงานมือเป็นระวิง
“ให้คนอื่นเอาไปไม่ได้หรือคะ รดาอยากอยู่ช่วยป้าอ้วนในครัว”
“ไม่ได้ พ่อเลี้ยงไม่ชอบให้ผู้หญิงขึ้นไปที่เรือนกล้วยไม้ จะขึ้นไปได้ก็มีป้ากับเอ็งเท่านั้น คนงานผู้หญิงคนอื่นๆ พ่อเลี้ยงห้ามไม่ให้ขึ้นไปเด็ดขาด!” ป้าอ้วนเอ่ยตอบแล้วยัดสำรับกับข้าวใส่มือบางที่รับมาถือไว้อย่างอิดออด
“แล้วทำไมพ่อเลี้ยงไม่ลงมากินที่โรงครัวเหมือนคนอื่นๆ เดือดร้อนป้าอ้วนต้องยกไปให้ทุกวัน เดี๋ยวรดาเอาไปถวายเจ้านายเองก็ได้ค่ะ”
รดาบ่นกระปอดกระแปดแทนป้าอ้วนแต่ก็ยอมรับสำรับมาถือไว้แล้วเดินช้าๆ ไปที่เรือนกล้วยไม้ พอรดาเดินออกพ้นห้องครัวป้าอ้วนกับลูกมืออีกสามสี่คนพากันตบมือกราวหัวเราะเสียงดังชอบใจในแผนการของพวกตน
รดามัวแต่เดินก้มหน้าก้มตาประคองสำรับอาหารด้วยความระมัดระวังไม่ให้หกกลางทางจนไม่ทันเห็นคนร่างยักษ์ที่กำลังเดินตรงดิ่งมาหาเธอ พอเงยหน้าขึ้นหญิงสาวก็เกือบชนกำแพงมนุษย์ที่ยืนจังก้าขวางทางไว้
“ยกสำรับไปไหน” ธิปรกเอ่ยถามเสียงแข็ง
รดาเงยหน้าขึ้นมองยักษ์ขมูขีที่ชอบทำหน้าบึ้งตลอดเวลาก็นึกอย่างแกล้งพ่อเลี้ยงขี้โมโหเธอจึงยิ้มหวานใส่แล้วเอ่ยประชดหน้าตาย
“จะยกสำรับกับข้าวไปเซ่นเจ้าบนเรือนกล้วยไม้ค่ะ”
ธิปรกทำหน้าตึงรู้ว่าหญิงสาวหมายถึงใคร มือหนาคล้ำแดดเอื้อมไปคว้าถาดสำรับมาถือไว้เองแล้วเอ่ยเสียงลอดไรฟัน
“ไม่ต้องเอาไปแล้ว ผมจะไปกินที่โรงครัว”
“ต่อไปต้องไปกินทุกวันนะคะ ป้าอ้วนจะได้ไม่ต้องเหนื่อยยกกับข้าวมาให้พ่อเลี้ยง”
รดาเอ่ยสั่งอย่างลืมตัว ลืมนึกไปว่าตนเองเป็นแค่คนมาขออาศัยไม่ใช่เจ้าของเรือน ธิปรกถึงกับอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเจอหญิงสาวต่อว่าตรงๆ
“ตกลงใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของไร่” ธิปรกเอ่ยแขวะเสียงห้วน
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”
รดาเอ่ยตอบยิ้มๆ แล้วเดินนำหน้าไปที่โรงครัว ธิปรกทำเสียงฮึดฮัดในลำคอเมื่อทำอะไรหญิงสาวไม่ได้ นอกจากเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ
เมื่อเดินกลับมาที่โรงครัวอีกครั้งรดาก็เอ่ยรายงานข่าวให้ป้าอ้วนรับทราบทันที
“ป้าอ้วนคะ ต่อไปไม่ต้องยกสำรับไปให้พ่อเลี้ยงแล้วนะคะ เพราะว่าต่อไปนี้พ่อเลี้ยงจะมากินที่โรงครัวเหมือนคนอื่นๆ”
“ฮ้า!...”
ป้าอ้วนร้องได้แค่นั้นก็อ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึงเมื่อเห็นพ่อเลี้ยงเดินแบบไม่สบอารมณ์เข้ามาในโรงครัว
ปกติแล้วพ่อเลี้ยงจะกินข้าวบนเรือนเพราะมีงานให้ทำมากจึงไม่มีเวลาลงมากินที่โรงครัวเหมือนคนงานคนอื่นๆ ระหว่างที่กินข้าวพ่อเลี้ยงก็มักจะทำงานไปพร้อมๆ กันด้วย เพราะฉะนั้น...เมื่อได้ยินว่าพ่อเลี้ยงจะลงมากินที่โรงครัวทุกวันก็ทำให้ป้าอ้วนและคนอื่นๆ แปลกใจอยู่ไม่น้อย
รดายิ้มกว้างชอบใจกับผลงานของตนเองเมื่อคนงานเริ่มเข้าแถวรับแจกข้าว เธอก็เข้าไปช่วยป้าอ้วนอีกแรง ชาญแย่งเข้าแถวได้เป็นคนแรก เขายื่นจานหลุมมาให้พร้อมกับรอยยิ้มกว้างพอรดาตักกับข้าวให้เรียบร้อยแล้ว ชาญก็ยื่นกระดาษใบเล็กให้อีกใบ รดารับกระดาษเปล่ามาพลิกดูแล้วเอ่ยถามอย่างงงๆ
“อะไรคะ?”
“ขอลายเซ็นต์คุณรดาด้วยครับ” ชาญยิ้มกริ่มขณะเอ่ยตอบ
“ได้ค่ะ”
รดายิ้มให้แล้วเซ็นต์ชื่อลงไปบนกระดาษแผ่นเล็กจากนั้นก็ยื่นให้ชาญคืน คิวต่อไปเป็นของสนเมื่อยื่นถาดหลุดให้แล้วก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้เหมือนกัน รดาเซ็นต์ชื่อให้สนเสร็จก็ชะเง้อมองไปยังคนงานที่ยืนเข้าแถวอยู่ ทุกคนจะถือจานหลุดและกระดาษสีขาวคนละใบ หญิงสาวเห็นแล้วก็หัวเราะเบาๆ สงสัยต้องตักกับข้าวพร้อมกับแจกลายเซ็นต์จนกว่าจะครบทุกคน
เมื่อตักกับข้าวพร้อมกับแจกลายเซ็นต์ให้คนงานครบทุกคนแล้วรดาก็หยิบจานหลุมจะตักข้าวกินบ้าง ป้าอ้วนเห็นแล้วก็รีบเดินมาแย่งจานไปจากหญิงสาวแล้วไล่ให้ไปนั่งกินกับพ่อเลี้ยง
“อีหนู! เอ็งไปนั่งกินเป็นเพื่อนพ่อเลี้ยงสิ”
รดาหันไปมองพ่อเลี้ยงหนุ่มที่ยังทำหน้าตูมอยู่ก็ส่ายหน้าดิกปฏิเสธทันควัน
“ไม่เอา รดาขอนั่งกินกับคนงานในไร่ดีกว่าไปนั่งกินกับยักษ์วัดแจ้ง”
“ไปนั่งกับพ่อเลี้ยงเถอะอีหนู สงสารพ่อเลี้ยงนั่งกินข้าวคนเดียวทุกวันมานานแล้ว ถ้ามีเอ็งไปนั่งด้วยคงทำให้พ่อเลี้ยงเจริญอาหารขึ้นเยอะ” ป้าอ้วนเอ่ยพร้อมกับดุนหลังให้หญิงสาวเดินไปที่โต๊ะอาหารที่พ่อเลี้ยงนั่งอยู่
“แหม!...รดาไม่ใช่ผงชูรสนะคะที่เห็นหน้ารดาแล้วจะทำให้เจริญอาหารได้” หญิงสาวเอ่ยค้อนยิ้มๆ โก่งตัวหนีไม่ยอมเดินไปง่ายๆ