ห่วงยิ่งกว่าสิ่งใด

2233 คำ
แน่นอนว่าหลังจากการหายตัวไปของหรูเยี่ยนฟาง หยางหย่งเล่อไม่สามารถทนอยู่เฉยได้ เขาระดมกำลังทั้งหมดออกตามหาเบาะแสของนาง เมื่อไม่พบเบาะแสใด จึงต้องทำให้เขากลับมายังจุดที่นางหายตัวไปครั้งแรก และยิ่งได้ทราบว่าไม่เฉพาะแต่นางเท่านั้นที่หายตัวไป แต่ยังมีเหลียนฮวาด้วย จากที่ตอนแรกเขาสืบหาเบาะแสอย่างใจเย็น กลับกลายเป็นกราดเกรี้ยวเพียงแค่รู้ว่าเหลียนฮวาได้หายตัวไป "สืบหาจากตรงนี้ใหม่อีกรอบ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกมันจะสามารถดำดินหนีหายไปได้" เมื่อหยางหย่งเล่อเอ่ยประโยคนี้จบลง ก็ได้มีแววตาเป็นประกายขึ้นมาคล้ายกับพึ่งนึกถึงบางสิ่งออก "ดำดิน…!!!" ในที่สุดเขาก็แสยะยิ้มร้ายขึ้นมา ก่อนที่สายตาจะกวาดมองไปยังพื้นดิน "เหตุใดเปิ่นหวางถึงนึกไม่ถึงตั้งแต่ตอนแรก ต่อให้มันมีปีกก็บินหนีไปไม่ได้ หากอาศัยจังหวะช่วงชิงตัวนางในบริเวณนี้ เพราะเปิ่นหวางได้ตรึงกำลังคอยเฝ้าสังเกตนางไว้จนหมดแล้ว ที่แท้ที่ไม่สามารถหาร่องรอยใดๆ ได้เลยนั้น เป็นเพราะว่าพวกมันพานางหนีไปจากทางใต้ดินและคงเตรียมการเอาไว้นานแล้ว" ทหารมากมายเริ่มสืบหาร่องรอยเส้นทางลับหรืออุโมงค์บางอย่าง ที่จะสามารถเป็นทางหนีได้ เพียงไม่นานพวกเขาก็พบเส้นทางนั้น "ถือว่าพวกมันมีความฉลาดไม่เบา ใช้เพียงคนแค่ไม่กี่คนก็สามารถล้วงคอราชสีห์อย่างเปิ่นหวางได้" ดวงตาคมกริบสีรัตติกาลทอดมองไปที่เส้นทางนั้นอย่างน่ากลัว สตรีที่ ถือกำเนิดขึ้นมาจากดอกเหลียนฮวาย่อมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับเขาแล้วแค่เพียงนางยังมีชีวิตรอดก็เพียงพอแล้ว ต่อให้บุปสลายไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร พวกมันย่อมต้องดูแลนางเป็นอย่างดีไม่กล้าให้นางเป็นอันใดไปเพราะถือว่านางยังมีประโยชน์สำหรับพวกมันอยู่ แต่สำหรับชีวิตที่พวกมันคิดว่าเป็นเพียงพลทหารชั้นต่ำ ที่หาได้มีความสำคัญอันใดกับพวกมันเล่า ป่านนี้มิใช่ว่าพวกมันจะกำจัดนางไปแล้วหรือ แค่เพียงคิดถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ขึ้นมา หัวใจของเขาก็ถูกบีบรัด เขาตัดสินใจไปยังเส้นทางลับนั้นด้วยตนเอง "ท่านอ๋องส่งทหารของเราไปตรวจดูก่อนไม่ดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ หากมีกลอุบายใดที่พวกมันวางเอาไว้ พวกเราจะได้ตั้งรับไว้ได้ทัน" หยางหย่งเล่อชะงักฝีเท้าลง ในใจได้แต่ครุ่นคิดว่าสำหรับทหารพวกนั้น คงเล็งเห็นถึงแต่ความสำคัญของสตรีในดอกเหลียนฮวาแต่สำหรับพลทหารผู้หนึ่งจะยังมีความสำคัญอันใดกับพวกเขา แค่คิดถึงความเป็นไปได้ ว่านางจะได้รับอันตราย หัวใจของเขาก็ไม่สามารถทนอยู่เฉยได้ จึงรีบกล่าวออกมาเสียงเย็น "เปิ่นหวางจะไปจัดการพวกมันด้วยตนเอง กลอุบายใดที่เปิ่นหวางไม่เคยพบพานมาบ้าง เพียงเท่านี้ไม่สามารถทำอันใดเปิ่นหวางได้หรอก รีบกระจายกำลังของเราตามมา เปิ่นหวางจะจุดพลุสัญญาณเมื่อพบทางออก ให้พวกเจ้าไปสมทบเปิ่นหวางที่ตรงนั้น" "พ่ะย่ะค่ะ" เมื่อเดินตามช่องทางลับนั้นไป เขาพบว่าตลอดเส้นทาง