พอแยกกันเดินเข้าห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน ฉันก็เดินเข้าไป เก็บกระเป๋า หยิบเสื้อผ้า เข้าห้องน้ำอาบน้ำนอน ทันที เพราะความเพลียและเหนื่อยสะสม ทำให้หลับได้อย่างรวดเร็ว
" ที่นี่ที่ไหน นี่ในฝันใช่ไหม ? "
รั่ว รั่ว ถามตังเองอยู่และมองไปตามที่ ๆ เห็นอยู่ตอนนี้ น่าจะเป็นทุ่งนา สมัยโบราณแน่ ๆ เลยและคงไม่ใช่เมืองไทย เพราะบ้านหน้าตาแปลกๆ เหมือนชนเผ่า แต่เอะเหมือนรูปภาพ ที่อากงเลย ต้องเมืองจีนแน่นอน อืมว่าแต่ที่ไหน หล่ะ
จือรั่ว มีความรู้สึกเหมือนตัวเองยืนมองที่ดังกล่าวอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล ไม่มีใครเห็นจื่อรั่ว เหมือนกับการนั่งดูภาพยนตร์ ที่ฉายเป็นฉาก สิ่งที่เห็นคือการใช้ชีวิตของคน นั้น
" จือรั่ว เธอนี่มันนิสัยเสียจริง ๆ ทำไมเธอต้องไปแกล้ง ไฉ่หงส์ด้วย ทุกคนเขารู้ทั้งนั้นว่าเธออิจฉา ไฉ่หงส์ เพราะมีแต่คนชอบไฉ่หงส์ ไม่มีใครเขาชอบคนร้ายกาจอย่างเธอหรอก ."
(อืม เด็กคนนั้นชื่อเหมือนฉันเลย อิอิ นั่งมองภาพนั้นไปก็คิดตามไป)
" ฉันทำอะไรพี่ไฉ่หงส์ ฉันยังไม่ทำอะไรเลย พี่ไฉ่หงส์เดินมาแล้วสะดุดขาตัวเองก่อนจะล้มลงไป ฉันยังไม่ได้ถูกตัวด้วยซ้ำ "
จือรั่วพูดออกมา เธอเดินของเธออยู่ตรงริมคลองน้ำ เพื่อมาเก็บผักไปต้มใส่ธัญพืช กินเป็นมื้อเย็น ด้วยข้าวของเธอหมดแล้ว ต้องรอส่วนกลางแบ่งผลผลิต ซึ่งต้องรออีก 2 วัน แต่กำลังจะไต่ลงไปเก็บผักที่ขึ้นอยู่ริมคลอง พี่ไฉ่หงส์ เพื่อน ยุวชนที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน อายุมากกว่า จือรั่ว 1 ปี กลับเดินมาแล้วสะดุดอะไรไม่รู้ล้มลงใกล้ ๆ ที่จือรั่วยืนอยู่ และยุวชนอีกคนที่เดินตามมากลับต่อว่า จือรั่ว เหมือนว่าจือรั่ว เป็นคนผลักไฉ่หงส์
" เหอะ นี่เธอคงไม่ยอมรับอีกสินะ ว่าผลักไฉ่หงส์ จนล้ม "
" แล้วใครเห็นฉันผลักไหมหล่ะ ถามพี่ไฉ่หงส์ ดูสิว่าฉันผลักเขาไหม " จือรั่ว
" ไฉ่หงส์ เธอพูดมาเลยไม่ต้องกลัว "ยุวชน
" เอ่อ คือว่า ...ฮือ ฮึก ฉันเจ็บ ฮือ .." ไฉ่หงส์
" จือรั่ว เธอมันผู้หญิงร้ายกาจ ชอบทำร้ายคนอื่น "ยุวชน
" เอ้า...ใช่ฉันคนร้ายกาจต่อไปพวกเธอก็อย่ามายุ่งกับฉัน ฮึ.."
พูดเสร็จจือรั่ว ก็เดินไปจากตรงนั้นปล่อยให้คนดีทั้งหลายช่วยเหลือ กันไปเธอเดินไปเก็บผักและแวะเก็บฟืนแบกกลับไปตรงบ้านดิน หลังหนึ่ง ระหว่างนั้นก็บ่นพึมพำคนเดียว
" จือรั่ว คนอย่างแกต้องอยู่คนเดียว พ่อแม่ พี่น้องยังไม่ต้องการแกเลยไม่งั้นเขาจะส่งแกมาที่นี่หรือไง แล้วแกยังจะหวังอะไรได้อีก สุดท้ายก็ต้องพึ่งตัวเองสินะฮึ "
" นี่ฉันต้องมาดูอะไรแบบนี้ทำไม มานั่งดูเด็กมีปมด้อยคนนั้นทำไม " รั่วรั่ว
แล้วภาพก็ตัดไป อีกที่หนึ่ง เป็นบ้านจีนสมัยเก่า ในปักกิ่ง เหมือนจะเคยเห็นรูปนี้ในบ้านกง เหมือนกัน
" พี่รั่วรั่ว อย่าตีผมครับ ผมไม่ทำแล้ว ฮือ.. "
" จือรั่ว ลูกตีน้องทำไม " แม่
" ก็จางหมิ่น ทำสมุดภาพ หนูที่เพื่อนให้มาเปียกน้ำหมดเลย นี่ค่ะ"
" ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมตักน้ำไปให้พี่สาว แต่สะดุดล้ม ทำให้น้ำหก โดนสมุดพี่สาวครับ"จางหมิ่น
" น้องก็ไม่ได้ตั้งใจ ทำไมต้องถึงขั้นลงมือกับน้องด้วย ลูกไม่เคยรักน้องชายเลยหรือไง " แม่
" สรุปคือหนูผิดที่ตีน้อง ไม่ว่าน้องทำอะไร หนูก็ห้ามตีน้อง นั่นใช่ไหมที่แม่ต้องการ แม่เคยรักหนูบ้างไหม " พูดจบจือรั่วก็เดินหนีไป
" ฮือ พี่สาวผมขอโทษ " จางหมิ่น
แม่ได้แต่มองตามลูกสาวไม่ได้พูดอะไรอีก และกอดลูกชายเอาไว้อย่างปลอบโยน
ตัดภาพมาที่ พ่อแม่ของจือรั่ว ที่นั่งคุยกันพร้อมจดหมายจากทางการ
" เราต้องส่งลูกไปจริง ๆหรือค่ะ ตอนนี้เจียอี จบ ม.ปลาย แล้วแต่ปีหน้าจะต้องแต่งเข้าบ้าน ฟู่ แล้ว ยังงี้เราจะส่งไปยังไง "
" ผมก็เครียดเหมือนกัน ถ้าเราส่ง รั่วเอ๋อ ไป ไม่รู้ว่างานจะหนักแค่ไหน ผมถึงต้องปรึกษากับคุณก่อนหรือว่าผมจะไปเอง "
" ถ้าคุณไปใครจะทำงานหาเลี้ยงทั้งบ้านหล่ะคะ อีกอย่างพ่อกับแม่คุณคงไม่ยอม ถึงเราจะแยกบ้านแล้วแต่ก็ต้องส่งเงินให้ทุกปี อยู่นะค่ะ"
" ผมคงต้องให้คุณคุยกับรั่วเอ๋อ ให้เข้าใจ"
" ตอนนี้ฉันยังหาวิธีคุยกับลูกดี ๆ ไม่ได้เลยค่ะ นี่ก็ตีหมิ่นเอ๋อ อีกแล้ว "
" เรื่องอะไร เหรอครับ"
" เรื่องเด็ก ๆ น่ะค่ะ เอาเป็นว่าคุณส่งชื่อ จือรั่ว ไปก่อนแล้วฉันจะหาวิธีคุยกับลูก อีกทีค่ะ"
" ครับ เอาตามนั้น"
พอแม่มาคุยกับ จือรั่ว
" รั่วรั่ว ลูกเข้าใจพ่อกับแม่นะ ถ้าเลือกได้แม่ไม่อยากให้ลูกไปหรอก แต่ทางการเขาบังคับมาเราฝ่าฝืนไม่ได้ ส่วนเจียอี พี่สาวลูกปีหน้าต้องแต่งเข้าตระกูล ฟู่ แล้ว ซึ่งของหมั้นพ่อแม่ก็รับมาแล้ว จึงให้พี่สาวลูกไปไม่ได้ จริง ๆ "
" สรุปคือหนูต้องไปใช่ไหมคะ "
" จือรั่ว แม่ขอโทษ นะแต่พ่อกับแม่จะพยายาม หาทางช่วยเหลือหนูให้ได้มากที่สุด ตอนนี้บ้านเราไม่มีเงินเหลือมากนัก อาจจะไม่มีเงินหรือคูปองให้ลูกนัก "
" ค่ะ ยังไงคนที่ถูกทิ้ง สุดท้ายก็คือหนู " พูดเสร็จ จือรั่ว ก็เดินเข้าห้อง ร้องให้คนเดียวอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
" รั่วรั่ว .. แม่ ..." คนเป็นแม่ได้แต่มองตามลูกสาว
" แม่ค่ะ ที่จริงเราเลื่อนงานแต่งไปก่อนแล้วให้หนูไปแทนน้อง ก็ได้นะคะ น้องยังเด็กอยู่เลย จะไปมาทำงาน แบบนั้นได้ยังไง " เจียอี ได้ยินที่แม่่พูดกับน้องสาวทุกอย่าง
" อาอี เราทำแบบนั้นไม่ได้ บ้านฟู่ เป็นเพื่อนกับพ่อลูกมาตั้งแต่เด็ก ของหมั้นก็ให้มาหมดแล้ว เงินบางส่วนก็เอามาเป็นค่าเล่าเรียนของน้อง ๆ ลูก แค่นี้พ่อของลูก็ละอายมากแล้ว ถ้าให้ผิดคำมั่นกับเพื่อน พ่อของลูกคงไม่ให้อภัยตัวเองแล้ว "
" หนูสงสารน้อง ค่ะ "
" เราก็หาทางช่วยเหลือน้อง ให้มากหน่อยอนาคต อีอี อย่าทิ้งน้องสาวนะ ถ้าน้องสาวไม่ได้แต่งงาน ลูกอย่าทิ้งน้อง ช่วยเหลือน้องสาว ของลูกด้วย "
" หนูต้องไม่ทิ้งน้องอยู่แล้ว ค่ะ ตอนนี้น้องยังเล็กไม่รู้ความอาจพูดอะไร รุนแรงบ้าง แม่อย่าเก็บมาใส่ใจนะคะ หนูจะลองคุยกับน้องเอง "
" ฝากด้วยนะลูก "
ส่วนคนที่อยู่ในห้อง ไม่ได้สนใจใคร คิดแค่ว่า ไม่มีคนต้องการและถูกทิ้ง สุดท้ายก็โดนทิ้ง
♥️♥️ เปิดเรื่องใหม่ กันจ้า 🙏🙏
**ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ♥️♥️
🙏🙏ผิดตกขออภัยด้วยจ้า🙏🙏