วาโยปิดลงไปชั้นล่างเพื่อหายามาทาข้อมือให้เธอ ดารินดิ้นไม่หยุดจนข้อมือที่ถูกมัดเป็นรอยช้ำและถลอกจนเลือดซึมเล็กน้อย เขาก็ไม่เข้าใจว่าดารินจะดื้อด้านอะไรนักหนาทั้งที่อยู่บ้านหลังเดียวกันแล้ว
“ไอ้มายเอากล่องยามาดิ” เขาตะโกนสั่งลูกน้องอีกคน
“ครับเฮีย แล้วน้องรินยังเหมือนเดิมไหม?” มายถามอย่างสงสัยเพราะตัวเขาเองค่อนข้างสนิทกับน้องสาวเจ้านายมากถ้าไม่เกิดเรื่องทะเลาะกันก่อนนะ
“ดื้อ!”
“ทนหน่อยเฮียถ้าคิดจะมีเมียเด็ก” มายหยิบกล่องยาส่งให้แล้วกลับไปทำงานตามเดิมแอบส่งกำลังใจเชียร์อยู่นะถึงไม่รู้ว่าจุดจบมันจะเป็นยังไง
ในขณะที่ดารินนอนคว้ำบนเตียงในห้องนอน เธอพยายามจะแก้มัดออกให้ได้แต่มันก็ยากมาก เฮียโยทำไมเป็นคนแบบนี้วะ คิดจะทำอะไรก็ทำแล้วไม่รับผิดชอบอีกด้วย
เธอขยับไปจนสุดขอบเตียงแล้วร่วงลง
ตุบ!!
“โอ๊ย! หัวฉัน!!” เธอตกเตียงหน้าผากกระแทกพื้นเต็มๆ
“ยังจะดื้อได้อีกนะริน!” วาโยเปิดตูเข้ามาก็รีบวิ่งไปอุ้มเด็กดื้อให้นั่งบนเตียง
“หัวโนเชียว”
“เพราะเฮียนั้นแหละ อย่ามาแตะต้องรินนะ!” เธอเบะปากมองวาโยไม่วางตา
“จะแกะให้อยู่นิ่งๆ” ดารินดื้อจริงๆแค่เขาเผลอแป๊บเดียวตกเตียงจนหัวโนปู้ดบวมขนาดนี้
ดารินยอมอยู่อย่างสงบให้วาโยแกะเชือกที่มัดออกจนหมด เธอไม่เข้าใจการกระทำแบบนี้ของเขาเท่าไร
“จะด่าเฮียก็ได้นะแต่อย่าทำให้ตัวเองเจ็บแบบนี้อีก” วาโยหยิบยามาทาที่หน้าผากดารินอย่างเบามือที่สุด เขาไม่ต้องการให้ดารินเจ็บตัว แต่ว่าเธอดื้อตั้งท่าจะต่อต้านเขาท่าเดียว
“เลิกพูดปัญญาอ่อนสักที” ดารินพูดใส่อย่างอารมณ์ไม่ดี
“หัวปูดขนาดนี้ลงมาแรงไหม?”
“แล้วมันเพราะใครเล่า!” เธอหันไปแว้ดใส่เขาอีกครั้ง ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
“รู้ว่าเพราะเฮียแต่รินก็ดื้อกับเฮียก่อนนะ” แค่ดารินพูดเขาก็รู้สึกผิดแล้ว
“โอ๊ย! นีใช้มือหรือตีนเนี่ยแรงขนาดนี้ ออกไปเลยรินเบื่อขี้หน้าเฮียโยแล้ว” ดารินปัดมือเขาออกขยับตัวออกห่าง เธอไม่อยากจะใกล้เฮียโยมากกว่าควร
“เบื่อก็ต้องทนเพราะเราต้องเจอกันทุกวัน”
วาโยเก็บของออกมาจากห้องดาริน เขาส่ายหน้ามองเด็กดื้อที่หัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่เขาเต็มที่ตั้งแต่วันแรกที่อยู่ด้วยกัน
แต่อีกไม่นานเธอจะได้ย้ายไปนอนห้องเขาแล้ว
“ลงไปกินข้าวด้วยละ” วาโยพูดทิ้งท้ายแล้วปิดประตูออกไปอย่างมั่นใจว่าต้องตามมาแน่นอน
“เฮ้อ...เฮียโยเมื่อไรจะเป็นเหมือนเดิมเนี่ย” ดารินถอนหายใจ ก่อนจะลงมือจัดของบางอย่าง แล้วถอดต่างหูคู่แพงออก เธอรู้ว่าเฮียโยรวยขนาดไหนแต่ของที่ให้มันมากเกินไป
