เบบี๋ขับรถพาฟาโรห์ออกมาจากร้านขับรถไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เวลาเขาเมาหนักต้องพาไปหาของกินร้อนๆจะรู้สึกดีขึ้นมากและมีสติคุยกันพอรู้เรื่อง
"แล้วไหนล่ะโจ๊กของฉันอ่ะ ไหนบอกว่าจะซื้อมาฝากไอ่เราก็รอกินข้าวอยู่ เมาขนาดนี้คงลืมแล้วสินะ"
หญิงสาวส่ายหน้าเล็กน้อยมองชายหนุ่มอย่างเหนื่อยใจ นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงโกรธมากแน่นอนถ้าต้องรอกินข้าวจากเขา ฟาโรห์ยิ้มแห้งออกมาก่อนจะยื่นมือไปจับมือเล็กเอาไว้
"ไม่ได้ลืมแต่ว่ามันเมาไง แต่ว่าตอนนี้ไม่เมาแล้วนะงั้นเราไปกินโจ๊กกันดีมั้ยเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง"
"ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นป่ะ คิดว่าสร้อยทองที่นายจับฉลากได้มาฟรีมันจะทำให้ฉันอภัยในสิ่งที่นายทำวันนี้เหรอ"
"โธ่... ก็คนมันเมาอ่ะให้ทำยังไงเล่า งั้นจะเลี้ยงทั้งเดือนเลยอยากกินอะไรอยากไปไหนซื้ออะไรให้ทุกอย่างเลย"
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเอาอกเอาใจ ซื้อบ้านซื้อรถก็ให้ได้นะเพราะเงินเก็บก็มีเยอะมากมายใช้สบายไปทั้งชาติ แต่ก็นั่นแหละมันเป็นเงินในอนาคตถึงจะมีมากแต่คุณพ่อสอนไว้ว่าถ้าเกิดฉุกเฉินอะไรกับชีวิตของเราขึ้นมาเงินพวกนี้มันช่วยเราได้ เขาจึงเลือกที่จะไม่แตะต้องมันและทำงานหาเงินเองแม้กระทั่งรถยังผ่อนเองเลยคิดดูเถอะทั้งที่บ้านมีรถหรูหลายคันแต่เขาคิดว่าการทำงานในบริษัทไม่จำเป็นต้องอวดรวยเกินตัวมันจะทำให้เราวางตัวลำบากในการใช้ชีวิตอยู่กับคนอื่น
"มีเงินเหรอไง"
"แหม่... ฉันทำงานตั้งหลายปีฐานเงินเดือนก็หลายหมื่นอยู่นะเว้ย แกคิดว่าฉันเงินเดือนน้อยเหรอไง"
"ก็ไม่รู้ดิไม่ได้สนใจนี่นา งั้นเลี้ยงโจ๊กเลยนะจะกินแบบพิเศษไปเลย"
"โอเคจ้ะขับไปสิ"
ฟาโรห์ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่หญิงสาวไม่โกรธมาก เอาจริงเธอเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลมากนะถ้าเขาพูดอะไรไว้แต่ทำไม่ได้เธอก็จะถามเหตุผลว่าทำไมถึงทำไม่ได้ และถ้าเหตุผลมันฟังขึ้นเธอก็ไม่ว่าอะไรแถมยังคอยแนะนำวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดให้อีกถ้าไม่มีเบบี๋เขาก็ใช้ชีวิตลำบากอยู่นะ
หญิงสาวขับมาถึงร้านโจ๊กข้างทางทั่วไป ทั้งสองคนมากินตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนตอนนี้ก็ยังเปิดอยู่และรสชาติก็อร่อยเหมือนเดิมทุกครั้งที่มากิน เรียกว่าเป็นร้านโปรดเลยแหละ
"ลงมาสิถึงแล้ว"
เบบี๋เดินลงมาจากรถไม่ลืมที่จะเปิดประตูให้เพื่อนสนิทที่กำลังมองหาโทรศัพท์ของตัวเองอยู่
"หาอะไร"
"โทรศัพท์อ่ะวางทิ้งไว้ที่ไหนไม่รู้"
"ตรงนั้นไงนายเป็นคนเอาวางเองนะ เห้อ... ไร้สติคราวหลังอย่าให้มันมากเกินไปนะถ้านายคุมสติตัวเองไม่ได้แบบนี้แม้กระทั่งตำแหน่งผู้จัดการก็ไม่ได้เป็นหรอก ฉันเตือนเพราะว่าเป็นห่วงนายคือความหวังเดียวของครอบครัวเพราะฉะนั้นทำตัวให้สมกับเป็นว่าที่CEOหน่อย"
เบบี๋กอดอกบ่นร่าวยาวใส่ชายหนุ่มบ่นจนกว่าเขาจะรู้สำนึกว่าที่ทำอยู่ตอนนี้มันไม่เหมาะสม ดื่มได้ไม่มีใครว่าแต่ถ้าเป็นแบบนี้เขาเองนั่นแหละที่จะไม่เหลืออะไรแม้แต่ภาพลักษณ์ของตัวเอง ฟาโรห์รู้สึกผิดที่ทำอะไรโดยไม่ได้นึกถึงผลที่ตามมาถ้าเขาเมามากและทำอะไรโดยไร้สติมันส่งผลถึงภาพลักษณ์ในปัจจุบันและอนาคตด้วย
"ขอโทษนะหลังจากนี้จะปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น สัญญาอ่ะ"
"ไม่สัญญาอะไรทั้งนั้นแหละทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาสัญญาแล้วกัน ลงมาได้แล้วหิวจนจะกินนายได้ทั้งตัวละ"
หญิงสาวบ่นออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ฟาโรห์ได้ยินแบบนั้นก็จินตนาการไปถึงเรื่องบนเตียง คำพูดมันสื่อถึงเบบี๋อยากจะกลืนกินเขาทั้งตัวแบบนี้ป่ะแอบหื่นเหมือนกันนะเนี่ย
"นี่อยากกินฉันเหรอ ทำไมไม่บอกเร็วกว่านี้อ่ะจะได้ไม่แวะกินโจ๊ก"
"ฉันเปรียบเปรยว่าหิวมากจนจะกินควายได้ทั้งตัวนะ"
เบบี๋อมยิ้มก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทิ้งให้ฟาโรห์ทำหน้ามึนงงกับคำเปรียบเปรยของเธอ กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกด่าก็สายไปเสียแล้ว
"นี่แกด่าฉันเป็นควายเหรอ"
"ความรู้สึกช้าชะมัดเลย ฮ่าๆ"
ฟาโรห์วิ่งไปกอดคอเบบี๋อย่างหมั่นไส้จับเธอส่ายไปมาจนหญิงสาวร้องออกมาเสียงดังลั่น สองคนหยอกล้อกันไปมาสั่งโจ๊กแบบพิเศษมานั่งกินด้วยกันคุยกันไปตามประสาเพื่อนรักที่ไม่รู้ว่าแอบรักเพื่อนด้วยรึเปล่า
หลังจากที่อิ่มจากร้านโจ๊กเจ้าประจำทั้งสองคนก็มาเดินย่อยอาหารที่สวนสาธารณะที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เบบี๋เดินวนไปมาดูดอกไม้ในสวนอย่างเพลิดเพลิน ไม่ค่อยได้ออกมาชื่นชมบรรยากาศแบบนี้สักเท่าไหร่วันๆอยู่แต่กับเตาขนม การได้ออกมาแบบนี้มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ
"ชอบล่ะสิฉันรู้นะว่าแกชอบดอกไม้มาก ที่นี่สวนดอกไม้กว้างมากแต่ว่ามาช่วงเช้าจะสวยกว่า นี่มันดึกมากไม่เห็นอะไรหรอกเอาไว้จะพามา"
"มาปั่นจักรยานได้มั้ย"
"ได้สิมีให้เช่าด้วย เอาไว้ว่างจะพามาแล้วกัน กลับเถอะมันดึกแล้วเดี๋ยวไม่สบายเอา"
ฟาโรห์กุมมือของหญิงสาวพาไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ ในตอนนี้เขาเริ่มหายเมาแล้วเพราะได้หาอะไรกินรองท้องจึงรู้สึกดีขึ้นมาก
"เดี๋ยวขับเอง"
"ไม่ต้องเลยอันตรายนายดื่มมานะ เดี๋ยวเจอด่านตรวจจะซวยเอาอีกให้ฉันขับดีกว่า นายนะไปนั่งเฉยๆก็พอ"
เบบี๋แย่งกุญแจไปขับเองถึงเขาจะดูมีสติมากขึ้นแต่ก็ไม่ควรขับรถไปไหน ทั้งสองคนเดินทางกลับมาที่ร้านคาเฟ่ของหญิงสาวขึ้นไปข้างบนชั้นสองในเวลาเกือบตีสอง
"ไปอาบน้ำเลยนะตัวเหม็นหมดแล้วมั่ง"
"มาดมสิจะได้รู้ว่าเหม็นจริงป่ะ"
ฟาโรห์ขยับเข้ามาใกล้หญิงสาว เบบี๋รีบดันตัวเขาออกทันทีเพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ได้อาบน้ำแต่จะได้ทำอย่างอื่นแทน รายนี้มือไวอารมณ์ขึ้นเร็วกว่าคนทั่วไปเพราะฉะนั้นต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
"ออกไปเลยนะเหม็น"
"อาบน้ำด้วยกันสิเดี๋ยวอาบให้ เอาแบบถูทุกสัดส่วนเลย"
เขายิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์อุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตกใจแต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะตอนนี้ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยน้ำในอ่างอาบน้ำ ฟาโรห์ดึงเธอให้ขึ้นไปคร่อมบนตัวของเขาก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมด
"นึกสภาพว่าถ้าฉันไม่ได้กินยาคุมคงท้องลูกคนที่สองที่สามไปแล้ว"
ฟาโรห์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์จับความเป็นชายสอดเข้าไปในร่องสาวของเพื่อนสนิทด้วยความเสียวซ่าน เบบี๋ร้องซี๊ดออกมาเสียงเบากัดริมฝีปากของตัวเองไว้แน่นก่อนจะขยับร่างกายขึ้นลงตามอารมณ์ของตัวเอง
"อ๊ะ อ๊ะ อื้อ"
"แบบนั้นแหละ ซี๊ดดดด โคตรดีเลยเบบี๋"
"รอบเดียวพอนะฉันง่วง อ๊ะ อ๊ะ อย่าทำแรงสิ"
ทั้งสองคนกอดรัดกันแทบจะสิงอยู่ในร่างเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีความต้องการกันและกันก็ยังเสมอต้นเสมอปลายไม่มีแผ่ว และไม่รู้ว่าถ้าวันหนึ่งต้องแยกทางกันมันจะเป็นยังไง รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ทั้งสองคนไม่สามารถตัดขาดจากกันได้เพราะยังโหยหาสัมผัสของกันและกันอยู่ในทุกวัน....