เมื่อส่งตัวเหลียนฮวาให้กับทหารใต้อาณัติแล้ว หยางหย่งเล่อก็ได้นำแผนที่ออกมากาง และคาดเดาถึงสถานที่ๆ เหลียนฮวาได้บอกเอาไว้ เมื่อมาถึงยังสถานที่ๆ คิดว่าโจรพวกนั้นจะใช้เป็นที่พักพิง ก็มีดวงตาเป็นประกาย เมื่อพบว่าความคิดของตนนั้นถูกต้อง เขาตามรอยเท้าที่ถูกทิ้งเอาไว้ จนไปพบเข้ากับถ้ำที่คิดว่าพวกมันคงมาหลบพักอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อเดินเข้าไปด้านใน ก็ได้ยินเสียงการสนทนาบางอย่าง
"เหตุใดข้าที่ได้ร่วมหลับนอนกับนางแล้ว ถึงยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง"
"ตามตำนานก็ไม่ได้บอกไว้ว่ามันจะมีผลทันที หรือพวกเราจะต้องรออีกสักระยะ"
"เกรงว่าพวกเราคงไม่มีเวลาถึงเพียงนั้น ป่านนี้ไม่ใช่ว่าคนของหย่งอ๋องจะค้นพบเส้นทางลับของพวกเราแล้วหรือ…!? "
"ในเมื่อเรามีเวลาไม่มาก และยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ แต่ลูกก็ได้เห็นเต็มสองตา ว่าสตรีผู้นี้คือสตรีที่ถือกำเนิดมาจากเหลียนฮวา ดอกนั้นไม่ผิดแน่"
"แต่น่าแปลกใจนักเหตุใดใบหน้าของนาง ถึงได้มีความละม้ายคล้ายคลึงกับสตรีของลูกนัก แต่เมื่อพิจารณาให้ดี ผิวพรรณของสตรีผู้นี้ช่างเนียนละเอียด หาได้มีความคล้ายคลึงกับสตรีของลูก จะมีก็แต่เพียงหน้าตาที่เหมือนกันมาก"
ในขณะที่สองพ่อลูกกำลังสนทนากันอยู่ บุรุษผู้หนึ่งก็เดินออกมา พร้อมทั้งจัดแจงสาบเสื้อของตนเองให้เข้าที่ เมื่อสองพ่อลูกเห็นว่า บุรุษผู้นั้นได้เดินออกมาก็เอ่ยถามบางสิ่ง
"เจ้ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงหรือไม่"
บุรุษผู้นั้นลองขยับกายพร้อมทั้งเดินลมปราณของตนเอง ใบหน้าของเขาก็เริ่มขมวดเป็นปมแน่น พร้อมกับส่ายศีรษะ "ข้าไม่รู้สึกเลยว่าตนเองจะมีอายุยืนยาวขึ้นหลายสิบปี อย่างที่ตำนานได้กล่าวไว้ หรือว่าพวกเราจะต้องรออีกสักหน่อย"
อาศัยเวลาเพียงไม่นานบุรุษอีกผู้หนึ่งก็วิ่งตามออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก "แย่แล้วดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้าใจบางอย่างผิดไป พวกท่านเข้ามาด้านในเร็วเข้า"
บุรุษสามคนที่สนทนากันอยู่เมื่อสักครู่ ได้เดินเข้าไปยังสถานที่บางแห่งภายในถ้ำ หยางหย่งเล่อคอยสังเกตท่าทีของพวกมันไปด้วยห่างๆ จนเมื่อเข้าไปด้านใน เขาจึงได้พบร่างกายที่เปลือยเปล่าของหรูเยี่ยนฟาง พร้อมกับร่องรอยสีกุหลาบมากมายทั่วร่าง ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ได้อย่างแจ่มแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น หรูเยี่ยนฟางตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง พร้อมทั้งชี้หน้าหนึ่งในโจรป่า
"เหตุใดท่านถึงให้บุรุษมากมายเหล่านี้มากระทำการย่ำยีสตรีของท่าน"
บุรุษผู้ที่พึ่งเดินออกมา ซึ่งยังมิได้สวมอาภรณ์ของตนเองกลับเข้าที่ มีเพียงกางเกงที่ถูกมัดไว้อย่างหลวมๆ เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่า "ข้าทำผ้ามัดปากของนางหลุด ในขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับนางอยู่ ผู้ใดจะไปคาดคิดเล่าว่า นางจะบอกว่าตนเองคือหรูเยี่ยนฟางนางบำเรอของซุนผู"