ตอนนี้เหลืออีกหนึ่งกล่องเธอจะแกะดีไหม? แต่ก็ไหนๆแล้วแกะเลยก็ได้อยากรู้เหมือนกันปีนี้จะให้อะไร
“โอ้โห! กระเป๋าตังสวยจัง” เธอหยิบกระเป๋าตังสีชมพูอ่อนยี่ห้อหรูขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้น แล้วหยิบใบของตัวเองมาเทียบกัน เฮียโยรู้ได้ไงว่าเธอชอบสีชมพู
“ตังล้นกระเป๋าเชียวสงสัยเดือนนี้คงต้องเก็บค่าขนมของแม่ไว้แล้วใช้ตังเฮียแทน” เธอแพ้สีชมพูอ่อนแบบนี้เสมอเลย
ดารินหยิบบัตรต่างๆใส่ไว้ในกระเป๋าใบใหม่ แล้วนับเงินสดที่วาโยให้ก่อนจะตาโตลุกวาวด้วยความตกใจมาก
“30,000! เฮียบ้าแน่!!” ใครจะคิดว่าจะให้เยอะขนาดนี้
“กระเป๋าก็แพง ต่างหูก็แพง เงินให้เยอะอีกเฮียรวยขนาดไหนนะ” เธอไม่รู้ว่าเขาทำธุรกิจอะไรบ้าง แต่เท่าที่รู้คือหลายอย่าง
ก๊อกๆๆ
“น้องรินกินข้าวเย็นกัน” มายเดินมาตามเพราะเจ้านายเป็นคนใช้ให้มาตามคงเพราะไม่อยากทะเลาะ
“พี่มายย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วเหรอ?” เธอวางกระเป๋าตังไว้หัวเตียงแล้วหยิบแค่โทรศัพท์ออกมา
“อยู่หลังข้างๆนี่แหละ น้องรินยังไม่ดีกับเฮียอีกเหรอ?” มายถามด้วยความหนักใจมาก เขาไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้หรอกแต่อยู่อีกหลังใกล้ๆกันนี่แหละ
“ไม่อะ จนกว่าเฮียจะเปลี่ยนใจ”
“เรื่องความรักมันไม่ใช่ง่ายๆนะริน” มายพูดทิ้งท้ายเมื่อเดินลงมาเห็นสายตาดุของผู้เป็นนายส่งมาด้วยความหวง
ดารินก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเหมือนกัน เธอไม่เข้าใจความรักอาจจะเพราะไม่เคยรักใครมั้ง
“ทีกับกูทำหน้าบึ้งใส่ตลอด!” วาโยมองอย่างไม่พอใจ เขาหวงรอยยิ้มของดาริน เขาอยากเป็นคนเดียวที่ได้ แต่ก็ไม่เคยได้สักทีเลยเหนื่อยแต่ก็ช่างเถอะสักวันดารินจะเห็นเอง
“เฮียโยเดี๋ยวไอ้มิ่งมันมาหารินนะ” เธอพึ่งจะคุยกับเพื่อนเมื่อกี้นี้เอง บ้านเพื่อนเธอเปิดร้านซ่อมโน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ
“มาทำไม?”
“มันเอาโน๊ตบุ๊คมาให้” เธอขี้เกียจจะตอบคำถามอะไรต่อ เลยนั่งลงกินข้าวเย็นกับเฮียโย วันนี้พี่มายกับพี่ปืนมากินด้วยทำให้ไม่อึดอัดมากเท่าไร
“โน๊ตบุ๊คเครื่องเก่านะเหรอ? ทำไมไม่ซื้อใหม่” เขาจำได้เลยว่าเป็นเครื่องไหนซึ่งดารินใช้มาตั้งแต่ชั้นมอ.ปลาย แล้วตอนนี้มันน่าจะใกล้พังเพราะเล่นเกมมากกว่าทำงาน
“อย่ายุ่งได้ปะเฮียโย” ดารินเบะปากใส่พร้อมกับเขี่ยกับข้าวที่เขาตักให้ออก
“ปากดีจังวะ!” วาโยบ่นไม่จริงจังมาก
“พี่ปืนอยู่ไหนเหรอ?” เธอหันไปสนใจพี่ชายอีกคนแทน
“เอ่อ...อยู่บ้านข้างๆนี่แหละ” ปืนชักใจไม่ดีแล้วสิเพราะได้รับสายตาดุของผู้เป็นนายเต็มๆ
