บทที่ 2 พี่ชายเพื่อนเปลี่ยนไป

1924 คำ
พิชยะ กิจธาดาวงศ์ หรือ ฟัน บุตรชายคนโตของตระกูล กิจธาดาวงศ์ ครอบครัวผู้มีพระคุณช่วยเหลือยามเธอทุกข์ยาก เธอเรียกพิชยะนำหน้าว่า ‘เฮีย’ แทนที่จะเป็น พี่ฟัน เหมือนที่เพื่อนของเธอเรียกจนติดปาก มนต์มีนาเอื้อมมือไปปัดเส้นผมดำขลับที่หล่นลงระแนวคิ้วเข้มออกให้ชายหนุ่มอย่างเบามือ มองแพขนตาดกหนาที่ทาบทับลงบนโหนกแก้ม เรื่อยลงไปยังสันจมูกโด่งคมรับกับริมฝีปากได้รูป ทว่าในตอนนั้นทั้งร่างของเธอก็ถูกชายหนุ่มจับกดลงไปกับโซฟานุ่ม คนตัวใหญ่กว่าพลิกตัวขึ้นมาทาบทับในทันที “เฮีย” ตกใจราวกับว่าตัวเองเป็นขโมยขโจรแอบย่องเข้าบ้านคนอื่นแล้วถูกเจ้าของบ้านจับได้คาหนังคาเขา “ทำอะไร” น้ำเสียงแหบห้วนชวนให้มนต์มีนาเกิดอาการหวาดหวั่นหน้าซีด สายตาที่ไม่คล้ายคนงัวเงียลืมขึ้นมาจ้องเขม็ง หากแต่คล้ายคนที่มีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย เธอรู้มาจาก พิชชา เพื่อนของเธอว่าวันนี้พิชยะจะไปงานวันเกิดของนางแบบสาวชื่อดัง เธอเคยเห็นรูปนางแบบคนนั้นผ่านนิตยสารแฟชั่นที่พิชชาเคยเอาให้ดู อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวที่สวยและรูปร่างดีสมกับเป็นนางแบบเบอร์ต้น ๆ ของวงการ พิชยะทำตัวไม่ต่างจากหนุ่มโสด กินดื่มกับผู้หญิงแทบจะไม่ซ้ำหน้าทั้งที่เขามีแฟนอยู่แล้ว ชื่อรสสรา เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยม ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่เมืองนอกตลอดเวลาที่เรียนคณะแพทย์ ความรักดูราบรื่นทุกอย่าง แต่จู่ ๆ พิชยะก็ตัดสินใจกลับประเทศไทยโดยไร้เงาแฟนสาวกลับมาด้วย ไม่มีใครรู้ว่าระหว่างพิชยะกับรสสราเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาไม่เคยเปิดปากเล่า… ขนาดพิชชาที่คลานตามกันมาก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากถามพี่ชาย แล้วคนนอกอย่างเธอจะมีสิทธิ์อะไร “มีนเห็นเฮียนอนอยู่ แล้วตอนนี้ก็ฝนตกมีนเลยเอาผ้ามาห่มให้ค่ะ” หัวคิ้วขมวดมุ่นของพิชยะคลายลงเล็กน้อยเมื่อมองออกไปข้างนอกแล้วเห็นว่าฝนกำลังตกลงมา สายตายากจะเดาความคิดจับจ้องใบหน้าสวยหวานนิ่งจนมนต์มีนาเกิดอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด พิชยะเอียงคอมองคนใต้ร่าง คนที่ทำให้เขากลับมานอนที่บ้านบ่อยกว่าเมื่อก่อน “เหรอ” ดวงตาคมกริบแคบลง เป็นดวงตาคู่เดิมที่เคยมองเธอเมื่อสี่ปีที่แล้ว ครั้งแรกที่เธอกับเขาได้เจอกัน และเขาก็คงจะมองเธอเป็นเพียงเพื่อนของน้องสาวเท่านั้น ต่อให้เขาจะไม่มีคนรักอยู่แล้ว ผู้ชายที่มีดีกรีเป็นถึงศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลชื่อดัง ในขณะที่เธอเป็นแค่คนไร้บ้าน ไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักนิด เธอหรือจะกล้าคิดเกินตัว “ค่ะ แล้วทำไมถึงมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะคะ” ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งกับกลิ่นบุหรี่จาง ๆ จากตัวของชายหนุ่มแต่มันกลับผสมผสานกับกลิ่นกายของเขาได้อย่างเย้ายวนใจ ชวนให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้ม แต่สิ่งที่ทำให้มนต์มีนารู้สึกแปลกใจคือการที่เธอได้กลิ่นบุหรี่มาจากตัวของชายหนุ่ม อาชีพ หมอ หรืออาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัว พิชยะจึงไม่สูบบุหรี่ ตลอดเวลาที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เธอไม่เคยเห็นเขาแตะบุหรี่เลยสักครั้ง หรือมันจะเป็นตัวตนอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่เคยให้เธอรับรู้ “เดินขึ้นไปบนห้องไม่ไหวเลยว่าจะงีบสักแป๊บ แต่ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน” พิชยะไปร่วมงานวันเกิดของเพื่อนนางแบบและวันนี้เขามีเรื่องให้ต้องคิดจึงดื่มไปพอสมควร แต่ปริมาณแอลกอฮอล์แค่นั้นก็คงไม่ถึงกับทำให้เขาพยุงตัวเองขึ้นไปข้างบนห้องไม่ไหว แต่เขากำลังรอเธออยู่ และเขาก็ไม่ได้เผลอหลับอย่างที่พูดด้วย “งั้นมีนจะไปตามพี่ศรให้มาพาเฮียขึ้นไปนอนบนห้องนะคะ” ว่าแล้วก็จะลุกขึ้นไปตามคนในบ้าน ทว่าพิชยะกลับห้ามเธอเอาไว้ เจ้าของร่างสูงใหญ่ไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน” ไม่ต้อง” ดวงตาดำขลับจับนิ่งอยู่บนใบหน้าขาวนวล ต้นขากำยำเบียดชิดกับต้นขาอ่อนนุ่ม สองแก้มของมนต์มีนาเริ่มร้อนผ่าวแต่ก็พยายามจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้อีกฝ่ายรู้ “ก็ได้ค่ะ งั้น…มีนขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ” น้ำเสียงค่อนไปทางขออนุญาตมากกว่าจะเป็นการบอกกล่าว แม้ว่าพิชยะจะเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิท แถมเขาก็ยังดูเต็มใจให้เธออาศัยอยู่ด้วย แต่เพราะอายุที่ห่างกันถึงเจ็ดปีประกอบกับที่นาน ๆ พิชยะจะกลับมานอนบ้าน เธอจึงรู้สึกเกร็ง ๆ ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้า แต่จะว่าไปแล้ว พักหลัง ๆ มานี้พิชยะก็กลับมานอนบ้านแทบจะทุกวัน ซึ่ง พิชชาก็เคยถามถึงเหตุผลประสา น้องสาวที่ชอบแขวะชอบ จับผิดพี่ชาย เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ พิชชาจึงคิดว่าคงเป็นเพราะพิชยะถูกคุณมนูญกับคุณเพ็ญพิชย์ต่อว่าให้ก่อนหน้านั้นเลยคิดจะทำตัวดีขึ้นมา “อย่าเพิ่ง เปลี่ยนน้ำหอมใหม่เหรอ” ศัลยแพทย์หนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกหาต้นเหตุของกลิ่นแปลกใหม่ มนต์มีนางับคำพูดของตัวเองในทันที