เต็มไปด้วยความมืดมิด แต่แสงไฟจากคบเพลิงส่องให้เห็นว่าจากตรงนี้ หนทางถูกแบ่งออกเป็นสองสายหยางหย่งเล่อลังเลก่อนที่เท้าของทหารผู้หนึ่งจะไปเตะเข้ากับบางสิ่ง เขาหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาก่อนที่จะถูกคว้าไป หยางหย่งเล่อคว้าของที่อยู่ในมือของพลทหารมาพิจารณา ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างขึ้น "รองเท้าของนาง" "แต่กระหม่อมว่านี่คือรองเท้าของพลทหารที่หายตัวไปผู้นั้นมากกว่า" เกาหยีเทียนกล่าวแย้งออกมาอย่างไม่เห็นด้วยเพราะดูอย่างไรนี่ก็เป็นรองเท้าของบุรุษ ที่พบเห็นได้ทั่วไปในทหารสังกัดของเขา โดยตีความหมายของหยางหย่งเล่อผิดไป ว่าผู้เป็นนายอาจจะเข้าใจอะไรผิด แต่สำหรับหยางหยงเล่อแล้วเขารู้ดีว่าตนเองหมายถึงสิ่งใด เกาหยีเทียนเดินไปสำรวจอีกเส้นทางหนึ่งก็พบรอยเท้าจำนวนมาก แต่เมื่อเขาหันไปยังเส้นทางที่พบรองเท้าของพลทหารผู้นั้น ก็พบเพียงรอยเท้าเดียว ซึ่งเดาได้ไม่ยาก ว่าสตรีที่พวกเขากำลังตามหาอยู่น่าจะไปยังเส้นทางใด แต่หยางหย่งเล่อไม่นำพาความสงสัยนั้น "แบ่งคนออกเป็นสองเส้นทาง นายกองเกาเจ้านำคน ไปยังเส้นทางนั้น ส่วนข้าจะตามไปยังเส้นทางนี้" "แต่ว่า…" เกาหยีเทียนอยากจะพูดอะไรอีกสักประโยค แต่เมื่อเขาเห็นดวงตาสีรัตติกาลคล้ายกับกำลังสั่นไหว แสดงถึงความกังวลใจอย่างชัดเจน ก็ได้แต่เงียบปากลง พร้อมกับรีบหันกายวิ่งไปยังทิศทางที่หยางหย่งเล่อออกคำสั่ง ในใจก็ได้แต่เกิดคำถามมากมาย นี่ท่านอ๋องถึงขนาดหลงใหลพลทหารผู้นั้น จนไม่สนใจถึงความสำคัญที่ต้องทำแล้วหรือ ชีวิตของพลทหารผู้หนึ่ง จะสามารถเทียบได้กับชีวิตของสตรีในดอกเหลียนฮวาได้อย่างไร หยางหย่งเล่อที่ตามร่องรอยมาเรื่อยๆ ก็ได้พบเข้ากับสิ่งของบางสิ่ง ที่เมื่อเขาเห็นมันแล้วถึงกับแผ่รังสีอำมหิตออกมา จนแม้นแต่ทหารข้างกายก็ยังสามารถรับรู้ได้ เขาทอดมองเสื้อเกราะของพลทหารในมือด้วยสายตาดำมืด "รีบตามไป" หยางหยางเล่อพยายามทำใจเย็น อย่างน้อยนี่ก็บ่งบอกว่าพวกมันไม่ได้คิดจะสังหารนาง แต่ที่แยกนางออกมาอีกทางนั้นเพื่อต้องการสิ่งใดกันแน่…!? ความห่วงใยในความปลอดภัยของนาง ทำให้เขาเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น จนพลทหารที่ตามมาด้วยไม่สามารถตามทัน ด้วยประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยม ทำให้เขาได้ยินคล้ายกับเสียงตะโกนที่แผ่วเบาดังมาจากยังที่ไกลๆ ถึงแม้จะได้ยินไม่ชัดนัก แต่เขาก็พอจะรู้ว่านั่นมันเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของคนผู้หนึ่ง "แม้แต่น้ำเสียงของเจ้าก็ยังฟังดูนุ่มนวล แต่น่าเสียดายนักที่อัปลักษณ์จนข้าไม่สามารถทนมองได้ และมันช่างสวนทางกับผิวกายของเจ้าเหลือเกิน ผิวกายที่นุ่มนวล อย่างที่ข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถึงแม้จะดำคล้ำไปบ้าง แต่กลับให้ความนุ่มละมุนจนยากจะละมือจาก" เหลียนฮวาที่ถูกมัดมือเท้า มองโจรป่าหยาบกร้านผู้นั้นด้วยสายตาหวาดกลัว "เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้า" ถึงแม้จะเห็นถึงสายตาหื่นกระหายนั้นแล้ว แต่นางก็ยังอยากถามออกไป เพื่อความมั่นใจ โจรป่ามองเหลียนฮวาด้วยสายตา บ่งบอกความต้องการอย่างไม่ปิดบัง 'บุรุษผู้นี้ชมชอบบุรุษมากกว่าสตรี' เหลียนฮวาเอ่ยว่า "คงต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว" นางกัดริมฝีปากแน่น ก่อนที่ชั่งใจว่าจะเอ่ยบอกบุรุษผู้นี้ออกไปดีหรือไม่ ว่าตนเองเป็นสตรีหาใช่บุรุษอย่างที่เขาชมชอบ แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยบอก โจรผู้นั้นก็นำผ้ามามัดปากของนางเอาไว้ พร้อมทั้งนำผ้ามาคลุมปิดหน้าของนางไปด้วย "ทำเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องทนเห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของเจ้าแล้ว" โจรป่าที่เต็มไปด้วยความกระหายกระชากอาภรณ์ของเหลียนฮวาจนขาดวิ่น น้ำลายไหลยืด คล้ายกับมองเหยื่ออันโอชะ นางทำได้แค่เพียงส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ โจรผู้นั้นมีดวงตาเบิกกว้างขึ้น เมื่อเห็นว่าบริเวณหน้าอกของเหลียนฮวาได้มีผ้าสีขาวพันรอบเอาไว้อย่างแน่นหนา "นี่มัน…!? " โจรป่าที่อยู่ในอารามแปลกใจยื่นมือออกไป หวังจะดึงผ้าที่พันรอบอกของนางออก ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างก็ได้ถูกบางสิ่งเคลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว จนมันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อสังเกตดูให้ดี จึงพบว่ามือทั้งสองข้างของโจรป่าผู้นั้นได้ ถูกตัดออกจนเลือดกระฉูดออกมาอย่างไม่ขาดสาย มันมองมือที่ขาดวิ่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนที่ไม่นานดาบบนมือของหยางหย่งเล่อจะสะบั้นไปที่คอของมันอีกครั้ง โดยที่มันยังไม่ทันได้กระพริบตาเป็นการปิดฉาก เหลียนฮวาที่ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ภาพที่นางเห็นเป็นเพียงภาพขมุกขมัวที่มองลอดผ่านจากผ้าปิดหน้า หญิงสาวเห็นเพียงความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและของเหลวบางสิ่งที่กระเด็นเข้ามากระทบร่างจากกลิ่นคาวของมัน สามารถบ่งบอกได้ว่านั่นคือกลิ่นคาวเลือด นั่นจึงยิ่งทำให้นางรู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้น ความรู้สึกหวาดกลัวถาโถมเข้ามา ก่อนที่ร่างทั้งล่างจะถูกบางสิ่งคลุบทับเอาไว้ พร้อมทั้งความอบอุ่นของอ้อมกอดของใครบางคน เนื้อตัวของนางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว จนผู้ที่โอบกอดนางอยู่สามารถสัมผัสได้เสียงนุ่มทุ้มดังอยู่ข้างหูอย่างแผ่วเบาเพื่อหวังปลอบประโลม "ข้าอยู่นี่แล้วเจ้าจะไม่เป็นอันใด" เมื่อผ้าคลุมหน้าถูกเปิดออก ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยม่านน้ำ ก็ได้แต่เบิกกว้างขึ้น ก่อนที่น้ำตาจะไหลรินออกมาไม่ขาดสาย คล้ายกับภาพตรงหน้าคือสิ่งที่ทำให้นางรอดชีวิต หยางหย่งเล่อใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาให้กับนางอย่างอ่อนโยน เขาดึงนางเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง พร้อมทั้งค่อยๆ แกะเชือกที่มัดปากของนางออก "ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่" "นี่หาใช่ความฝัน ข้าอยู่นี่แล้ว พวกมันจะไม่สามารถแตะต้องเจ้าได้" เหล่าทหารที่ตามหยางหย่งเล่อมา ทันได้เห็นภาพนั้นเข้าพอดี ก็ได้แต่รู้สึกไม่เชื่อสายตาอยู่บ้าง ข่าวลือที่ว่าหย่งอ๋องให้ความสำคัญกับพลทหารผู้หนึ่งเป็นพิเศษ หาได้เกินจริง เมื่อพวกเขาได้เห็นภาพนี้เข้าด้วยตาตนเอง เหลียนฮวาลืมสิ้นถึงความเหมาะสมต่างๆ แต่เมื่อตั้งสติได้ นางจึงรีบก้มลงมองอาภรณ์ของตนเองอีกครั้ง ดวงตาของนางก็ได้เบิกกว้างขึ้น ก่อนที่จะกระซิบถามหยางหย่งเล่อออกไปอย่างแผ่วเบา "ท่านทราบ" เมื่อไม่เห็นความแปลกใจของเขา นางจึงทราบในทันทีว่าหยางหย่งเล่อรู้แล้วว่านางเป็นสตรีหาใช่บุรุษ "ท่านอ๋องทราบตั้งแต่เมื่อใด" "เรื่องนั้นหาใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้เปิ่นหวางอยากจะรู้ว่าพวกมันที่เหลืออยู่ที่ใด" เหลียนฮวาที่พยายามตั้งสติของตนเอง หลังจากที่ได้ทราบว่าหยางหย่งเล่อทราบความลับของตนเองแล้ว ก็ได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า โจรป่าผู้นี้เอ่ยบอกกับผู้ที่คล้ายว่าจะเป็นหัวหน้าของมัน ว่าจะนำนางมาอีกทาง แล้วไปพบกันที่ยังบางแห่ง เมื่อคิดถึงเหตุการณ์นั้นแล้ว นางจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับหยางหย่งเล่อได้ทราบอย่างละเอียด "ดูเหมือนว่าคนที่จับเจ้ามา จะเป็นกลุ่มโจรป่า ธรรมดา ถือว่าพวกมันมีความกล้ามาก" "แต่กระหม่อมว่าพวกมันดูจะชำนาญเส้นทางแถวนี้เป็นพิเศษ เพราะใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถชิงตัวของสตรีผู้นั้นมาได้ พอดีกับที่กระหม่อมอยู่แถวนั้นพอดี จึงได้ถูกจับมาด้วย พวกมันอาจจะมีความสามารถอยู่ไม่น้อย หากเป็นโจรป่าธรรมดาคงจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้" "จริงอย่างที่เจ้าพูดเพราะพวกมันสามารถหลบสายตาคนของเปิ่นหวาง จนเข้าถึงตัวของเหลียนฮวาได้" เหลียนฮวาที่ได้ยินชื่อของตนเองก็ได้แต่มองจ้องเขา อย่างต้องการคำอธิบาย "ด้วยไม่รู้ว่าจะเรียกนางว่าอย่างไร จึงเรียกนางว่าเหลียนฮวาตามสิ่งที่นางถือกำเนิดขึ้นมา" เหลียนฮวาตัวจริงก็ได้แต่พยักหน้ารับ หยางหย่งเล่อหันไปเอ่ยบอกคนของตนเองว่า นำพลทหารผู้นี้ กลับไปยังค่ายทหารของเราและอย่าให้มีเรื่องไม่คาดคิดอันใดเกิดขึ้นกับเขาอีกเป็นอันขาด" หยางหย่งเล่อสั่งการคล้ายกับว่านี่คือสิ่งของมีค่า ที่หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทหารที่ดูแลรับผิดชอบความปลอดภัยของนาง จะต้องรับโทษหนัก นั่นจึงทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าพลทหารผู้นี้จะต้องมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับผู้เป็นนาย เพราะแม้นแต่สตรีที่ถือกำเนิดมาจากดอกเหลียนฮวาผู้นั้น ท่านอ๋องยังหาได้ห่วงความปลอดภัยของนาง รีบรุดมาช่วยพลทหารธรรมดาผู้หนึ่งโดยไม่สนใจคำครหาใด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม