[Part มิลิน]
@คอนโด พริบพราว 22.30
ฉันรีบขับรถตรงไปคอนโดของพริบพราว เพื่อนสนิทของฉันด้วยความเร็วทันที
ก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ
พอมาถึงฉันก็รัวเคาะประตูห้องเพื่อนสนิทเสียงดังโดยไม่สนใจว่ามือตัวเองจะเจ็บรึเปล่า
"มาแล้วค่า มาแล้ว~ ใครเนี่ยมาเคาะประตูรัวขนาดนี้" พริบพราวบ่นอุบอิบ รีบวิ่งมาเปิดประตูตามจังหวะเร่งรีบของคนหน้าห้อง
"อ๊ะ.....ยัยลิน ! " พริบพราวเปิดประตูออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อพบว่าเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง ที่ตอนนี้หน้าตาดูไม่สู้ดีนัก
ฉันรีบเดินพรวดพราดเข้ามาในห้องกดล็อกประตูห้องยัยพราวอย่างแน่นหนา แล้วฉันก็เดินตรงเข้าไปนั่งที่โซฟาตัวยาว แบบไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องเรียกเชิญ และน้ำตาของฉันที่เหือดแห้งหายไปก่อนหน้านี้ มัน...กำลังจะไหลออกมาอีกครั้ง
"ฮึก.... ฮือออออออออออ" ไวกว่าความคิดน้ำตาของฉัน ก็ไหลออกมาเป็นสาย เมื่อภาพเหตุการณ์เลวร้ายก่อนหน้านี้ฉายซ้ำเข้ามาในหัวของฉันอีกครั้ง
"ลิน......แกเป็นอะไร ทำไม?...แกถึงร้องไห้" พราวเดินเข้ามาสวมกอดฉันทันทีที่พูดจบประโยค ซึ่งมันยิ่งทำให้ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม จนผ่านไปราวๆ10นาทีที่เพื่อนรักนั่งกอดปลอมฉันอยู่เงียบๆ โดยไม่ถามอะไรเลย
"ลินแกโอเครึยัง" พราวเริ่มถามฉันขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเสียงร้องไห้ของฉันหยุดลง
"อืมๆ " คราวนี้ฉันตัดสินใจเล่าเรื่องราวเลวร้ายที่พึ่งเจอให้กับพราวเพื่อนสนิทของฉันฟัง ซึ่งมันทำให้พราวตกใจมากๆ
"แก...เขาทำตัวเหมือนพวกมาเฟียเลยอะ"
"มาเฟียเหรอ?"
"ใช่! ก็พวกทำตัวเหนือกฎหมายไง ยิ่งถ้ามีอิทธิพลมากๆนะ จะอุ้มใครทีเรื่องเงียบไม่มีใครกล้ายุ่งหรอก เขาถึงกล้าท้าให้แกไปแจ้งตำรวจแบบนั้นไง"
"......."
"แล้วแกจะเอายังไงต่อ คุณคาร์เตอร์แม่งขู่แกขนาดนั้น" ยัยพราวถามฉันพานทำหน้าเครียดไปด้วย
"ฉันไม่รู้....ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย นอกจากมาหาแก"
"เฮ้ออออ......จะแจ้งตำรวจก็ไม่ได้ ถ้างั้นแกก็ย้ายมาอยู่กับฉันไปก่อน หรือ จะให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อนแกที่คอนโดก็ได้ สองหัวก็ดีกว่าหัวเดียวนะ"
"อืมมม...ขอบคุณแกมากนะ ฉันคงขอพักกับแกก่อนแล้วกัน ฉันคงขอรบกวนแกไม่นานหรอก ฉันขอแค่ให้สภาพจิตใจฉันดีกว่านี้หน่อยก็พอ"
"ไม่เป็นไรแก อยู่นานได้เท่าที่แกต้องการเลย เดี๋ยวฉัน....คิดค่าห้องแกด้วย คืนละ450 บาทฟรีwifi และน้ำอุ่นด้วยนะจ๊ะ คิก..คิก.."
"ฮ่าๆ ๆ" คำพูดของยัยพราวทำให้ฉันอดหัวเราะตามไม่ได้เลยจริงๆ ยังน้อยตอนนี้ยัยพราวก็พูดเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งมันทำให้ฉันมีรอยยิ้มและลืมเรื่องที่เลวร้ายไปได้เหมือนกัน
"งั้น....ฉันขอโทรหามินก่อนแล้วกันนะ"
"ตามสบายเลยแก"
ฉันตัดสินใจโทรหามินนี่ ซึ่งเป็นน้องสาวที่ฉันรักมากที่สุด และเพียงรอสายไม่นานน้ำเสียงของคนที่ฉันเป็นห่วงก็ดังขึ้นมา
ติ๊ด
"หาว~ ว่าไงคะพี่สาวคนสวย...." มินนี่น้องสาวเพียงคนเดียวของมิลิน ตื่นขึ้นมารับสายพี่สาวที่รักของตัวเองด้วยอาการที่งัวเงีย
"........."
"ฮัลโหล.... พี่ลินยังอยู่ในสายไหมคะ พี่รินได้ยินหนูรึเปล่า"
"ดะ...ได้ยินจ๊ะ ได้ยิน"
".......พี่ลินเป็นอะไรคะ ทำไมน้ำเสียงเป็นแบบนั้น พี่ลิน.....ร้องไห้อยู่เหรอ "
"ปะ...เปล่าจ๊ะ พอดีพี่เป็นหวัดนิดหน่อยน่ะ"
"อ่อ.....แล้วพี่ลินกินยารึยังคะ ไปหาหมอแล้วรึยัง พี่ลินอยู่คนเดียวได้ไหม" มินนี่รัวคำถามใส่พี่สาวสุดที่รักของเธอด้วยความเป็นห่วง
"ระ...เรียบร้อยแล้วจ๊ะ พอดีพี่เรื่องสำคัญอยากจะโทรมาหามินนิดหน่อยน่ะ คือช่วงนี้....มินไปไหนมาไหนต้องระวังให้มากๆนะ อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด และจะไปไหนต้องรายงานคุณแม่ก่อนทุกครั้ง ถ้าเจอคนแปลกหน้าก็ห้ามคุยด้วย.."
"ห๊ะ.....ที่โทรมาหาน้องดึกๆดื่นๆเพราะเรื่องนี้เองเหรอคะ คิก..คิก.."
"......."
"โอเคๆ รับทราบค่ะท่านหัวหน้า น้องคนนี้จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด"
"พี่จริงจังนะมิน! " ฉันเผลอขึ้นเสียงใส่น้องสาวตัวเอง เมื่อน้องสาวทำน้ำเสียงเหมือนฉันพูดเล่น ซึ่งตั้งแต่ที่เราเป็นพี่น้องกันมา ฉันแทบจะไม่เคยทำนิสัยแบบนี้กับมินมาก่อนเลย
"......มินขอโทษค่ะ พี่ลินมีอะไรรึเปล่าคะ ทำไมถึงดูซีเรียสจัง....." มินนี่กล่าวขอโทษพี่สาวด้วยน้ำเสียงหงอยๆ
"พี่ขอโทษนะที่เผลอขึ้นเสียง พอดีช่วงนี้พี่เครียดนิดหน่อย แต่พี่เป็นห่วงมินจริงๆนะ"
"......ค่ะ มินจะเชื่อฟังพี่ลิน"
"อืม...ขอบคุณนะ งั้นพี่ไม่กวนเราแล้ว ฝันดีจ๊ะ"
"ค่า... ฝันดีเหมือนกันค่ะพี่ลิน"
หลังจากที่ฉันวางสายเสร็จ ฉันก็มานั่งคุยกับยัยพราว เรื่องที่ฉันไปทำอะไรให้คุณคาร์เตอร์ไม่พอใจรึเปล่า ถึงขนาดที่เขาตามมาทำร้ายฉันขนาดนี้ หรือฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้กับคุณคาร์เตอร์เมื่อชาติที่แล้ว คุณคาร์เตอร์เลยตามเอาคืนนะ แต่ยัยพราวบอกกับฉันว่าน่าจะเป็นเพราะความสวยของฉันมากกว่าที่ทำให้คุณคาร์เตอร์รู้สึกคลั่งรักในตัวฉัน พวกเราสองคนคุยเรื่องคุณคาร์เตอร์กันอย่างออกรส จนคิดว่าคืนนี้พวกเราคงไม่ได้นอนกันง่ายแน่ๆ
[End มิลิน]
@โกดังร้าง
“หึ” เสียงหัวเราะคาร์เตอร์หลุดออกมา เขาเหยียดยิ้มมุมปากราวกับเจอเรื่องสนุกเมื่อเขาได้ฟังการสนทนาของหญิงสาวทั้งสองคนผ่านเครื่องดักฟังที่เขาใส่เข้าไปในกระเป๋าสะพายของมิลิน
“มึงเป็นอะไร” เซนที่เห็นความผิดปกติของเพื่อน ถามมาเฟียหนุ่มด้วยความสงสัย
“มันก็กำลัง...จะทำเรื่องชั่วอยู่ไง” ไบรอันต์ตอบคำถามแทนมาเฟียหนุ่ม เมื่อเขาไปรู้และได้เห็นอะไรดีๆมาโดยบังเอิญ
“เสือก!” คาร์เตอร์ตอบเพื่อนรักอย่างไบรอันต์ ด้วยความหัวเสียเมื่อไม่มีอะไรที่รอดพ้นสายตาเพื่อนรักของเขาคนนี้ไปได้
“พวกมึง พูดเรื่องเหี้ยอะไรกัน” เซนที่สงสัยในการตอบโต้ของเพื่อนรักทั้งสอง รีบถามเพื่อให้หายข้องใจ
“เสือก! /เสือก!” คาร์เตอร์และไบรอันต์ พูดออกมาใส่หน้าเซนพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย เมื่อเซนถามประโยคนั้นออกมา
“เออ! กูเสือก เดี๋ยวกูจะสืบเองก็ได้ว่ะไอ้พวกเวร” เซนพูดออกไปด้วยความรำคาญที่เพื่อนๆของเขาไม่ยอมบอกเรื่องที่เขาอยากรู้ตอนนี้
หลังจากจบบทสนทนาลง มาเฟียหนุ่มทั้งสามคนก็กลับมาให้ความสนใจกับเอกสารตรงหน้า คาร์เตอร์ที่กำลังตรวจสอบเอกสารสำคัญอยู่ ก็เผลอคิดไปถึงใบหน้าหวานที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา วันนี้เขามีนัดสำคัญเกี่ยวกับอาวุธล็อตใหม่ ทำให้มีเวลาชิมความหวานจากเธอได้เพียงไม่นาน แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้เขารู้สึกติดใจจนอยากจะกลับไปชิมความหวานของเธอซ้ำอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มาเฟียหนุ่มมีความตั้งใจว่าเขา.....จะกินเธอให้ไม่เหลือซากเลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------