บทที่ 5 งานเลี้ยง
หลังจากรถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าคอนโดดาวิสาก็ดีดตัวตื่นทันที เธอหันไปมองหน้าคนรักก่อนที่จะโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มสาก รอยยิ้มหวานเคลือบน้ำตาลถูกส่งต่อไปให้ชายหนุ่ม พร้อมประโยคบอกรัก
“เดมรักพี่ไมค์นะคะ” ธนาธรคลี่ยิ้มก่อนจะยื่นมือมาขยี้ผมคนรักเบาๆอย่างนึกเอ็นดู
เขาว่าแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางสงสัยอะไรในตัวเขาหรอก
ดาวิสาลงจากรถก่อนจะยืนโบกไม้โบกมือส่งชายคนรัก เมื่อรถคันนั้นวิ่งออกไปแล้วเธอจึงหมุนตัวเดินเข้าลิฟต์ไป
พร้อมกับหาทิชชู้เปียกมาเช็ดปากก่อนจะสะบัดมันทิ้งลงถังขยะอย่างนึกรังเกียจ
เฮงซวยจริงๆ
หลังจากมาถึงห้องก็เตรียมตัวไปงานเลี้ยงทันที งานนี้เป็นงานเหล่าบรรดาไฮโซทั้งหลายที่ร่วมบริจาคสมทบทุนให้บ้านเด็กกำพร้า จะว่าก็ว่าก็วงการบันเทิงอ่ะเนอะ
ดาวิสามาในชุดเดรสเปิดไหล่แต่งหน้าจัดเต็มเพราะวันนี้เธอต้องอยู่หน้ากล้องอีกกี่สิบตัวก็ไม่รู้ อย่างที่คิดไปตอนนี้ข่าวเมื่อเช้าถูกลือหนาหู และดูเหมือนประชาชนจะเชื่อว่าหล่อนกับอันนาเป็นหมาหมู่พร้อมกับมีข่าวแก๊งแตกหักอีกด้วย
ทุกการย่างก้าวเข้ามาในงานนั่นต่างตกอยู่ในสายตาบรรดาผู้คนได้เป็นอย่างดี สองสาวนางแบบจากสังกัดเดียวกันเดินเข้ามาในงานพร้อมกันนั่นเป็นเรื่องปกติใครก็ทราบว่าพวกเธอมีผู้จัดการคนเดียวกันและอยู่สังกัดเดียวกันอีกด้วย อีกคนมาในเดรสสีน้ำเงินเปิดไหล อีกคนมาได้ชุดเดรสเหมือนกันแต่เป็นแขนยาวสีดำแหวกด้านล่างจนมาถึงโคนขาขาว
เมื่อเห็นคนในข่าวมาถึงนักข่าวต่างวิ่งไปลุมล้อมนางแบบสาวทั้งสองทันที จนผู้จัดการและผู้ช่วยต้องเข้ามาประกบนางแบบของตนให้เดินเข้างานได้สะดวก
“จริงหรือป่าวที่มีข่าวบอกว่าแก๊งคุณทั้งสามคนแตกหักคะ”
“คุณทั้งสองจงใจแกล้งน้องแพรจึงหรือเปล่าคะ”
“แล้วจริงหรือเปล่าที่มีข่าวว่าคุณเดมี่อิจฉาคุณแพรที่ได้ถ่ายหลายเซ็ตกว่า”
“ช่วยตอบด้วยค่ะ”
“ช่วยให้คำตอบพวกเราด้วยค่ะ”
ในขณะที่นักข่าวลุมล้อมกลับไม่มีใครทันสังเกตมุมหนึ่งของงาน เจ้าของชื่อเมื่อกี้กำลังเหยียดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้สิแค่อยากได้ทุกอย่างที่เป็นของดาวิสา ผู้ชายที่หล่อนรักและเชื่อใจเธอยังเอามาได้นับประสาอะไรกับงานถ่ายแบบ
“วันนี้ผู้กำกับหนังชื่อดังอย่างคุณ ‘บอย’ จะมาร่วมงานนี้ด้วย น้องแพรอย่าลืมที่พี่สอนมาล่ะ” ชัชพล ผู้จัดการสาวสองหันไปบอกนางแบบในสังกัดของตน ได้ข่าวว่ากำลังจะมีละครเรื่องใหม่ที่ผู้กำกับได้บทละครไปแล้วแถมยังร่วมกับนักเขียนชื่อดังอย่าง มาร์ลิส อีกด้วย