ดารินกินข้าวไปไม่นานเพื่อนก็มาทำให้เธอต้องวางช้อนแล้วเดินออกไปหาทั้งที่กินข้าวยังไม่อิ่ม
“ไอ้มิ่งคราวนี้จะพังไวไหมเนี่ย?” เธอรับโน๊ตบุ๊คมาแล้วลองเปิดใช้งานทันที
“มึงซื้อใหม่เถอะถ้าเล่นเกมใช้งานหนักขนาดนี้”
“เออ เดี๋ยวบอกแม่ก่อน รอแป๊บเดี๋ยวเอาตังมาให้”
ดารินเดินออกไปเป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเดินเข้ามา เขาแค่อยากจะสังเกตเพื่อนน้องสาวว่าคิดอะไรเกินเลยไหม
“อ้าวเฮียโยสวัสดีครับ”
“รู้จักกันด้วยเหรอ?” วาโยถามอย่างแปลกใจ
“รู้ดิ รินมันเคยเล่าให้ฟัง” มิ่งบอก
“เอ้านี่ค่าซ่อมไม่ต้องทอน” วาโยหยิบเงินมาจ่ายแทน ในตอนนี้ดารินอยู่ในความดูแลของเขา ดังนั้นค่าใช้จ่ายทุกอย่างของเธอจะรับผิดชอบเอง
“ไอ้มิ่งมึงห้ามรับเงินเฮียโยนะเว้ย!” ดารินมาถึงก็วิ่งไปห้ามพร้อมกับหยิบเงินจากมือเพื่อนยัดใส่เมื่อเฮียโยแทน
“รินบอกแล้วไงอย่ายุ่งไปไหนก็ไปเลย” ดารินหยิบเงินมาจ่ายให้เพื่อนเองก่อนจะหันไปไล่วาโยต่อ
“เด็กปากดี” นี่เขาถูกไล่ทั้งที่อยู่ในบ้านตัวเอง หึ! ไม่มีใครกล้าเท่าน้องสาวเขาอีกแล้วแหละ
“ไล่แล้วก็ไปสิหน้าด้านอยู่ทำไมเล่า!” ดารินต่อว่าเพิ่มเพราะไม่ชอบใจที่วาโยมาตีสนิทกับเพื่อนเธอ หึ! ถ้าเฮียโยได้ไอ้มิ่งเป็นพวกเธอคงหนีไม่พ้นเขาแน่
“เห้ยรินนั่นเจ้าของบ้านที่มึงอยู่นะ” มิ่งสะกิดเพื่อนก่อนที่จะเกิดทะเลาะวิวาทกัน เฮ้อ...มีเพื่อนทะโมนแบบนี้ไม่รู้เฮียโยชอบไปได้ไง สงสัยจะชอบของแปลก! มิ่งคิดในใจ
“แล้วไง?” ดารินเชิดใส่ก่อนจะลากเพื่อนไปคุยที่อื่น
“เด็กบ้า!” วาโยได้แต่กัดฟันกรอดเพราะอิจฉาที่มีผู้ชายอีกคนสนิทกับดาริน เขามันคนขี้หวงแค่เมื่อกี้รินไปจับมือมันเขายังแทบจะต่อยหน้ามันเลย
“เฮียโยจะรอดไหมน่ะ” ปืนบ่นนิดๆก่อนจะเดินออกไปแล้วเตรียมตัวมาดูบอลคืนนี้
“มึงอย่าเสือก!” วาโยตะคอกกลับแล้วเดินหน้าบึ้งขึ้นไปในนอนของตัวเอง
ชายหนุ่มผู้ไม่เคยยอมให้ใครอย่างเขาทำไมต้องมาสนใจยัยเด็กดื้อด้วยวะ ก็รู้แหละว่าโกรธเกลียดกันเพราะอะไร แต่ใจมันรักไปแล้วนี่หว่าจะทำยังไงได้ละ
ถ้าเลือกได้อย่าหวังเลยว่าจะรักดาริน
“ทำไมต้องขี่หลังกัน?” แค่เขาเผลอแป๊บเดียวน้องสาวก็ขี่หลังเพื่อนเข้ามาแล้ว วาโยมองจากหน้าต่างแล้วรีบวิ่งลงไปทันที
ถ้าไม่กลัวว่าจะขาหักคงกระโดดลงจากบันไดไปแล้วแต่นี่ทำได้แค่ก้าวลงที่ละสามขั้น
“โอ๊ย!! มึงเบาดิไอ้มิ่ง!!”
“กูเบาสุดแล้วอีริน!!”
“เพราะมึงทำให้กูเป็นแบบนี้”
“กูขอโทษคราวหลังจะเบาๆมือแล้วกัน”
วาโยได้ยินเสียงโวยวายของน้องสาวกับเพื่อนแบบนี้มีเหรอจะไม่คิดอะไรหรือว่าดารินแอบไปเล่นจ้ำจี้กับไอ้มิ่ง
มึงตายห่าแน่ไอ้เด็กเปรตแน่!
“ริน!” วาโยไปถึงก็เห็นภาพน้องสาวตบหัวเพื่อนพอดี
“โอ๊ย! อีห่ากูขอโทษ” มิ่งด่ากลับไปบ้างมีอย่างที่ไหนมาระบายอารมณ์หัวเพื่อนแบบนี้
“มึงทำอะไรน้องกูไอ้มิ่ง!” วาโยเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น
“รินมันล้มข้อเท้าพลิกน่ะเฮียยังไงฝากมันด้วยนะ”
“เห้ย! เดี๋ยวดิไอ้มิ่ง…ไอ้มิ่งมึงอย่าพึ่งทิ้งกู!!” ดารินตะโกนเรียกเพื่อนทรยศที่วิ่งขึ้นรถขับออกๆไปทิ้งเธอให้อยู่กับเฮียโย
“ไหนดูดิ” วาโยเดินเข้าไปดูใกล้แล้วสงสารเมื่อเห็นหน้าไม่สู้ดีของดารินแบบนี้
“โอ๊ยเฮียเบาๆ” ดารินตะโกนลั่นด้วยความเจ็บเพราะเขาจับข้อเท้าเธออยู่
“ไปบนห้องเดี๋ยวทายาแล้วพันข้อเท้าพรุ่งนี้ก็หายแล้ว” เขาอุ้มน้องสาวเดินขึ้นห้องทันทีนึกแปลกใจที่ไม่โดนด่าเหมือนทุกครั้ง หรือว่าจะเจ็บมากเลยพูดอะไรไม่ออก
ดารินนั่งบนเตียงเงียบปล่อยให้เขาทายาแล้วก็พันผ้ายืดที่ข้อเท้าให้ แต่ว่าเธอปวดจริงๆนะ ปวดมากจนอยากจะร้องไห้ออกมาเลย เมื่อกี้ตอนเล่นกับไอ้มิ่งก็ล้มแรงซะด้วย
“ปวดเหรอ?”
“อื้ม แล้วอยากเข้าห้องน้ำด้วยเฮียโยออกไปได้แล้ว” เธอบอกเขาไปเพื่อหวังให้เฮียโยออกไปข้างนอกห้องเธอสักที
“เดินไหวเหรอถึงมาไล่เฮีย?” เขาดูจากสภาพไม่น่าจะไหวเพราะแค่ขยับเท้ายังร้องลั่นเลย ถ้าเดินลงน้ำหนักกับเท้าเต็มๆไม่ร้องไห้เลยรึไง
“ไหว”
“อย่าอวดเก่งดาริน!” วาโยพูดชื่อเธอเต็มยศเพื่อให้รู้ว่าจริงจัง แล้วแน่นอนแหละว่าเด็กดื้อเบือนหน้าหนี เขาเลยอุ้มพามาในห้องน้ำซะเลย
“ทำไมเป็นคนงี้วะ!”
“ต้องให้ช่วยถอดกางเกงไหมริน?”
“ออกไปเลยไป๊!” เธออยากจะเอาที่ฉีดก้นฉีดไล่จริงถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เธอเจ็บขาอยู่แล้วจะวิ่งหนีไม่ทัน
“เดี๋ยวเป็นเมียเฮียแล้วยังไงก็ต้องเห็น” วาโยพูดหน้าอมยิ้มแล้วแกล้งเดินเข้าไปใกล้ดารินมากขึ้น ยัยเด็กดื้อชอบปั่นหัวเขามันต้องโดนเอาคืนบ้าง
มือใหญ่จับที่ขอบกางเกงสาวน้อยมีเหรอสาวน้อยจะยอมง่ายๆ เธอจับมือเขาออกแต่ว่าแรงสู้ไม่ไหวจริงๆในเมื่อดึงไม่ออกเธอลงมือหยิกเข้าที่แขนด้วยเล็บยาวของเธอ
“โอ๊ย! รินเฮียเจ็บ!” ครั้งนี้ไม่แกล้งแล้วเจ็บจริงๆ
“สมน้ำหน้า เข้ามาอีกสิเฮียเปียกแน่!” เธอหัวเราะเยาะด้วยความสะใจก่อนจะหยิบสายฉีดก้นขึ้นมาเป็นอาวุธป้องกันตัว
“โอเคไม่แกล้งแล้ว เฮียรอข้างนอกเสร็จแล้วก็เรียกนะ” วาโยเดินออกจากห้องไปไม่อยากจะกวนมากกว่านี้เดี๋ยวจะโมโหทำอะไรเกินตัวแล้วเจ็บข้อเท้าอีก