บทที่3

1360 คำ
หลังจากจบการรับประทานอาหารเย็นท่ามกลางความเงียบสงัดสาวใช้นามว่าลูกตาลและประวิทย์ก็ถูกไล่ออกไปจากบ้านแทบจะทันที รังสิมันต์เอ่ยปากไล่ทั้งคู่ให้กลับไปพักผ่อนก่อนที่เขาจะหันมาสั่งแขกหน้าสวยที่เอาแต่นั่งเงียบราวกับคนเป็นใบ้ให้เดินตามตนเองขึ้นมายังชั้นสอง จนมาถึงห้องๆ หนึ่งซึ่งภายในนั้นถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเข้ม สีที่พิมพ์พิมลจำได้ดีว่ามันคือสีโปรดของเจ้าของห้อง ซึ่งตอนนี้กำลังยืนกอดอกจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เหมือนเช่นวันแรกที่เขาเคยใช้จ้องมองกันมาตลอด “เธอมีอะไรกับใครครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” เนิ่นนานหลายนาทีทีเดียวกว่ารังสิมันต์จะตัดสินใจเอ่ยบางสิ่งทำลายความเงียบขึ้นมา “คะ” แต่คำถามนั้นกลับทำเอาอีกคนถึงกลับร้องเสียงหลง “ไม่ต้องตกใจไปหรอก ที่ถามก็เพราะว่าฉันไม่อยากเสี่ยงติดโรค ส่วนฉันเธอสบายใจได้ ฉันป้องกันตัวเองทุกครั้ง รับรองว่าสะอาดหายห่วง” พิมพ์พิมลถึงกลับไปต่อไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้าหยิบเอาเรื่องพรรค์นี้มาพูดกับเธอด้วยสีหน้าเฉยชาแบบนี้ “เล็กเองก็สะอาดค่ะ คุณปัญญ์ไม่ต้องห่วง” เผลอๆ อาจจะสะอาดกว่าเขาเสียด้วยซ้ำไป หญิงสาวตอกย้ำกับตัวเองภายในใจ ไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่ยอมตกลงมาที่นี่ทำหน้าที่ที่แสนจะน่าอับอายนี้ หากไม่เพราะแม่ของเขาขอร้องเธอคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้แน่ ไม่เคยคิดและไม่อยากทำมันด้วยหากไม่มีความจำเป็น “ก็ดี! งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า…” เสียงเข้มเอ่ยตัดบทสรุปก่อนจะย่างกายเข้าหาเนื้อแสนหวานตรงหน้าด้วยท่าทีคุกคามเสียจนอีกคนต้องถอยร่นหนีเขาเป็นการด่วน เมื่อเจอกับท่าทีที่แปลกไป “ระ…เริ่มอะไรกันคะ” พิมพ์พิมลถามพร้อมถอยหลังไม่หยุดหย่อน ซึ่งไม่กี่ชั่วอึดใจต่อมาเธอก็ได้รับคำตอบจากคนตัวโต “ก็ผลิตลูกไง เธอลงทุนตามฉันมาไกลถึงที่นี่เพราะการนี้ไม่ใช่รึไง ในเมื่ออยากได้ลูกกันนักก็จะทำให้ อยากได้ผู้หญิงรึผู้ชายดีล่ะ! ฉันจะได้ใช้สูตรใช้ท่าได้ถูก!” รังสิมันต์ถามเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ความจริงแล้วเขากลับรู้สึกว่านี่มันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่พอควร แต่หากจะให้ขัดใจผู้เป็นแม่เขาก็ทำมันไม่ลงด้วยรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่ลูกที่ดีเท่าไหร่นัก เขาละเลยต่อท่านเพื่อความชอบป่าชอบไร่เหมือนกับผู้เป็นพ่อที่ต้องมาด่วนจากไปก่อนจะได้ทันเห็นไร่นี้เติบโตขึ้น และที่ไม่เคยกลับไปเยี่ยมท่านก็เพราะงานที่ไร่มันล้นมือมากเสียจนปลีกตัวไม่ไหนไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขาโกรธหรือเกลียดอะไรท่าน ออกจะคิดถึงอยากเจอหน้าทุกลมหายใจเข้าออกด้วยซ้ำ “คะ…คืนนี้ไม่ได้ค่ะ” กว่าจะหาเสียงเจอพิมพ์พิมลก็ก้าวหนีร่างสูงใหญ่ที่เดินต้อนเธอด้วยท่าทีคุกคามจนแผ่นหลังติดกำแพงห้อง หญิงสาวเอ่ยทันทีเมื่อคิดถึงเหตุผลการเอาตัวรอดในค่ำคืนนี้ขี้นมาได้ไม่ว่ายังไงก็ต้องใช่คืนนี้ คืนที่เธอกับเขาเพิ่งจะได้พบหน้ากัน “ทำไม! เธอมีปัญหาอะไรถึงจะทำลูกกับฉันคืนนี้ไม่ได้” รังสิมันต์ตวาดถามอย่างหงุดหงิด หล่อนคิดว่าเขาพิศวาสตัวนักรึไง ก็แค่หน้าสวย อกโต สะโพกน่าลูบแค่นี้ทำเป็นเล่นตัวไปได้ ลองแม่เขาไม่บังคับอย่าฝันไปเลยว่าเขาจะแตะต้องแม้ปลายเส้นผม นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มพยายามสั่งให้ตัวเองรู้สึกตามนั้น ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ร้ายกาจ เธอใช้ความอ่อนหวานของตัวเองหลอกล้อทำให้แม่ของเขารักได้อย่างน่าประหลาดเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำมันได้ เผลอๆ ตอนนี้ท่านคงรักเธอมากกว่าเขาที่เป็นลูกแท้ๆ ไปแล้วก็ได้ ใครจะรู้ว่าตลอดเวลาที่เธออยู่กับแม่ของเขาตามลำพังเธอเป่าหูอะไรท่านไปแล้วบ้างไหนจะเรื่องที่เธอตามเขามาถึงที่นี่อีกล่ะ! “ว่าไง! เธอมีเหตุผลอะไรถึงปฏิเสธฉันตัวเล็ก” ลองถ้าได้เรียกชื่อเล่นกันเต็มยศขนาดนี้ นี่แสดงว่าเขาเริ่มโกรธกันแล้วแน่ๆ “คือวันนี้เล็ก…เล็กมีประจำเดือนค่ะ” คำตอบที่ได้ทำเอาคนที่กำลังมีอารมณ์อย่างที่สุดต้องพ่นไอร้อนๆ ออกมาอย่างหงุดหงิดกับคำตอบที่มันทำให้เขาจะต้องบังคับตัวเองให้หยุดการก้าวเดินไปเสียดื้อๆเมื่อได้ฟังมันก่อนจะเปลี่ยนมาจ้องหน้าเธอแทน “งั้นเธอก็ต้องช่วยฉัน เพราะหน้าอกอวบๆ เกินตัวของเธอมันทำให้ลูกชายฉันตื่น”รังสิมันต์ยังไม่ยอมแพ้หากยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ทำให้เขาแทบบ้าก็คือคนตรงหน้าที่แสดงท่าทีตกใจไม่น้อยเลยทีเดียวกับคำพูดที่เขาเพิ่งจะบอกเธอไป “ลูกชาย คุณปัญญ์มีลูก…” ให้ตายยัยคนนี้ ดูทำหน้าเข้า นี่เธอไม่รู้จริง หรือแกล้งโง่กันแน่ว่าไอ้ลูกชายที่ว่าเขาหมายถึงอะไร “ใช่…ลูกชาย กำลังอ้วนกลมน่ารักเชียว ทักทายเขาหน่อยสิ!” รังสิมันต์ว่าก่อนจะคว้าหมับเข้าที่มือเรียวสวยมาสัมผัส ‘ลูกชาย’ ที่ว่าของตัวเองอย่างอารมณ์ดี ต่างจากอีกคนที่แทบจะกรีดร้องสุดเสียงยามเมื่อได้คำตอบว่าลูกชายที่เขาบอกนั้นมันคือบางสิ่งบางอย่างที่เธอกำลังกุมไว้ นั่นทำเอาพิมพ์พิมลกรีดร้องเสียงหลง “คนบ้า คนโรคจิต! นี่ปล่อยมือเล็กเดี๋ยวนี้นะคะคุณปัญญ์” “ปล่อยได้ที่ไหนกันเล่ายัยโง่! รีบๆ ทำเร็วๆ เข้า ไม่งั้นฉันจะใส่มันเข้าไปในตัวเธอ!” รังสิมันต์ไม่ได้ขู่ เขากำลังจะบ้ากับอาการร้อนๆ หนาวๆ ของร่างกายที่มันเกินจะควบคุม เธอทำให้เขาอยากจะกระชากตัวเข้ามาจูบแล้วฟัดแรงๆ ให้หายอยาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอาการเหล่านี้ถึงต้องมาเกิดขึ้นแค่เพียงเผลอมองอกอวบคู่นั้นของเธอด้วย ทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอนั่นแหละ!! “ไม่! เล็กไม่ทำ คุณปัญญ์ปล่อยเล็กนะคะคนบ้า คนลามก” “ลามกที่ไหนกัน นี่มันเรื่องธรรมชาติ อีกอย่างเธอมาที่นี่เพื่อทำเรื่องลามกกับฉันอยู่แล้วไม่ใช่รึไง เอาหน่อยน่า! แค่ลูบๆ ชักขึ้นชักลงแค่นี้เอง ไม่ยากหรอกเดี๋ยวฉันสอนให้”คนอะไรปากมอม นี่เขากล้าพูดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ออกมาทั้งที่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มได้ยังไงกัน หญิงสาวคิดภายในใจก่อนจะเริ่มต้นส่งเสียงร้องโวยวายไม่ยอมทำอะไรไปทั้งนั้น อย่างน้อยๆ มันก็ต้องไม่ใช่วันนี้! “ปล่อยเล็กเดี๋ยวนี้นะคะคุณปัญญ์ ไม่อย่างนั้นเล็กจะฟ้องคุณแม่!” คำขู่นั้นไม่เพียงแต่ทำให้อีกคนรำคาญเขายังหัวเราะเยาะกันเสียงใส ราวกับคำพูดเมื่อสักครู่ของเธอเป็นแค่เรื่องตลกก็ไม่ผิด “เอาสิ! ฟ้องเลย แม่ฉันคงดีใจจนเนื้อเต้นถ้ารู้ว่าฉันเต็มใจจะยัดเหยียดความเป็นผัวให้ลูกสาวสุดที่รักของท่านถึงขนาดนี้ อย่าลืมสิว่าท่านอยากให้เราสองคนร่วมหอลงโลงกันแค่ไหน เธอไม่มีสิทธิ์เลือกอีกแล้วพิมพ์พิมล ช่วยฉันเดี๋ยวนี้!!” ครั้งนี้รังสิมันต์ไม่ได้พูดเปล่าให้เสียเวลาอีก เขาอาศัยจังหวะที่หญิงสาวเผลออุ้มเธอขึ้นก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนกว้างพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะของผู้ชนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม