ท่านประธานที่แปลว่าพ่อของลูก

อดีต

“ลองโผล่หน้ามาสิ จะยิงกบาลแม่งให้กระจุย แล้วให้เจ้าแฝดเอาขี้วัวยีหน้าศพมัน ผัวที่ดีคือผัวที่เป็นหมอ จำไว้” สุเมธสอน พลางพยักพเยิดไปทางคนที่ตัวเองอยากได้มาเป็นเขย

“ตอนนี้เมย์ไม่มีแพสชั่นจะมีผัวอะ ”

“ใช้คำนี้อีกละ”

หลังคืนแซ่บล่วงผ่าน ปานดวงใจหอบร่างที่โดนเสือหื่นขย้ำกลับที่พักในบ่ายวันรุ่งขึ้น ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าพยัคฆ์ตื่นขึ้นมาจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าเมื่อคืนคนที่ขึ้นเตียงกับเขาคือเธอ ผู้หญิงนอกสายตาซึ่งไม่ใช่สเปกเขา

ปานดวงใจทำงานที่ผับกึ่งร้านอาหารก็จริง แต่หูตาก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในร้าน เรื่องเกี่ยวกับการติดต่อผู้หญิงมาให้ความบันเทิงทุกรูปแบบแก่ลูกค้าบนห้องพักแบบส่วนตัวมีเข้าหูอยู่ตลอด พยัคฆ์อาจจะคิดว่าผู้หญิงที่ทิ้งเขาไว้กับกองคอนดอมเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้

คอนดอมบนเตียงอีกอย่างที่บ่งบอกได้ว่ารักสนุกแต่ไม่ผูกมัด โลกมันก้าวไปไกลในเรื่องของความสัมพันธ์แบบวันไนต์สแตนด์ก็จริง แต่เธอรู้สึกอิหลักอิเหลื่อ ไม่สามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างสนิทใจ ไม่กล้าสู้หน้ามารี แม้พี่สาวคนสนิทจะเลิกกับเขาแล้วก็ตาม ปานดวงใจเหลือวันทำงานไม่กี่วัน แต่ก็ตัดสินใจโทร.ไปลาออกกับมารี หากก็ยังไม่ได้กลับไทยในทันที ใช้วันเวลาที่เหลือของวีซ่าไปกับการท่องอเมริกาในรัฐอื่นๆ

พอเธอกลับมาเรียนปีสี่ ก็ลองเดินหน้าง้ออดีตแฟน แต่อาการพะอืดพะอมทุกเช้า เหม็นโน่นเหม็นนี่ จึงไปตรวจ เรื่องท้องไม่เคยอยู่ในหัวเพราะเห็นหลักฐานการป้องกันบนเตียง แต่โลกที่กำลังสวยงามของเธอพลันถล่ม เมื่อเธอไปคลินิกหลังมหาวิทยาลัย หมอถามถึงวันสุดท้ายของรอบเดือน และแจ้งให้ทราบด้วยท่าทีสุขุมว่าเธอกำลังเป็นแม่คน

หมอคงจะชินกับเรื่องพวกนี้ บอกค่าใช้จ่ายให้เธอเสร็จสรรพว่าอายุครรภ์กี่เดือน ต้องใช้เงินกี่บาทสำหรับการทำลายชีวิตที่บริสุทธิ์

“เรื่องปกติ นักศึกษามาทำกันวันละหลายคน” หมอโน้มน้าว

“ขอคิดดูก่อน หนูกลับก่อนนะคะ” ตัดบทเพื่อรักษามารยาทเพียงเท่านั้น ทั้งที่สะอิดสะเอียนกับคำพูดของเขา อยากจะถอดรองเท้าฟาดหน้าใบหน้าเจ้าเล่ห์นั้น เพิ่งเก็ตเดี๋ยวนี้เองว่าทำไมเพื่อนๆ ถึงพูดกันปากต่อปากว่าคลินิกนี้เก่ง ที่แท้ก็เก่งเรื่องแบบนี้

