บทที่2

1238 คำ
“คงเข้าไร่ไปรายงานนายก่อน ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเล็ก ถ้ามีอะไรขาดเหลือหรืออยากจะได้อะไรคุณเล็กบอกกับลูกตาลได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ พี่ไปก่อนนะลูกตาล ดูแลแขกของนายให้ดีล่ะ” พิมพ์พิมลพยักหน้ารับก่อนจะจ้องมองจนประวิทย์เดินหายออกไปจากบ้านแล้วเธอถึงได้หันกลับมาหาลูกตาลอีกครั้ง “คุณปัญญ์ยังอยู่ในไร่เหรอลูกตาล นี่มันเย็นมากแล้วนะ” “ใช่ค่ะ สองทุ่มกว่านู้นแหละค่ะถึงจะกลับ ช่วงนี้ที่ไร่งานยุ่งค่ะนายก็เลยต้องเหนื่อยหน่อย คุณเล็กอยากเดินดูรอบๆ บ้านไหมคะเดี๋ยวลูกตาลพาไป” หญิงสาวไม่คิดปฏิเสธต่อคำถามนี้ของเด็กสาวรีบพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วซึ่งอีกคนก็ยิ้มรับก่อนจะเดินนำพร้อมอธิบายสัดส่วนภายในและรอบๆ บ้านให้แขกของนายได้รับรู้ “ที่ไร่ของเราแบ่งออกมาเป็นสองฝั่งค่ะคุณเล็ก ฝั่งทางนั้นจะเป็นบ้านพักของคนงานที่นายสร้างให้ทุกๆ คนได้อยู่กันฟรี เลยไปหน่อยก็จะเป็นโรงอาหารใหญ่ค่ะ ที่นี่ทุกคนทานข้าวพร้อมกับสามเวลา ตอนเช้าแปดโมง ตอนกลางวันเที่ยงแล้วก็เย็นตอนทุ่มครึ่ง ส่วนนายบางวันถ้าเหนื่อยหน่อยก็จะกินร่วมกับคนงานที่นั่น ไม่ค่อยแวะกลับมาที่บ้านเท่าไหร่ แกว่ามันเสียเวลาวกไปวนมาค่ะ” ลูกตาลยังคงทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี เด็กสาวที่เกิดและเติบโตขึ้นที่นี่ยังคงอธิบายถึงส่วนต่างๆ ในไร่ส้มให้แก่อีกคนได้ฟังอย่างสนุกปาก ซึ่งพิมพ์พิมลก็เพลิดเพลินไปกับเรื่องที่ได้ฟังไม่น้อย “ลูกตาลอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอจ๊ะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไคร้รู้เมื่อเริ่มรู้สึกถูกชะตากับสาวน้อยหน้าหวานตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นคนคุยสนุกเลยทำให้เธอไม่รู้สึกเหงา “ตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ค่ะ บ้านของลูกตาลอยู่อีกฝั่งของไร่ค่ะ พ่อเป็นหัวหน้าคนงานที่นี่ก็เลยมีบ้านเป็นหลังได้ไม่ต้องไปนอนรวมกับคนงานคนอื่น” คำตอบที่ได้ยินทำให้อีกคนตกใจไปไม่น้อย “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าลูกตาลไม่ได้นอนที่บ้านหลังนี้น่ะสิ!” “โอ้ย ไม่มีใครได้รับอนุญาตถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ นายแกรักแกหวงบ้านหลังนี้ของแกอย่างกับอะไรดี ลูกตาลแค่มีหน้าที่ทำดูแลเก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อย ปั่นจักรยานเอาข้าวไปส่งให้ตอนเที่ยงเป็นบางวัน สองทุ่มก็ต้องปั่นจักรยานกลับบ้านแล้วล่ะค่ะ” ให้ตายสิ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าต่อจากนี้เธอจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้กับรังสิมันต์แค่สองคนสินะ แค่คิดใบหน้าอ่อนหวานก็แดงขึ้นโดยไร้สาเหตุ ขนาดอยู่กันหลายคนเขายังหาเรื่องแกล้งเธอได้ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วนี่จะต้องให้มาอยู่ด้วยกันตามลำพังไม่อยากจะคิดเลย! “อุ้ยนั่น! เสียงรถนาย นายกลับมาแล้วค่ะคุณเล็ก!!” เสียงร้องของคนข้างกายทำให้พิมพ์พิมลเริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา หญิงสาวจำต้องออกตัวเดินไปตามแรงฉุดของลูกตาลไปยังหน้าบ้านที่ตอนนี้มีร่างสูงโปร่งของใครบางคนกำลังเดินลงมาจากรถกระบะ ใครบางคนที่หยุดนิ่งไปชั่วขณะเมื่อหันมาเห็นร่างบอบบางของคนที่ไม่ได้พบหน้ามานานหลายปีที่ตอนนี้กำลังยืนจ้องหน้ากัน ภาพร่างสูงเจ้าของใบหน้าคมคายที่ยังคงไว้ซึ่งความหล่อเหลาตรงหน้าทำให้พิมพ์พิมลไม่กล้าที่จะขยับเดินหน้าต่อ เธอทำได้เพียงยืนอยู่กับที่ปล่อยให้รังสิมันต์เป็นฝ่ายเดินหน้าเข้ามาหา เขาใช้สายตาที่คาดเดาได้ยากมองสำรวจร่างระหงขึ้นลงเหมือนคนกำลังตรวจหาตำหนิของสินค้าก็ไม่ปาน ไม่นานเสียงเข้มจึงเอ่ยขึ้น “ไม่เจอกันตั้งนาน ไปทำอีท่าไหนแม่ฉันถึงได้ยกย่องจนถึงขั้นส่งตัวมาที่นี่เพื่อเป็นเมียฉันได้!” คำทักทายแรกของคนที่ไม่ได้พบหน้ากันเป็นสิบๆ ปีของเขาทำให้ใครหลายคนที่ได้ยินต่างอึ้งไปตามๆ กัน จะมีก็แต่คนถูกกล่าวหาที่ยังคงยืนอยู่กับที่ด้วยท่าทีปกติเพราะว่านี่มันไม่ใช่ครั้งแรกเลยที่เขาใช้คำพูดพวกนี้ทำให้เธอต้องรู้สึกอายคนอื่น เขาทำแบบนี้ทุกครั้ง และเธอก็อายมันแทบทุกครั้ง “เล็กแค่ทำตามที่คุณแม่สั่ง…” “ไม่ยักจะรู้ว่าฉันไปมีน้องสาวตอนไหน! เพราะเท่าที่จำได้…ฉันเป็นลูกคนเดียว!”นั่นประไรเล่า คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าเขาจะต้องตอกหน้ากันแบบนี้ คนอะไรปากร้ายไม่มีใครเกิน นี่วันเวลามันคงไม่ช่วยทำให้เขานิสัยดีขึ้นเลยสินะ หญิงสาวคิดก่อนจะเดินตามแผ่นหลังของคนปากเสียเข้ามาในบ้านโดยมีลูกตาล และประวิทย์เดินตามหลังเธอมาติดๆ “เอากระเป๋าของแขกคนสำคัญของฉันขึ้นไปไว้บนห้องสิลูกตาล” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเลือกที่จะใช้ความเงียบเป็นคำตอบรังสิมันต์จึงหันไปสั่งสาวใช้เมื่อเหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางของแขกที่แม่ของเขานั้น ส่งตรงมาให้ที่วางอยู่ข้างห้องนั่งเล่นเข้าโดยบังเอิญ “ดะ…ได้ค่ะ คุณปัญญ์จะให้ลูกตาลเอากระเป๋าของคุณเล็กไปไว้ที่ห้องไหนดีคะ”สาวใช้เอ่ยถามเสียงแจ้วเพราะห้องที่ชั้นบนนั้นมีว่างอยู่มาก จนต้องเอ่ยถามเจ้านายเพื่อความชัวน์จะได้ไม่ถูกด่าอีก ซึ่งถูกด่าแต่ละทีมันก็ทำให้เธอเจ็บๆ คันๆ จนกลับไปนอนร้องไห้อยู่หลายคืนเลยทีเดียว ใครเลยจะไม่รู้ว่าเจ้านายเธอปากร้ายแค่ไหน “ห้องฉัน!” ทุกคนต่างตกใจเมื่อคำตอบที่ได้มันเหนือความคาดหมายไม่เว้นแม้แต่พิมพ์พิมลที่ตกใจจนทำท่าจะร้องขัดแต่ก็ไม่ทันเสียงของลูกตาล ที่รับคำเจ้านายตามความเคยชินเสียงหวาน “ได้เลยค่ะ หา!! ห้องไหนนะคะ” “ห้องฉัน! จากวันนี้ไปผู้หญิงคนนี้เธอจะมาเป็นเมียฉัน! ทำหน้าที่ผลิตลูกให้ฉัน คนจะเป็นผัวเมียกันก็ต้องนอนด้วยกันมันถึงจะถูก ว่าไง! มีใครสงสัยอะไรอีกไหม” ทุกคนรอบข้างต่างพากันส่ายหน้าเป็นพัลวัน จะมีก็แต่พิมพ์พิมลที่เอาแต่ยืนนิ่งนับหนึ่งถึงสิบในใจ เจอหน้ากันวันแรกเขาก็แสดงให้เธอเห็นแล้วว่าความเกลียดชังที่เขามีให้กันนั้นมาตลอดเวลานับตั้งแต่วันแรกที่พบนั้นมันยังคงอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ได้ห่างหายไปตามกาลเวลาเลยแม้แต่นิดเดียว! คนอะไรปากร้ายแถมยังใจร้าย! ไม่อยากคิดเลยว่าต่อจากนี้ไปชีวิตของเธอจะเป็นยังไงต่อ..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม