ฟาโรห์เดินทางกลับมาที่บ้านของตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปงานเลี้ยงพนักงาน วันนี้ทางแผนกให้ใส่ชุดฮาวายสบายๆแต่เขาไม่ค่อยมีชุดประมาณนี้จึงให้ผู้ช่วยของพ่อหามาให้เรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มผิวปากเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี เขาหิ้วขนมร้านของเบบี๋มาฝากคุณแม่ด้วยเพราะท่านชอบกินฝีมือของเพื่อนเขา อีกอย่างอุดหนุนบ้างเพราะมาทีไรก็เอามาให้ฟรีตลอดจนเขาเริ่มเกรงใจ
"แม่ครับขนมร้านเบบี๋ผมเอามาฝาก"
"จ่ายเงินเพื่อนรึเปล่าเอามาฟรีเกรงใจหนูเบบี๋เค้านะ ของซื้อของขายอย่าเอามากินฟรีเข้าใจมั้ย"
"รู้ครับแม่ผมจ่ายแถมทิปให้พนักงานไปด้วยไม่ต้องห่วง แล้วพ่อกลับมายังครับเดี๋ยวผมต้องออกไปงานเลี้ยงพนักงานต่อไม่รู้ว่าพ่อจะไปรึเปล่า"
เขามองหาคุณพ่อของตัวเอง เราทำงานที่เดียวกันเพียงแต่ว่าเขาอยู่ชั้นพนักงานในแผนกการตลาด ส่วนคุณพ่อท่านเป็นผู้บริหารอยู่ชั้นบนสุดไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ แต่ถ้ากลับมาค้างที่บ้านเขาก็เจอทุกวันเพียงแต่ว่าเขาชอบไปหาเบบี๋แล้วนอนค้างด้วยตลอดจึงไม่ค่อยกลับบ้านเท่าไหร่
"ไปสิพ่อเค้ากลับมาแล้วอยู่ข้างบนกำลังเตรียมตัว เรานะไม่ชอบกลับบ้านไงแอบไปค้างกับสาวที่ไหนรึเปล่าบอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าหาสวยและดีแบบหนูเบบี๋ไม่ได้ก็ไม่ต้องเอาเข้าบ้านมา แม่บอกให้จีบเพื่อนคนนี้ก็ไม่เอาเรานี่มันดื้อด้านจริงๆ"
"โหแม่ไปบอกไอ่เบบี๋เองดิ มันไม่เอาผมหรอกเบบี๋บอกว่าเป็นเพื่อนรักกันมานานจะมาเป็นผัวเมียกันได้ยังไงซึ่งมันก็จริงอ่ะ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้วรู้นิสัยกันดีมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก"
เขาบ่นออกมาอย่างเซ็งๆไม่ว่าจะผ่านมานานขนาดไหนแม่ก็ยังพูดให้เขาจีบเพื่อนสนิททั้งที่ก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แล้วที่กินนอนด้วยกันมันก็แค่สนุกด้วยกันเฉยๆอันนี้เบบี๋เป็นคนพูดเองนะเขาไม่เกี่ยว ก็เธอไม่ต้องการความรับผิดชอบแถมยังชอบไล่เขาไปเอาคนอื่นอีก แต่เขาไม่ทำหรอกเพราะการมีเธอในตอนนี้ก็ดีนะแถมยังคอยอบรมสั่งสอนเขาเหมือนแม่คนที่สองอีก รำคาญแหละแต่ไม่เบื่ออยากบ่นก็บ่นไปเขาเฉยๆ
"ตามใจแล้วกัน แม่บอกแม่สอนก็เพราะว่าห่วงมันจะมีสักกี่คนที่หวังดีกับแกคอยตักเตือนไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง คนแบบนี้หายากนะ"
"รู้แล้วน่าตอนนี้ก็ดีแล้วสำหรับผม ไปก่อนนะแม่บ่นเหมือนเบบี๋เลยผมฟังมันบ่นมาต้องกลับมาฟังแม่บ่นอีกเหนื่อยอ่ะ"
เขาทำหน้าเซ็งๆรีบเดินออกไปจากตรงนั้นเพราะไม่งั้นจะโดนร่ายยาวกว่านี้ คุณแม่มองตามลูกชายไปก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ สอนบอกอะไรไม่เคยฟังแนะนำแต่สิ่งดีๆให้แต่ชอบไปยุ่งกับอะไรก็ไม่รู้ หวังว่าสักวันเขาจะคิดได้และเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เธอรู้จักเบบี๋มานานเหมือนลูกสาวอีกคนก็ว่าได้ นิสัยน่ารักเป็นเด็กดีพ่อแม่เค้าฝากฝังช่วยดูแลเพราะครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยได้มาดูแลลูกสาว ก็มีเธอเนี่ยแหละที่คอยดูแลให้และจองไว้เป็นลูกสะใภ้แต่ดูจากที่ทะเลาะกันบ่อยไปก็เดาได้ไม่ยากว่าคงตีกันตายมากกว่าจะรักกัน
"เห้อ... เหนื่อยใจกับลูกคนนี้จริงๆ"
ฟาโรห์เดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองบังเอิญเจอคุณพ่อที่เดินออกมาจากห้องนอนก็เอ่ยทักทายเสียงสดใส
"อ้าวพ่อจะไปแล้วเหรอ"
"ไงลูกชาย ยังหรอกพ่อจะไปกินกับข้าวฝีมือแม่ก่อนนะอุตส่าห์ทำให้แล้ว เราล่ะเป็นยังไงบ้างเมื่อไหร่จะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการสักที พ่ออยากจะยกตำแหน่งCEOให้แล้วนะ"
คุณพ่อเอ่ยแซวลูกชาย พอรู้มาว่าเขาทำงานเป็นที่น่าพอใจมากและไม่ไปโอ้อวดเบ่งใส่ใครในที่ทำงาน เขาเลี้ยงลูกมาอย่างดีให้รู้จักใช้ความพยายามให้รู้จักความลำบาก ถึงแม้ว่าเขาจะนอนบนกองเงินกองทองแต่ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกอย่างตามปรารถนา อยากได้อะไรก็ต้องทำงานเก็บเงินซื้อเองเขาถึงไม่เดือดร้อนที่ถูกส่งไปเป็นลูกน้องของบริษัทตัวเอง
"ยากอ่ะพ่อตำแหน่งผู้จัดการเค้ามีคนอยู่แล้ว อีกอย่างอายุก็ยังหนุ่มยังแน่นคงต้องรอให้ลาออกเองหรือเกษียณผมถึงมีโอกาสได้ขึ้นกับเขา แต่ไม่รู้ต้องรออีกกี่สิบปีนะผมเคยแอบถามเขาบอกว่าจะอยู่จนอายุ60ปีเลย ถึงตอนนั้นผมคงแก่ไม่มีแรงไปนั่งตำแหน่งCEOแล้วล่ะ"
"แกก็พูดซะพ่อรู้สึกผิดเลย เอาเป็นว่าทำผลงานเยอะๆโปรเจคใหญ่ก็พยายามทำให้มากถ้าวันหนึ่งพ่อให้ลูกมาบริหารต่อจะได้ไม่มีข้อครหาในการขึ้นไปอยู่ในจุดนั้น ลูกรู้ใช่มั้ยว่าพ่ออยากให้ทุกคนรู้ว่าCEOคนใหม่เก่งและสามารถนำพาบริษัทของเราไปให้ไกลได้"
ท่านตบบ่าลูกชายอย่างให้กำลังใจ เขาแค่รอจังหวะดีๆก็จะยกทุกอย่างให้ลูกชายแล้ว แต่ภรรยาขอไว้ว่าอยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่ดีพร้อมก่อนค่อยให้ขึ้นตำแหน่งสูง อย่างน้อยมีคนคอยเตือนสติคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆและภรรยาของเขาเล็งว่าที่ลูกสะใภ้ไว้คนหนึ่ง ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก็เพื่อนสนิทของลูกชายตัวดีนั่นแหละ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ยากเพราะเจอกันทีไรทะเลาะกันตลอด
"พ่อเชื่อใจผมได้เลยครับผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังเด็ดขาด"
"แล้วที่แผนกเป็นยังไงบ้างอยากย้ายมั้ย"
"อยู่การตลาดก็ดีอยู่แล้วครับ ผมว่าตรงนี้สามารถมองเห็นจุดเด่นจุดด้อยบริษัทของเราได้ชัดเจนที่สุด บริษัทจะดีจะร้ายมันอยู่ที่การตลาดเนี่ยแหละ ถ้าเราทำการตลาดได้ดีผมเชื่อว่าเราจะไปไกลกว่านี้อีกเยอะ"
"เก่งมากลูกชายของพ่อ แล้วก็อย่ามัวทำงานจนลืมเรื่องความรักล่ะ แม่เค้าอยากให้เราแต่งงานมีลูกนะทำงานไปหาแฟนไปก็ได้ คู่ชีวิตมีผลต่อการขึ้นรับตำแหน่งผู้บริหารนะ"
คุณพ่ออมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันที ฟาโรห์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างเหนื่อยใจ ไม่ว่าจะเจอใครในครอบครัวก็จะต้องพูดเรื่องแต่งงานไม่ก็เรื่องมีแฟน ทำไมทุกคนถึงอยากให้เขามีแฟนมากทั้งที่เป็นอยู่ตอนนี้เขาก็มีความสุขดี แอบแซ่บกับเพื่อนรักมันดีจะตาย ทำงานเสร็จก็ไปหาไม่เห็นจะต้องดิ้นรนอะไรเลยในชีวิต
"ทำไมต้องหาแฟนมาแต่งงานด้วยล่ะ ทุกวันนี้ก็เหมือนมีเมียอยู่ล่ะป่ะ..."
ฟาโรห์ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกไปถึงใบหน้าสวยของเพื่อนสนิท เราสองคนเจอกันในสถานะเพื่อนและมันก็คงจะเป็นแบบนี้ตลอดไปเพราะไม่ว่าจะยังไงความรู้สึกของทั้งคู่คงมีแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น... การจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นมันเป็นเรื่องที่ยากและหญิงสาวก็พูดอยู่ตลอดว่ามันไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากความใคร่...