แกเกือบจะหลุดปากสารภาพความผิดไปแล้วนะยัยมีน “ค่ะ คือมีนเพิ่งใช้กลิ่นนี้วันแรก แต่ถ้าเฮียว่ามันฉุนงั้นมีนไม่ใช้กลิ่นนี้แล้วก็ได้นะคะ” เพียงคิดว่าพิชยะไม่ถูกใจกลิ่นน้ำหอมใหม่ของตัวเอง มนต์มีนาก็พร้อมจะเทน้ำหอมราคาแพงที่เพื่อนชายในคณะซื้อมาฝากจากเมืองนอกอย่างไม่ลังเล “ไม่ต้องหรอก กลิ่นนี้ก็หอมดี” “คะ?” “ทำไม แค่บอกว่าชอบกลิ่นน้ำหอมตกใจอะไรขนาดนั้น” จ้องราวกับกำลังจับผิดใคร มนต์มีนาจึงอ้อมแอ้มปฏิเสธไปทันที “เปล่านี่คะ มีนไม่ได้ตกใจสักหน่อย” “แต่หน้าเธอมันฟ้อง” น้ำเสียงแหบพร่างึมงำอยู่ในลำคอ รอยยิ้มกริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาที่พิชยะมักจะยิ้มแบบนี้เวลาถกเถียงกันกับน้องสาวอย่างพิชชา และพิชยะก็คงจะมองเธอเป็นน้องสาวอีกคน “หน้ามีนก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่คะ” มนต์มีนารีบแก้ตัวและหลังจากคิดถึงความเหมาะสมเธอก็บอกชายหนุ่มไปว่า “ช่วยลุกออกจากมีนด้วยค่ะ” พิชยะไม่ได้คิดจะทำตามคำขอของเพื่อนน้องสาวแต่เขากลับจ้องใบหน้าเธอนิ่ง นิ่งจนมนต์มีนารู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา ไม่ทันที่เธอจะเข้าใจความหมายของสายตาคู่นั้น พิชยะก็ซุกใบหน้าคมคายลงไปหากลิ่นเย้ายวนจากคนใต้ร่าง หญิงสาวนอนตัวเกร็งคล้ายคนเป็นอัมพาตไปครึ่งตัว บริเวณท้องน้อยเสียววาบในตอนที่สันจมูกโด่งคมของพิชยะกำลังลากไล้ลำคอระหง “ฮะ เฮียฟัน” มนต์มีนาส่งเสียงประท้วงขึ้น พิชยะกลับเงยหน้าขึ้นมาจ้องริมฝีปากอวบอิ่มก่อนจะพูดประโยคที่เธอไม่คาดคิดออกมา “ดื่มมาเหรอ” “อะ…เอ่อ…” อ้ำอึ้งเริ่มหายใจติดขัด เธอควรจะแก้ตัวอย่างไรดี คุณมนูญกับคุณเพ็ญพิชย์มอบหมายให้พิชยะเป็นคนดูแลเธอตลอดเวลาที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ หนำซ้ำเขายังเคยห้ามไม่ให้เธอกับพิชชาดื่มของมึนเมา แต่เป็นเพราะคืนนี้ที่คณะมีงานเลี้ยงสังสรรค์แถมยังเป็นวันคล้ายวันเกิดของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม เธอจึงดื่มไปนิดหน่อย แก้มสีแดงจัดทั้งสองข้างผ่าวร้อน แต่ยิ่งเห็นมนต์มีนาปิดปากเงียบ เจ้าของสายตาคมกล้าก็ยิ่งได้ใจและคิดว่าจะต้องทำโทษเด็กนิสัยไม่ดี “ว่าไง ทำไมถึงดื่มเหล้า แล้วดื่มไปกี่แก้ว” สายตาที่พิชยะกำลังจ้องลงมาราวกับเธอทำความผิดใหญ่หลวง “ที่คณะมีงานเลี้ยงค่ะ แต่มีนดื่มไปแค่แก้วเดียวค่ะ” มนต์มีนาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในขณะที่ส่งเสียงดังอยู่ข้างในตามมาติด ๆ แก้วเดียวแต่เติมหลายที “หึ…” เสียงคล้ายคนแค่นหัวเราะอยู่ในลำคอก่อนที่พิชยะจะโน้มตัวลงไปใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมจากกายของหญิงสาวมากขึ้น ฝ่ามือเรียวสวยของศัลยแพทย์หนุ่มสอดเข้าใต้ท้ายทอยหญิงสาว บังคับให้มนต์มีนาแหงนเงยรับสัมผัสจากตนเอง ริมฝีปากอุ่นร้อนเจือรสชาติขม ๆ ของวิสกี้ราคาแพงประกบเข้ากับริมฝีปากของมนต์มีนา ลิ้นอุ่นนั้นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม กวาดต้อนเอาความหวานด้วยความช่ำชอง คนใต้ร่างหลุดเสียงครางในลำคอเมื่ออีกฝ่ายเริ่มใช้ลิ้นดุดันขึ้นเรื่อย ๆ หัวใจหญิงสาวเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง พิชยะใช้ลิ้นบดเคล้าเย้ายั่วและมอมเมาให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา แม้จะมีความตื่นตระหนกที่จู่ ๆ พี่ชายของเพื่อนสนิทก็ทำเรื่องแบบนี้กับเธอ หากแต่ร่างกายกลับโอนอ่อนโดยง่าย ความคิดว้าวุ่นหยุดลงแต่หัวใจของมนต์มีนากลับเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อรู้สึกได้ว่าพิชยะกำลังพรมจูบไปทั่วลาดไหล่บางของเธอ พลันหัวใจดวงน้อยเต้นระรัวมากกว่าเดิมหลายจังหวะ เมื่อชายกระโปรงนักศึกษารัดรูปตัวสั้นถูกชายหนุ่มดึงขึ้นไปจนเกือบถึงสะโพก ฝ่ามือร้อนลูบโลมไปตามขาเรียว ก่อนจะพาสัมผัสวาบหวิวไปหยุดอยู่ที่ข้างสะโพกโค้งมน “ฮะ…เฮียฟัน หยุดถ่ะ…เถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้เลย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเบาหวิวไร้น้ำหนักแต่ก็เพียงพอให้ชายหนุ่มหยุดการกระทำนี้ลง ร่างใหญ่ผละออกห่างแล้วคว้าสูทสีเข้มที่พาดอยู่บนพนักโซฟาขึ้นมาพาดบ่า ใบหน้าคมคายของศัลยแพทย์หนุ่มยากจะคาดเดาความคิดออก เป็นเพราะฤทธิ์ของเหล้าหรือเพราะเขาแค่อยากจะล้อเธอเล่น ถึงมาทำให้จิตใจเธอปั่นป่วนแบบนี้ ความคิดตีกันวุ่นวายอยู่ในหัว ทว่าสิ่งที่เธอคิดได้ทั้งหมดกลับผิดอย่างมหันต์ พิชยะไม่ได้เมามายสักนิดและไม่ได้จะล้อเล่นอะไรทั้งนั้น เพียงแต่เขากำลังพิสูจน์อะไรอยู่ต่างหาก มนต์มีนารีบลุกขึ้นนั่งทันทีที่ตั้งสติได้ สองมือดึงชายกระโปรงนักศึกษาของตัวเองลงอย่างไวก่อนจะยันตัวขึ้นจากโซฟา เธอต้องพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เธอต้องอยู่ให้ห่างจากเขา ผู้ชายที่เปรียบเหมือนดอกไม้แสนสวยส่งกลิ่นหอมยั่วยวนตลอดเวลา แค่เพียงผีเสื้ออย่างเธอบินผ่านมาเจอก็ต้องลุ่มหลงในความสวยงามนั้นจนยากจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ลิ้มลองรสหวานของมัน ------------------- ฝากติดตามผลงานเรื่องใหม่ของไรท์ เพียงเม็ดทราย ด้วยนะคะ เรื่องนี้พระเอกเป็นเพื่อนกับเรื่อง พิศวาสรักเมียชั่วคืน หมอพิธาโผล่มาหลายฉากเลยค่ะ กดใจ เพิ่มเข้าชั้นหนังสือ และเม้นพูดคุยเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าา ^^
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม