ดาวิสารู้หน้าที่หลังจากหลับตาพริ้มรับความสุขสมแล้วเธอจึงยอมลุกตามแรงดึงไปจัดการเจ้ามังกรยักษ์ให้เข้า ไม่นานน้ำกามก็ฉีดพุ่งเข้าคอเธอ ดาวิสาถอนปากออกแต่มือยังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม
“อ๊า ไม่เคยผิดหวังกับคุณจริงๆ” ดาวิสาดึงทิชชู้มาเช็ดทำความสะอาดให้เขาก่อนจะทำความสะอาดให้ตัวเองบ้าง เธอคลี่ยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำตามที่เขาชี้บอก
เธอเข้ามาจัดการตัวเองส่องกระจกเพื่อดูความเรียบร้อยให้ดี เมื่อเห็นว่าตัวเองกลับมาในสภาพสง่างามเหมือนเดิมจึงฉีดน้ำหอมดับกลิ่นคาวของน้ำรัก ขาเรียวก้าวออกมาจากห้องส่วนตัวเขา
พอเธอออกมาเขาก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
“งานเลี้ยงเย็นนี้คุณก็ไปใช่ไหม ผมเห็นชื่อคุณในใบรายชื่อ” “ค่ะ แบรนด์ที่ฉันร่วมอยู่น่าจะบริจาคเยอะเลยเชิญฉันไปร่วมด้วย”
“เจอกันครับ” ดาวิสาเขย่งเท้าเข้าไปหาร่างสูง ก่อนจะบดริมฝีปากเข้ากับแก้มสาก
“ไปแล้วนะคะ อาหารวันนี้อร่อยมากค่ะ” เธอแซวยิ้มๆจึงได้รับรอยยิ้มที่นานๆครั้งจะได้เห็นจากเขากลับมา ใบหน้าสวยสะบัดออกไปเธอเดินออกมาจากห้องเขาแต่หน้าห้องไม่มีใครเลยก็เหมือนตอนมา
นี่ปลื้มใจนะ ขอบคุณที่เข้าใจว่าเธอขายชีวิตส่วนตัวในการหาเงิน
“อ้าวเดมพี่กำลังจะโทรหาหนูเลย ไปไหนมาครับ” ถ้าเธอเดาไม่ผิดสายตานั่นกำลังจับผิดเธออยู่
“ออกไปดื่มกาแฟค่ะ วันนี้เดมตื่นแต่เช้าไปถ่ายแบบกับเพื่อนๆ ยัยอันยายแพร” เธอพูดชื่อนั้นมาเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่มันช่างแนบเนียนเสียเหลือเกิน ไม่แปลกหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เอะใจอะไรเลย
“โอเคครับ ถ่ายแบบสนุกไหมเราพูดกันไปเดินกันไปดีกว่า” เธอพยักหน้ารับธนาธรพาเธอเดินมาขึ้นลิฟต์ ไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก
“พี่ไมค์ไม่มีงานต่อแล้วเหรอคะ” ตอนไม่อยู่กับเธองานยุ่งนักหนาไม่มีเวลาว่าง ประชุมนู้นนี่นั่นทั้งวันทั้งคืน
“ครับ งานวันนี้เสร็จหมดแล้ว”
แต่หัววันเชียวนะ!
ดาวิสายิ้มพยักหน้าเชิงเข้าใจประตูลิฟต์กำลังจะปิดแต่มีมือใครสักคนมาขวางมันไว้ก่อน วินาทีถัดมาก็มีคนสองคนเดินเข้ามาในลิฟต์
ว้าว! อเมซิ่งจริงๆ ฉันแอบยกยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแสร้งทำทีเป็นคุยกับคนข้างๆจนลิฟต์เปิด
ร่างสูงที่มากับไม่ผู้ช่วยก็คงเป็นเลขาเดินออกไปแล้ว ดาวิสาใจเต้นตึกตักเธอคิดไปต่างๆนาๆกลัวเขาจะแสดงตัว แต่ไม่เลยเขาเนียนกว่าเธอเสียอีก
‘ท่านรอง’
ฉันมองคนข้างๆที่ก้มหัวให้เขาตอนเขาเดินออกจากลิฟต์ มันดูไม่แปลกหรอกสำหรับพนักงานระดับต่ำกว่าที่ต้องก้มหัวให้เจ้านาย แต่พอคิดว่ามันเป็นผู้ชายคนนี้เธอก็อดแค่นหัวเราะออกมาไม่ได้จริงๆ
ธนาธรพาเธอมาถึงร้านออกแบบชื่อดัง ของชำร่วยที่เธอเลือกก็เป็นตุ๊กตาคู่บ่าวสาวน่ารักๆมันต้องใช้เวลาหน่อยเพราะมันเป็นงานฝีมือมอบให้เฉพาะแขกคนพิเศษเท่านั้น และมีแค่หนึ่งร้อยชิ้น เดิมทีเธอคงดีใจมากถ้าเป็นเมื่อก่อนก็เขาดูเอาใจใส่เธอดีทุกอย่าง ถ้าวันนั้นไม่จับได้คาหนังคาเขาวันนี้เธอคงดีใจจนน้ำตาไหลไปแล้ว
แต่โทษทีพอดีไม่อินแล้วค่ะ
“ชอบไหม งั้นพี่สั่งผลิตเลยนะ” เธอพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ลับหลังแอบเบ้ปากทันที
“กลับกันเลยไหมคะ” เธอนัดกับทีมแต่งหน้าไว้ใกล้จะถึงเวลาแล้ว
“ไม่ไปร่วมงานไม่ได้เหรอ พี่อยากอยู่กับเรานะเราไม่ได้ทานข้าวด้วยกันนานแล้วไม่ใช่เหรอ” มือสวยถูกจับไปกอบกุมก่อนมันจะวางลงบนตำแหน่งหัวใจของอีกคน ดาวิสาแทบอ้วกเอียนกับความตอแหลประหนึ่งรักเธอนักรักเธอหนาของผู้ชายคนนี้
เธอดึงมือกลับก่อนจะได้รับสายตาสงสัยจากเขา
“เราตกลงกันแล้วนะคะ”
“เดี๋ยวนี้แค่พี่แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้เหรอครับ” ทำทีเป็นตีหน้าเศร้าใส่เธอ
“เปล่าค่ะ แค่หนูว่ามันเลี่ยน”
“ความรักที่พี่ให้หนูมันดูเลี่ยนสินะ”
ยัง! ยังไม่เลิกแสดงอีก
“เดมว่าเราคุยกันคนละเรื่องแล้วค่ะ”
“พี่แค่รักเดมมากไป ขอโทษแล้วกัน”
ดาวิสายื่นมือไปตบมือหนาเบาๆก่อนจะยิ้มให้ การกระทำของเธอจึงทำให้อีกคนยิ้มออกได้
“เดมรักพี่นะคะ อย่าทำร้ายความไว้ใจที่เดมมีต่อพี่นะ” คนข้างๆเธอดูชะงักไปทันที แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าไวเหมือนกิ้งก่าเปลี่ยนสี
“แน่นอน เราจะแต่งงานกันแล้วนี่”
“พี่ย้ำแต่เรื่องแต่งงานกับเดมเสมอเลย ย้ำจนมันดูไม่จริงใจ”
“อย่าหาเรื่องทะเลาะกันเลยเดม แค่ทำงานพี่ก็เหนื่อยแล้ว”
เสแสร้ง!
“เดมไม่ได้หาเรื่องทะเลาะค่ะ แค่ว่าไปตามที่เห็น”
“พี่ว่าวันนี้เราคงไม่พ้นทะเลาะกันเรื่องไร้สาระอีกแล้ว พี่ไปส่งเดมที่คอนโดแล้วกัน”
รถยนต์คันหรูวิ่งออกไปถนนใหญ่ เสียงเหมือนมีสายโทรเข้าทำให้พริมาลืมตาขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมาเธอก็เหยียดยิ้มทันที คนรักเธอเหมือนจะตกใจจนลนลานเขาหันมามองทางเธอ เธอจึงแสร้งทำเป็นหลับต่อ
“ครับแม่ เดี๋ยวผมไปส่งเดมแล้วแวะไปหานะครับ ครับผมรักแม่นะครับ” หลังจากวางสายก็ยกยิ้มพอใจที่จัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีทีเดียว คนมันจะโง่ต่อให้ความจริงอยู่ต่อหน้าก็พลาดที่จะรู้ ธนาธรยกยิ้มกว้าง ก่อนจะปรายตามองคนข้างๆอีกครั้ง
‘แม่บ้านเเกสิ!’