"ใช่แล้วข้าคือสตรีของท่าน เป็นคนที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับท่านมาหลายปี เหตุใดถึงจดจำข้าไม่ได้"
"แล้วเหตุใดเจ้าถึงไปโผล่ในดอกเหลียนฮวานั้นได้ ข้าไม่คิดว่าตนเองจะตาฝาด แค่เพียงคิดว่าสตรีในดอกเหลียนฮวานั้น มีใบหน้าเหมือนเจ้า กว่าจะคิดแผนการชิงตัวเจ้ามาได้ เพื่อยืดอายุของตนเองให้อายุยืนยาวขึ้น รู้หรือไม่ว่าพวกข้าใช้ความพยายามไปมากเพียงใด" แทนที่ซุนผูจะรู้สึกผิด เขากลับกล่าวโทษนางแทน
"ท่านก็ห่วงแต่เรื่องนี้ หาได้ห่วงเรื่องศักดิ์ศรีของข้าพวกท่านกระทำการย่ำยีข้าโดยไม่ถามไถ่ความจริงจากปากข้าเลย ที่ข้าเข้าไปอยู่ในดอกเหลียนฮวานั้นได้ เพราะด้วยความบังเอิญ"
หรูเยี่ยนฟางที่ถูกกระทำการย่ำยีร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด บุรุษพวกนี้เหตุใดถึงได้โง่เขลานัก นางทอดมองผู้เป็นสามีที่กำลังทอดมองมาที่นาง โดยไร้ซึ่งสายตาแห่งความรู้สึกผิด
"หึ พวกท่านคิดว่าตนเองจะมีชีวิตยืนยาวขึ้นอย่างนั้นหรือ สตรีที่ถือกำเนิดจากดอกเหลียนฮวาตัวจริง ได้หนีไปแล้ว ข้าเพียงบังเอิญไปพบนางเข้า และถูกรากบัวดึงเข้าไปจนไปโผล่ที่ในดอกเหลียนฮวาเพียงเท่านั้น มันต้องการที่จะทำโทษข้า ที่ไปทำร้ายนายของมัน จึงได้มอบผิวพรรณที่ดูงดงามเปล่งปลั่งนี้ เพื่อให้บุรุษอย่างพวกท่านได้เข้าใจในตัวข้าผิด แม้แต่สามีที่ร่วมเรียงเพียงหมอนกันมา ยังเข้าใจว่าข้าคือสตรีในดอกเหลียนฮวานั้นเลย แล้วผู้อื่นเล่าไม่แปลกที่จะเข้าใจผิดไป"
"นี่เจ้าจะบอกว่าสตรีที่ถือกำเนิดจากดอกเหลียนฮวาตัวจริง ได้หายไปแล้วอย่างนั้นหรือ"
"ใช่เป็นพวกท่านที่โง่เขลา ข้าเพียงแค่สวมรอยเป็นนาง หวังว่าจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผู้ใดจะไปคาดคิดเล่าว่าพวกท่านจะจับข้ากลับมาและกระทำการย่ำยี โดยไร้ซึ่งการไถ่ถามถึงเพียงนี้"
"บ้าที่สุด"
ซุนเจิงบิดาของซุนผูที่เป็นหัวหน้ากลุ่มโจร ถึงขนาดสบถออกมาอย่างอารมณ์เสียเขาทอดมองไปที่หรูเยี่ยนฟางด้วยสายตากรุ่นโกรธ
หรูเยี่ยนฟางที่รับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของผู้ที่เป็นพ่อสามี ก็รีบกุลีกุจอลุกขึ้นจากพื้น หวังจะไปออดอ้อนผู้เป็นสามีอย่างเช่นที่เคยทำเพื่อร้องขอความเห็นใจ แต่ก็ถูกซุนผูสะบัดมือออกอย่างไร้เยื่อใย พร้อมทั้งสายตาที่ทอดมองมาที่นางก็เต็มไปด้วยความรังเกียจ หาได้มีความหลงใหลอย่างเช่นในวันวาน
"อย่าได้มาแตะต้องตัวข้า"
"ท่านพี่เหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนี้ ลืมไปแล้วหรือว่าข้าคือสตรีของท่าน"
"เจ้าอาจจะเคยเป็นสตรีของข้า แต่ว่าตอนนี้เกรงว่าคงจะไม่ใช่ ข้าไม่ชมชอบการใช้สตรีร่วมกับผู้อื่น ตอนนี้เกรงว่าเจ้าคงจะไม่มีคุณสมบัติเป็นสตรีของข้าแล้ว"
"นี่ท่าน…!!!"