“ถ้าท้องโตขึ้น เวลาเอาออกมันอันตรายนะ”

“ห่วงตัวเองเถอะ ไอ้หมอเถื่อน” ปานดวงใจชี้หน้าเขาและเดินออกจากห้อง เพิ่งจะสังเกตเอาตอนนี้ว่าลูกค้าของคลินิกมีแต่สาวแรกรุ่น บ้างมาเดี่ยว บ้างมากับแฟน

ปานดวงใจบอกเรื่องนี้กับพ่อและพี่ชาย พ่อคาดคั้นเธอแทบเป็นแทบตาย เพื่อจะไปลากคอผู้ชายคนนั้นมารับผิดชอบลูกสาว แต่ปานดวงใจปิดปากเงียบ เธอคิดว่าครอบครัวตัวเองก็มีฐานะ หากไปไล่เบี้ยจนถึงขั้นตรวจ DNA เพื่อให้คนที่ไม่ได้รักกันมารับผิดชอบ มันจะมีประโยชน์อะไร

ไม่รักก็อย่าฝืน สุดท้ายถ้าไม่เป็นดังหวังมีแต่ช้ำยิ่งกว่าเดิม

คำตอบจุกอกนั้น คนเป็นพ่อที่โดนเมียทิ้งไว้กับลูกสองคนเข้าใจหัวอกของลูกสาวดี เขาเคยเจ็บช้ำอย่างสาหัสจากการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักกัน

ปานดวงใจไม่รอให้จบปี 4 เทอม 1 ทั้งที่ท้องสาวยังมองไม่ออกและมีเรียนแค่ไม่กี่ตัว เธอสามารถดร็อปแค่เทอมสุดท้ายได้สบายๆ แต่เธอก็เลือกจะขอดร็อปทั้งสองเทอมเพื่อดูแลลูกในท้อง เธอออกจากหอพักมหาวิทยาลัยมาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่คนเดียว สุเมธบอกให้ลูกกลับไปอยู่ที่เชียงใหม่ด้วยกัน แต่ปานดวงใจปฏิเสธ เพราะพ่อเป็นคนหน้าใหญ่ หญิงสาวไม่อยากทำให้พ่ออับอายที่เธอต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าตั้งท้องตั้งแต่เรียนไม่จบ และสักวันคนก็ต้องลือให้แซดว่าเธอท้องไม่มีพ่อ เพราะไม่เคยเห็นพ่อของเด็กเลย

สุเมธหาทางออกด้วยการให้เพื่อนสนิทหาที่ดินในจังหวัดที่บรรยากาศดีให้ เพื่อสร้างชีวิตใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ ให้ลูกสาว ส่วนสวนส้มที่เชียงใหม่ก็ให้ลูกชายคนโตดูแลไป

ที่ดินสิบไร่กับฟาร์มวัวนมคือบ้านที่ปานดวงใจได้เริ่มชีวิตใหม่ หลังจากคลอดแล้วเธอเลี้ยงดูลูกแฝดกับสุเมธอยู่หนึ่งปีอย่างทุลักทุเล จากนั้นก็กลับไปเรียนต่อให้จบปริญญาตรี โชคดีที่ปีสี่เทอมแรกเรียนแค่สองวัน เทอมสองเธอเลือกฝึกงานที่บริษัทนมยักษ์ใหญ่ที่ทางบ้านส่งนมดิบให้ จบแล้วก็ไม่ได้หางาน เพราะกิจการนมที่บ้านกำลังไปได้ดี ล่าสุดฟาร์มของเธอได้จดลิขสิทธิ์เพื่อส่งนมให้กับบริษัทนมคู่ค้าสำหรับผลิตภัณฑ์นมที่มีสรรพคุณทำให้นอนหลับสบาย ซึ่งทำรายได้มากกว่านมทั่วไป จนทำให้พ่อคิดจะขยายอาณาเขตทำกิน