“แพรไม่ลืมหรอกค่ะ พี่พลดูสิคะผลงานของพี่พล” เธอชี้ไปยังกลุ่มนักข่าวซึ้งกำลังมุงนางแบบสาวชื่อดังทั้งสองของเมืองไทย
“วงการนี้พวกอ่อนแออยู่ไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะฉะนั้นเธอต้องแข็งแกร่งเข้าใจไหม” แพรพิมาพยักหน้าก่อนที่ทั้งผู้จัดการและนางแบบจะยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ
ทั้งหมดเข้ามาในงานได้ก็ต้องปาดเหงื่อนักข่าวไม่รู้มาแต่ไหนทำไมเยอะได้ขนาดนั้น วันนี้น่าจะมีการแย่งชิงบทละครกันเกิดขึ้น เพราะนักเขียนชื่อดังอย่างมาร์ลิสประกบข้างมาพร้อมผู้จัดชื่อเสียงเลียงนามเป็นที่เลื่องลืออย่างคุณบอยก็มาในงานบริจาคครั้งนี้ ได้ข่าวจากวงในว่าเบื้องหลังงานบริจาคสิ่งที่เขาต้องการคือหานักแสดงไปรับบทบาทสำคัญในละครเรื่องหนึ่งที่เขากำลังจะร่วมมือกันสร้าง เอาง่ายๆคือมาหานักแสดงที่ถูกใจ
ใครก็รู้ว่าคุณบอยไม่ได้สนใจชื่อเสียงที่ติดตัวดาราทุกคน แต่เขาจะหาคนที่ถูกใจและถูกชะตามาร่วมงานเท่านั้น และผลงานที่เขาสร้างมักออกมาโด่งดังและได้รางวัลอยู่เสมอ ดาราทุกคนทั้งใหม่หรือเก่าดังไม่ดังต่างอยากร่วมงานกับเขาทั้งนั้น
แต่หนึ่งในนั้นไม่มีดาวิสาและอันนา
“ฉันไม่ชอบแสดงละคร เพราะอะไรนะเหรอมันได้เงินช้า”
มันก็จริง แต่มันก็ได้เป็นก้อนทีเดียวนะดาวิสาพยักหน้าให้เพื่อน ซึ่งตอนนี้พวกเธอกำลังยืนจิบไวน์อยู่ที่โต๊ะหนึ่งของงาน
“ฉันก็ไม่ชอบ มันน่าจะเหนื่อยมาก” เธอเคยรับงานละครอยู่ไม่กี่เรื่อง บอกเลยว่าแทบไม่มีเวลาได้พักหายใจหายคอกันเลยทีเดียวเชียว ช่วงนี้เลยให้ผู้จัดการรับแต่งานเดินแบบถ่ายโฆษณาและออกอีเว้นท์เท่านั้น
ถือว่าพักใจไปไหนตัว
“เหมือนจะมีคนอยากได้บทนั้นนะ” ทั้งสองสาวหันไปมองอดีตเพื่อนรักกำลังเดินเข้าไปหาผู้จัดชื่อดัง
ดาวิสาควงแก้วในมือเธอกำลังขบคิดว่าควรจะทำอย่างไรดีเกมที่อีกคนขุดไว้รอเธอตกลงไปในหลุมครั้งนี้เธอจะร่วมแสดงด้วยดีไหม
ผู้บริหารมาจากหลายบริษัทใหญ่ๆต่างขึ้นไปมอบเงินให้กับมูลนิธิต่างๆมากมาย รวมไปถึง Lion Air Asia บริจาคครั้งนี้เป็นเงินมูลค่า 3 ล้านบ้านพร้อมกับแทบเลตให้เด็กยากจนได้ใช้ในการศึกษาอีก 1500 เครื่อง เมื่อพิธีกรประกาศจบร่างสูงคุ้นตาก็เดินไปมอบด้วยตัวเองจนได้รับเสียงฮือฮาจากสาวๆในงานทันที
เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งการศึกษาดีหน้าตาหล่อกว่าซุปตาร์เมืองไทยบางคนอีก ทั้งท่าทางน่าดึงดูดสายตาเย่อหยิ่งยิ่งดูท้าทายและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน
‘คุณโปรดของเธอเอง’