คำกล่าวของซุนผูทำให้หรูเยี่ยนฟางรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง แต่นางก็พยายามหาเหตุผลมาบอกกับเขาว่า "มันเป็นความผิดของข้าหรือเป็นพวกท่านที่กระทำการย่ำยีข้าจนมีมลทิน ท่านต้องรับผิดชอบข้าถึงจะถูก"
ซุนผูทอดมองนางคล้ายกับมองหนอนแมลงน่ารังเกียจตัวหนึ่ง เขากล่าวออกมาอย่างไร้ความรู้สึกว่า "หาใช่ความรับผิดชอบของข้า"
ซุนเจิงเดินเข้าไปใกล้หรูเยี่ยนฟางพร้อมกับบีบเข้าที่ลำคอของนาง เขากล่าวเสียงเย็นพร้อมด้วยใบหน้าที่ดูน่ากลัว "ในเมื่อเจ้าเคยเห็นใบหน้าของสตรีที่ถือกำเนิดจากดอกเหลียนฮวา งั้นก็ยังถือว่าเจ้ายังมีประโยชน์อยู่…"
หรูเยี่ยนฟางที่เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก ทอดมองใบหน้าพ่อสามีหรือไม่แน่ใจแล้วว่านางควรจะเรียกบุรุษผู้นี้ว่าอย่างไร หลังจากที่ตัวนางเองก็ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาไปแล้วด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"บอกทุกอย่างที่เจ้ารู้เกี่ยวกับนางมาทั้งหมด"
หรูเยี่ยนฟางที่ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ จึงได้ทำตามคำสั่งของซุนเจิง หยางหย่งเล่อที่ลอบแอบฟังพวกเขาอยู่ห่างๆ ก็ได้แต่รู้สึกตกตะลึงกับเรื่องราวที่เขาพึ่งทราบ เมื่อได้ยินถึงลักษณะของสตรีที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากดอกเหลียนฮวาอย่างละเอียดแล้ว หัวใจของเขาก็เต้นกระหน่ำ พร้อมทั้งคิดถึงความเป็นไปได้ ความคิดหนึ่งผุดขึ้น
'หรือนางคือสตรีที่ถือกำเนิดขึ้นมาดอกเหลียนฮวา' ใบหน้าหวานได้ลอยขึ้นมาสตรีที่มีผิวพรรณเนียนละเอียด ผิวขาวดุจกลีบเหมยกุ้ยสีชมพู ดวงตากลมโตงอนงาม จมูกเชิดรั้นพอดีกับหน้าผากและริมฝีปากรูปกระจับอิ่มน้ำ ดวงตากระจ่างใสที่คล้ายกับดวงดาวพราวระยิบระยับ เขาไม่สามารถคิดเป็นผู้อื่นไปได้เลย
แผนการบางอย่างก็ได้ผุดขึ้นมา พร้อมกับความลำบากใจ เขาหันไปสั่งการคนของตนเองอย่างเงียบๆ …
หยางหย่งเล่อปรากฏกายขึ้นพร้อมกับประกาศกร้าวออกมาว่า "ส่งนางคืนมาให้ข้าเดี๋ยวนี้"
การปรากฏตัวของเขาได้สร้างความตกใจให้กับกลุ่มโจรพวกนั้นเป็นอย่างมาก พวกมันมองกลับมาที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ หยางหย่งเล่อเองก็ทำทีคล้ายกับว่าไม่ได้รู้ถึงบทสนทนาก่อนหน้า ยังให้ความสำคัญกับหรูเยี่ยนฟางเป็นอันดับแรก กลุ่มโจรลอบมองหน้ากันไปมา เป็นหรูเยี่ยนฟางที่ตั้งสติได้ก่อนใคร
"นี่ท่านอ๋องมัวทำอะไรอยู่ปล่อยให้พวกมันกระทำการย่ำดีหม่อมฉันได้ คอยดูเถิดเมื่อถึงแคว้นเว่ยฉีแล้ว หม่อมฉันจะนำเรื่องนี้กราบทูลกับฝ่าบาท"
หรูเยี่ยนฟางเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าหยางหย่งเล่อเพียงทำหน้าที่เป็นสารถีส่งมอบนางให้กับผู้เป็นใหญ่ของแคว้นเพียงเท่านั้น แต่หลายวันที่ผ่านมาที่นางพยายามจะตีสนิทกับเขานั้น เพราะนางได้หลงใหลในรูปโฉมอันหล่อเหลาและท่าทีที่น่าเกรงขาม ด้วยบารมีของของอ๋องผู้หนึ่ง นางจึงต้องการที่จะเป็นของเขามากกว่าที่จะกลายไปเป็นของชายแก่ที่มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน แต่เมื่อทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่นางคาดหวัง จึงทำให้นางต้องเปลี่ยนแผนการ
หยางหย่งเล่อไม่ได้ใส่ใจกับความไม่พอใจของนางเท่าใดนัก เขาหันไปสั่งการกับคนของตนเอง "ชิงตัวนางมา และจัดการพวกมันอย่าได้มีผู้ใดมีชีวิตเหลือรอด"
คนของหยางหย่งเล่อบุกเข้าไปชิงตัวของหรูเยี่ยนฟางมาจากกลุ่มโจรพวกนั้นเพียงไม่นานเสียงดาบก็ได้ดังระงมไปทั่วภายในถ้ำ และหลังจากนั้นการต่อสู้ก็ได้จบลง มีเพียงแค่ซุนผูและซุนเจิงสามารถหนีรอด เงื้อมมือของหยางหย่งเล่อไปได้ ด้วยสภาพสะบักสะบอม หยางหย่งเล่อที่ไม่ต้องการให้ความลับนี้ เล็ดลอดออกไป ก็ถึงกับให้คนของตนเองไล่ล่าสองพ่อลูกไป หมายจะปลิดชีพของทั้งคู่ทิ้งเสีย พวกเขาไล่ล่าสองพ่อลูกมาจนถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง และได้เห็นกับตาว่าทั้งคู่ตกลงสู่หุบเหว เป็นเช่นนั้นหยางหย่งเล่อจึงได้วางใจ เพียงเท่านี้ความลับก็ยังจะสามารถเป็นความลับต่อไป
เขาหันมาจ้องมองหรูเยี่ยนฟางที่ตอนนี้มีสภาพหน้าอดสูเป็นอย่างยิ่ง "หาอาภรณ์มาให้นางสวมใส่ ก่อนที่จะเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร และปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เอาไว้ หากมีผู้อื่นรู้เข้าถึงเรื่องราวทั้งหมดในวันนี้ ข้าจะบั่นคอพวกเจ้าเสีย"
หยางหย่งเล่อหันไปเอ่ยเสียงเย็นกับคนของตนเอง
"คอยดูเถิดเพราะความสะเพร่านี้ของพวกเจ้า เมื่อถึงแคว้นเว่ยฉี ข้าจะรายงานเรื่องนี้กับฝ่าบาท"
"เพราะความผิดของข้า สมควรแล้วที่เจ้าจะรู้สึกโกรธเคือง"
เขากล่าวเพียงเท่านั้นก็โยนนางเข้าไปในรถม้า โดยไม่นำพาถึงความโกรธเคืองที่หรูเยี่ยนฟางแสดงออกมา ในความคิดของเขาตอนนี้สตรีผู้นี้ถือว่าเป็นหมากชั้นดี ที่เขาจะตบตาให้ผู้อื่นเห็นว่านางยังคงเป็นสตรีในดอกเหลียนฮวาที่ทุกคนต้องการ และเขาสามารถที่จะเก็บสตรีที่ถือกำเนิดจากดอกเหลียนฮวาตัวจริงไว้ข้างกาย โดยที่ไม่มีผู้ใดสงสัย แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องทดสอบให้ได้เสียก่อน ว่านางคือสตรีที่เขากำลังสงสัยอยู่จริงหรือไม่…