K Part.
ผมมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ ผู้หญิงคนนั้นกล้าดียังไงถึงได้มาตบคนของผมต่อหน้าผู้คนแบบนี้และระหว่างที่ผมยืนมองอยู่นั้นเธอก็ยกมึงจะตบออมอีกรอบ ผมจึงต้องรีบเข้าไปและขวางยัยผู้หญิงบ้าคนนั้นเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายออมของผม
"ทำอะไร?"
ผมกดเสียงต่ำถามเห็นแววตาเธอทั้งตกใจแล้ววูบไหวใบหน้าเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ แต่ถามว่าผมสนใจมั๊ย? ไม่เลยสักนิด! เพราะผู้หญิงคนเดียวที่ผมสนใจคือออม
"คะ คือ เอ่อ"
"ฉันถามว่าเธอทำอะไรเมียฉัน!"
ยัยคนตรงหน้าชะงักสีหน้าเปลี่ยนไปนิดหนึ่ง เธอตวัดสายตาใส่ผู้หญิงด้านหลังผม
"เมีย?"
"ใช่! ออมคือเมียฉัน"
ผมเอ่ยย้ำเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าถ้าคิดจะทำร้ายออมจะต้องเจอกับอะไร และถึงผมอยากจะตบผู้หญิงตรงหน้ามากแค่ไหนแต่ผมก็ถือว่าตัวเองเป็นผู้ชาย งั้นติดไว้ก่อนแล้วกัน!
แต่ผมบอกเลยเพราะไม่ปล่อยไปแน่!
"เธอกล้ามากที่มาทำร้ายเมียฉัน"
ผมจูงมือออมเดินออกมาจากตึกคณะ เธอเดินก้มหน้าตลอดทางดูเหมือนจะร้องไห้ด้วยซ้ำ แต่คงไม่แปลกอะไรเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวและเธอคงกำลังเสียใจ
ผมพาเธอเข้ามานั่งในรถก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาให้เบาๆ
"อย่าร้อง"
ผมเอ่ยเสียงดุเพราะไม่อยากเห็นเธอเศร้าหมองตอนอยู่กับผม
"เดี๋ยวพากลับบ้าน"
แต่ผมไม่ได้จะพาเธอกลับไปบ้านหลังนั้นหรอกนะ บ้านที่ว่านี้คือคอนโดของผมต่างหาก
Aom Part.
ฉันยังช็อคกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย บอกตรงๆฉันเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าส้มชอบคนโรคจิตแบบพี่เค ฉันเครียดเรื่องส้มจนปวดหัวนั่งเหม่อลอยไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็เข้ามาอยู่ในคอนโดหรูแล้ว
"เอ๊ะ!"
ฉันมองไปรอบๆด้วยความตกใจก่อนจะหันมองหน้าพี่ที
"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?"
"คุณ?"
"เอ่อ...คือ...พี่เคพาฉันมาที่นี่ทำไม?"
พอฉันเรียกเขาว่าพี่สีหน้าเขาก็ดูดีขึ้นมาโดยทันที
"อีกครึ่งชั่วโมงคนของพี่จะย้ายของเธอมาไว้ที่นี่"
อะไรนะ! ย้ายมาที่นี่! ฉันเงยหน้ามองโถงล็อบบี้โอ่อ่าใหญ่โตที่เต็มไปด้วยโคมไฟสวยๆ แต่ถึงมันจะสวยมากแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่สักหน่อย!
"คือ...ฉัน.."
"พี่ก็เคยพูดอะไรไว้จำไม่ได้หรือไง?"
เขาบอกว่าถ้าฉันขัดใจเขาจะขังฉันไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย ใช่! ฉันจำได้ แต่แค่ไม่คิดว่าเขาจะทำจริงๆ
"เป็นผัวเมียก็ต้องอยู่ด้วยกัน"
เขาพูดแบบนี้ออกมาได้ไง! ลืมไปแล้วหรอว่าตัวเองกำลังใส่ชุดนักศึกษาอยู่! ฉันอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเพราะสายตาคนรอบข้างที่มองมายังเราสองคน
อีตาบ้า!
