เขาหัวเราะร่วนเบา ๆ
“ ใช่ ข้าเป็นคนลามกป่าเถื่อน ดังนั้นเจ้าก็คงจะรู้ดีว่าในยามที่แก้ผ้าอยู่ต่อหน้าชายลามกป่าเถื่อนเช่นข้าก็อย่าปากดีนัก เพราะข้าจะทำทุกอย่างที่ต้องการโดยที่ไม่สนผู้ใดหน้าไหนทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารที่เจ้าจะเรียกเข้ามา ข้ารับรองได้เลยว่าหัวของพวกมันจะหลุดออกจากบ่าทันทีที่ย่างก้าวเข้ามาในนี้ เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าข้าเป็นจอมทัพ ทหารเหล่านั้น ก็ล้วนแล้วแต่ข้านี่แหละที่เป็นผู้ฝึกฝน หมายจะให้ศิษย์มาล้างครูน่ะมันยากนัก ”
โอหังสิ้นดี
นางคิดในใจ อยากจะเข้าไปตบตีตะกุยใบหน้าหยิ่งยโสนั้นให้อาบไปด้วยโลหิต หากความเป็นจริงได้แต่นั่งนิ่ง ตัวแดงหน้าแดง ทั้งโกรธทั้งอายประดังประเดไปหมด
“ แล้วไอ้เรื่องที่ว่าข้าเข้ามาในนี้ได้ยังไงนั่น ข้าก็ขอบอกเลยว่าคนอย่างข้านั้นมีอิสระมิขึ้นต่อผู้ใด ดังนั้นข้าจะไปไหนก็ได้ทั้งนั้น ถูกหรือไม่เล่า ”
“ แต่ไม่ใช่สถานที่อันเป็นส่วนตัวของผู้อื่นเช่นนี้ เจ้ามิรู้จักคำว่ากาลเทศะหรือมารยาทรึ ” แม้จะอยู่ในสภาพหมิ่นเหม่และเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด แต่นางก็อดมิได้ที่จะจิกกัดเขากลับบ้าง
“ กาลเทศะงั้นรึ เออ นั่นสินะ ข้าลืมไปได้อย่างไร เป็นชายชาตรีแท้ ๆ กลับมาเอาเปรียบผู้หญิงที่กำลังแก้ผ้าอาบน้ำแบบนี้ไม่ควรเลย ” เขาว่าพลางปลดสายคาดเอวของเสื้อคลุมตัวนอก นางระร่ำระลักถามด้วยความตกใจ
“ นะ... นั่นเจ้าจะทำบ้าอะไรของเจ้า !? ”
“ ก็จะแก้ผ้าลงไปอาบน้ำกับเจ้าให้เท่าเทียมอย่างไรเล่า ”
พรึ่บ !!
เสียงอาภรณ์ของเขาถูกทิ้งให้กองอยู่บนพื้น ดวงตาของซูเม่ยเบิกโพลงด้วยความตกใจ เรือนร่างเปลือยเปล่าของชายฉกรรจ์ยืนตระหง่านง้ำอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่เขาจะก้าวเดินลงมาในอ่างน้ำของนางด้วย !
เหรินซูเม่ยหลับตาปี๋ตัวสั่นเทาด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะบ้าบิ่นได้ถึงเพียงนี้
“ เจ้าอ่างบ้านี่มันช่างคับแคบนัก ” เสียงเขาพร่ำบ่นเบา ๆ ก่อนที่หญิงสาวจะรู้สึกว่าตนเองนั้นโดนยกจนตัวลอยก่อนวางแหมะลงบนตักเขา นางลืมตาทันทีแล้วก็ต้องตกใจเป็นคำรบที่สองที่ได้เห็นใบหน้ายียวนนั้นอยู่ห่างแค่เพียงคืบ ตัวนางเองกำลังนั่งอยู่บนตัก สองเรียวขาคร่อมเอวสอบ อกอวบอิ่มเบียดบดอยู่บนแผงอกกำยำ ที่สำคัญทั้งสองร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อน !
“ อย่าร้องนะ ! ” เขาขู่ทันทีที่เห็นสีหน้าตกอกตกใจของนาง นางไม่ร้องอย่างที่เขาบอก แต่กลับรัวฝ่ามือฟาดลงไปทุกส่วนที่นางเอื้อมถึงทั้งที่ใบหน้า แผงอก หัวไหล่ ต้นแขน อย่างบ้าคลั่ง
แทนที่เขาจะเจ็บกลับหัวเราะร่วนราวกับมันเป็นเรื่องน่าขันเสียเต็มประดา ไม่สะทกสะท้านกับการทั้งโดนฟาดโดนหยิกหนุบหนับตุ้บตั้บนั้น ยิ่งทำให้นางโมโหหนัก
“ เจ้ามันบ้า บ้า บ้า ข้าเกลียดเจ้านัก ! ”
“ ใช่ ข้าบ้า ทำคนบ้าเจ็บระวังจะโดนเอาคืนบ้างนะ ” เขาว่าพลางรวบข้อมือทั้งคู่ของนางเอาให้ไพล่หลังไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว นั่นทำให้ทรวงอกของนางแอ่นเข้าหาแผงอกของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ คนถ่อยก้มลงมองสองเต้าอวบอิ่มที่มี ยอดถันสีเม็ดทับทิมชูชันบดเบียดอยู่กับเรือนกายของตนด้วย แววตากระหายหิวปิดไม่มิด
“ เจ้ามีเต้านมสวยเหลือเกิน ไม่ใหญ่ไม่เล็ก กลมกลึงเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย หัวนมสีชมพู ขนาดก็น่าจะพอดีปากพอดีคำของข้า น่ากินเป็นยิ่งนัก ” นั่นทำให้นางยิ่งอับอายมากขึ้น
“ ไอ้บ้า ไอ้คนถ่อย ปล่อยข้านะ ข้าบอกให้ปล่อยอย่างไรเล่า ! ” นางยังไม่สิ้นฤทธิ์ แม้มือจะโดนพันธนาการแต่ยังคงดิ้นขลุกขลักอยู่บนตักของเขา
“ หยุดดิ้นเสียที ”
“ ข้าไม่หยุด ให้บุรุษอย่างเจ้าได้รู้ว่าแม้ข้าจะเป็นเพียงสตรีมือเปล่า แต่ข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้ารังแกได้ง่าย ๆ เจ้ามันชายผู้ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี ! ”
“ เจ้าคิดว่าการดิ้นรนของเจ้ามันจะทำให้ข้าเจ็บปวดและพ่ายแพ้ยอมจำนนงั้นหรือ เจ้าผิดแล้ว ซูเม่ย ”
“ องค์หญิงซูเม่ย กรุณาใช้คำเอ่ยขานอย่างให้เกียรติข้าด้วย ”
“ เมื่อครู่เจ้ายังด่าข้าไม่มีเกียรติ แต่คราวนี้จะมาเรียกร้องให้ข้าให้เกียรติ สติเจ้ายังดีอยู่หรือไม่ ” วาจาถากถางพร้อมด้วยใบหน้ายียวนยิ้มเยาะนั้นมันทำให้นางโมโหหนัก
“ สติข้าดีทุกประการและจดจำได้ดีเป็นยิ่งนักว่าหากข้าเป็นอิสระ ข้าจะตามฆ่าเจ้า แม้ตัวจะตายกลายเป็นผี ข้าก็จะตามหลอกหลอนให้เจ้าอยู่ไม่เป็นสุข ” แม่ทัพหนุ่มหัวเราะหนัก
“ ช่างน่ากลัวเสียจริง ผีน้อยผู้น่ารักของข้า ”
“ ข้าไม่ใช่ของเจ้า ปล่อยข้า ! ” นางเถียงพลางดิ้นรนหนักขึ้น เขานิ่วหน้าราวกับกำลังเจ็บปวดหนัก นั่นทำให้นางได้ใจ
“ นั่นอย่างไรเล่า เจ็บใช่ไหมล่ะ สีหน้าของเจ้ามันบ่งบอกออกมาจนหมดสิ้นแล้วว่าเจ้าเจ็บจากการที่ข้าดิ้นไม่มากก็น้อย ” เขานิ่ง ดวงตาลุ่มลึกราวราตรีในคืนเดือนดับจ้องมองนางอยู่ชั่วอึดใจ
“ ใช่ เจ้าทำให้ข้าเจ็บ แล้วเจ้าอยากรู้ไหม ข้าเจ็บที่ตรงไหน ”
“ ตรงไหนมันก็เรื่องของเจ้า สมควรแล้ว ” นางแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจ
“ ข้าเจ็บตรงลำเอ็นที่กลีบก้นของเจ้าคร่อมทับอยู่ ”
คำบอกเล่าเสียงสั่นพร่าของเขาทำให้รอยยิ้มของนางค่อย ๆ จางหาย ก่อนที่นางจะรู้สึกตัวอย่างที่เขาว่า กลีบก้นของนางนั่งทับอยู่บนอะไรบางอย่างที่เป็นลิ่มลำและอุ่นร้อน ใบหน้าหวานเจื่อนซีดขึ้นในพริบตา แม้นางจะยังไร้เดียงสาแต่ก็ไม่ได้โง่เง่าถึงขั้นไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร