เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งการศึกษาดีหน้าตาหล่อกว่าซุปเปอร์สตาร์เมืองไทยบางคนอีก ทั้งท่าทางน่าดึงดูดสายตาเย่อหยิ่งยิ่งดูท้าทายและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน
ดาวิสารู้ว่าเขาไม่ได้มีแค่เธอหรอก เขาเพอร์เฟ็คมากขนาดนั้นจะมีคู่นอนแค่เธอคนเดียวได้ยังไง แต่เธอไม่ได้สนใจเราอยู่กับแบบความสัมพันธ์ที่ไม่อยากรู้เรื่องของกันและกันถ้าเขาบอกเธอถึงรู้ถ้าเขาไม่พูดเธอก็จะไม่ถาม เพราะไม่อยากรู้รู้ไปมันก็เท่านั้นวันหนึ่งเธอต้องจบความสัมพันธ์นี้กับคุณโปรดอยู่แล้ว
ขนาดเขาเป็นทายาทสายการบินเธอยังพึ่งมารู้เลย!
“ทำอะไรอยู่ครับ” ดาวิสาแยกตัวมาโทรศัพท์กับใครบางคน พอหันกลับมากะจะเดินเข้าไปร่วมวงกับคนอื่นเธอก็เจอเข้ากับ
‘เจเดน’ นายแบบหนุ่มถ่ายแบบนู้ดชื่อดัง เธอรู้จักเขาแต่ไม่เคยได้ร่วมงานกัน มีความคิดในหัวนะว่าอยากถ่ายแบบเหมือนเขาบ้างน่าสนใจดี เจเดนกับเธอไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่เคยเจอผ่านๆที่สตูดิโอบางครั้งเราก็มาถ่ายแบบที่เดียวกันแต่คนล่ะแนว
มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าดาวิสาน่ะเป็นผู้หญิงที่หื่นมาก เธอยิ้มทักทายนายแบบหนุ่มก่อนจะเลื่อนมือมาประสานกันไว้ด้านหน้า
“ถ้าจำไม่ผิด คุณเจเดนใช่ไหมคะ” เธอไม่มีทางไม่รู้จัก นิตยสารฉบับใหม่สุดแสนจะเซ็กซี่เธอยังหวีดกับยัยอันอยู่เลย ไม่รู้ว่ายัยนั้นจะรู้หรือยังว่านายแบบที่หล่อนชื่นชอบก็อยู่ในงานนี้ด้วย
“ผมเซอร์ไพร้ส์นะที่นางแบบชื่อดังอย่างคุณรู้จักผม” ดาวิสายิ้มเขินพยายามเก็บอาการ เธอไม่ได้ประเมินเลยว่าภายในเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมลงมาถึงสามเม็ดนั้นมันน่าจะแน่นแค่ไหน
ไม่ได้คิดเลยจริงๆ
“แหม คุณเจเดนพูดแบบนี้เดมี่ก็เขินแย่สิค่ะ” เธอจะแทนชื่อตัวเองกับคนไม่รู้จักว่าเดมี่ ส่วนคนรู้จักที่สนิทจริงๆจะเรียกเดมเฉยๆ “ผมขอเบอร์ติดต่อคุณได้ไหมครับ” ดาวิสาเลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะไม่คิดว่าจะโดนขอเบอร์ข่าวเรื่องแต่งงานของเธอพึ่งติดเทรนไปถึงสามสัปดาห์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนเองนะ “ผมถูกชะตาเผื่อเราจะเป็นเพื่อนกันได้ เวลาคุณไม่มีเพื่อนกินเหล้าชวนผมได้นะ”
“งั้นเหรอคะ” ดาวิสาหยั่งเชิง แต่ก็พบแต่ความจริงใจในดวงตาคู่คมซึ่งมีเสน่ห์เหลือล้นจนเธอปฏิเสธไม่ได้ คุยกันต่ออีกหน่อยเจเดนต้องขอตัวเพราะผู้จัดการโทรตามแล้ว
คิดว่าเธอให้เบอร์หมอนั้นไหม ใช่ เดาถูกแล้วเธอก็อยากมีเพื่อนผู้ชายดื่มเหล้าเหมือนกันนะ แถมยังหล่อไม่พอเซ็กซี่ตัวพ่อเลยล่ะ
หลังจากงานมอบเงินมอบทุนต่างๆจบไป ก็เป็นงานปาร์ตี้ดีๆนี้เองแหละ สองสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะคุยกันออกรสออกชาตินี่ก็พากันนั่งลุ้นว่าเพื่อนรักอีกคนจะมาหาไหม แต่ดูพวกเธอจะคิดมากไปเอง หล่อนต้องเข้าหาทั้งผู้กำกับ ผู้จัด นักเขียน เจ้าของแบรนด์ชื่อดังต่างๆจนไม่มีเวลาปลีกตัวออกมาหาเพื่อนอย่างพวกเธอเลย
“สวัสดีครับ”
เสียงทักทายดังขึ้นดึงความสนใจของทั้งสองสาวให้หันไปมองตามเสียงเมื่อเจอว่าเป็นใครพวกเธอก็มีอาการแปลกใจจนฉายชัดออกมาทางสีหน้า พูดง่ายๆก็คือเก็บอาหารไม่อยู่ ผู้ช่วยของทั้งสองยังเผลอบีบมือกันแน่นเมื่อเห็นว่าใครมาหาดาราที่ตนเป็นผู้ช่วยอยู่
“คุณบอยสวัสดีค่ะ” ดาวิสาตั้งสติได้จึงเอ่ยทักทายรีบขยับไปใกล้เพื่อนใช้ศอกกระทุ้งแขนเบาๆ ให้เพื่อนได้สติ
“สวัสดีค่ะคุณบอย” สองสาวคลี่ยิ้มส่งไปให้ผู้จัดควบคู่กับผู้กำกับชื่อดังของไทย
“ไม่เข้าไปในงานเหรอครับ” เขาสังเกตเห็นดาราสองคนนี้ตั้งแต่เปิดงานก็สังเกตมาตลอดเธอสองคนไม่เหมือนดาราคนอื่นๆ
“เอ่อ ถึงจะเป็นบุคคลสาธารณะแต่ก็ไม่ชอบอะไรวุ่นวายเท่าไหร่ค่ะ” ดาวิสาว่าไปตามที่คิด เธอคิดแบบนั้นจริงๆเลยบอกกับผู้จัดการตั้งแต่รับงานแล้วว่าเธอจะไม่ไปเดินเตร่ทักทายใครนะ เพราะส่วนตัวแล้วเธอไม่ค่อยชอบ แม้ใครจะหาว่าหยิ่งก็ตาม
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ อะไรที่เป็นของเราไม่ต้องไปวิ่งตามเดี๋ยวมันก็มาหาเราเองค่ะ” คำพูดดูถือดีไม่น้อย แต่คนที่อยู่บนโลกนี้และในวงการนี้มานานอย่างเขาย่อมดูออกว่าเธอคิดแบบที่พูดไม่ได้เสแสร้งแกล้งดัดคำพูดขึ้นมาให้สวยหรู
ผู้จัดวัยสี่สิบกลางๆยกยิ้มอย่างพอใจ ขอชนแก้วกับทั้งสองก่อนจะขอแยกตัวออกไปเพราะมีคนมาตามตัวบอกว่ามีเรื่องด่วน
“ทำยังไงล่ะคุณบอยถึงเดินมาหา” ทั้งสองหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นเพื่อนรักยืนฉีกยิ้มกว้างมาให้แต่ถ้อยคำจิกกัดซะเหลือเกิน “แพรหมายความว่ามันดูแปลกอ่ะ” เธอรีบแก้ตัวเมื่อประโยคนั้นดูจะแรงไปหน่อย
“ฉันยังยืนยันคำพูดเดิมนะเดม อะไรที่เป็นของเราไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาเดี๋ยวมันก็มาหาเราเอง” พูดจบอันนาก็เดินชนไหล่อีกคนไป ดูท่าครั้งนี้จะทนไม่ไหวกับหน้าผู้ดีแต่ตอแหลอีกต่อไปแล้ว....