ฉันได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจเพราะถ้าหากเอ่ยออกไปคงถูกบีบคอตายแหงๆ
ฉันเดินคอตกตามหลังพี่เคขึ้นมาด้านบน ห้องของเขาอยู่สูงมากและฉันก็กลัวความสูงซะด้วยสิ เขาจูงมือฉันพาเดินมาตรงกระจกเพียงแค่มองลงไปข้างล่างขาฉันก็สั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
"กลัว?"
ฉันพยักหน้าก่อนจะถอยหลังให้ห่างจากกระจก ตรงนี้มันสูงมากแผ่นกระจกก็ใสจนเหมือนไม่มีกระจกกั้น
ฉันมองคนตัวสูงที่ยกยิ้มมุมปากเหมือนกับขำท่าทางกลัวของฉัน เขาหยิบรีโมทขึ้นมา เพียงแค่กดปุ่มผ้าม่านก็เลื่อนออกมาปิดกระจก
"ปิดแล้วไม่ต้องกลัว"
ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นลมก่อนจะวูบลงไปและไม่รู้สึกตัวอีก...
K Part.
ผมรีบปราดเข้าไปรับร่างบางก่อนที่เธอจะร่วงลงพื้น ผมไม่รู้ว่าเธอกลัวความสูงและท่าทางเธอจะกลัวมากซะด้วยไม่งั้นคงไม่หน้าซีดตัวสั่นจนถึงขั้นเป็นลมไปแบบนี้
ผมอุ้มเธอเข้ามาวางไว้บนเตียงในห้องนอนก่อนจะโทรศัพท์ตามหมอให้มาดูอาการ
"เธอเป็นไงบ้าง?"
ผมเอ่ยถามหลังจากที่หมอเดินออกมาจากห้อง หมอนี่คือหมอริวเป็นฝาแฝดหมอรุ้งซึ่งเป็นหมอประจำตัวผม
"แค่เป็นลมสักพักก็คงหาย ตอนนี้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติแล้ว"
ไอ้หมอริวเอ่ยตอบพร้อมกับหรี่ตามองผม
"อะไร?"
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครวะ?"
ผมเกลียดความอยากรู้อยากเห็นของมันจริงๆ ถ้าไม่ติดว่ามันอายุมากกว่าและเป็นเพื่อนกับไอ้คราม ผมคงไล่มันตะเพิดไปแล้ว
"เมีย"
"เมีย!"
มันร้องอุทานด้วยความตกใจ แค่บอกว่าออมเป็นเมียผมมันจะตกใจอะไรนักหนาวะ
"แล้วท่านประธานรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?!"
ท่านประธานประธานที่ว่าคือพ่อผมเอง เขาเป็นพ่อที่เห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ ซึ่งผมเกลียดเขามาก!
"ทำไมต้องบอกคนๆนั้นด้วย"
"ก็เขาเป็นพ่อแกไง"
เขาแกล้งทำเป็นสนใจใยดีผมไปอย่างนั้นแหละ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่เขาเคยทำกับแม่ผมหรอก อีกอย่างตอนนี้ผมก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอะไรเขาอีกแล้ว!
"เรื่องในอดีตก็ปล่อยมันไปเถอะ พ่อแกเขาสำนึกผิดแล้วจริงๆ ขนาดไอ้ครามมันยังให้อภัยได้เลย"
คนที่อยู่กับแม่ตลอดคือผมไม่ใช่ครามเพราะฉะนั้นมันจึงไม่เคยรับรู้ความเจ็บปวดของแม่เหมือนที่ผมรับรู้
"ใครจะให้อภัยผู้ชายคนนั้นก็ให้ไป แต่ฉันไม่ให้!"