มารี

1038 คำ
“ขอบใจมากนะเมย์” “ก็บอกแล้วว่าเพื่อพี่มารี เมย์ทำให้ได้ทุกอย่าง” “ขุนครับ ป๊ามาแล้ว ไปเล่นกับป๊าก่อนไป” มารีดันหลังขุนพล ลูกชายวัยสามขวบสี่เดือนให้เดินไปหาจอมทัพซึ่งเดินเข้ามาพร้อมศราวุธ เลขาฯ คู่ใจ “ป๊าจอม ยุงวุธ” ขุนพลหันไปมองสองหนุ่มที่กำลังเดินไปยังโต๊ะทำงาน “เย่นบอลกัน” ขุนพลจับลูกบอลมาวาง แล้วขาอ้วนป้อมก็เตะอย่างแรง “โว้ว เจ้าขุนเอ๊ย” จอมทัพแกล้งไล่ตะปบลูกบอล ทำเป็นรับไม่ได้ “ฮ่าๆๆๆ ป๊าไม่เก่งเยย” ขุนพลวิ่งเข้ามาเก็บบอล คราวนี้เตะไปอีกทาง เป็นหน้าที่ของศราวุธซึ่งอยู่ในทิศนั้นต้องวิ่งไล่บอล พอเห็นว่าพ้นภาระแล้ว มารีก็หันมาคุยโทรศัพท์ต่อ “มาต่อจ้ะ” “น้องขุนซนมากไหมคะพี่มารี” ปลายสายใคร่รู้เรื่องของเด็กวัยนี้เป็นพิเศษ “ซน ยังดีหน่อยที่เช้าถึงบ่ายสองอยู่เนิร์สเซอรี ไม่งั้นไม่ไหว ซนเกิ๊น ก็เด็กผู้ชายอะเนอะ” “เด็กซนเป็นเด็กฉลาด” “ก็ฉลาดเหมือนพ่อเขานั่นแหละ หล่อด้วย” มารีเพิ่มเติม “เมย์ทนเอาหน่อยนะ ช่วยพี่แค่สี่เดือนเอง พี่ไว้ใจเมย์ที่สุด เสียดายที่เมย์ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ไม่งั้นจะได้เอาไปให้ด้วยตัวเอง มันต้องดีมากแน่ๆ” มารีใช้เสียงอ่อนเสียงหวานยามขอความช่วยเหลือจากปานดวงใจ “จะอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา นี่มันยุคไหนแล้วคะพี่มารี ว่าแต่พี่มารีแน่ใจนะเขาว่าไม่ได้รวยเพราะฟอกเงิน ปั่นหุ้น ค้ายา เล่นแชร์ลูกโซ่อะไรพวกนั้น” “พี่สืบมาแล้ว” “ถ้าแบบนั้นเมย์ก็สบายใจ ว่าแต่พี่มารีสบายดีนะ” “สบายมาก ราวกับเจ้าหญิงเชียวละ” มารีหัวเราะ “แต่จะดีที่สุดถ้าแผนที่พี่วางไว้สำเร็จ และพี่เชื่อว่ามันต้องสำเร็จเพราะเมย์ของพี่เก่ง” “ยอจนเมย์จะลอยแล้วนะพี่” ปานดวงใจหัวเราะมาตามสาย “เออ เมย์จะกลับไปที่เชียงใหม่ไหม เห็นพ่อบอกว่าที่นั่นเหลือแต่พี่ชายของเมย์ เมย์กับพ่อไม่ได้กลับไปนานแล้ว” คนถามเองก็ไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่แต่งงาน มีแต่พ่อแม่ของเธอที่เดินทางมาเยี่ยมหลานชายที่กรุงเทพฯ มารีเพิ่งรู้ว่าสุเมธพ่อของปานดวงใจไปซื้อที่ดินทางภาคอีสานตอนที่เธอต้องการจะติดต่อรุ่นน้องเพื่อไหว้วานให้ทำบางสิ่งบางอย่าง ยังดีที่พ่อของเธอมีเบอร์โทร.ของสุเมธ จึงทำให้เธอสามารถติดต่อปานดวงใจได้ในที่สุด “ตอนนี้ยังยุ่งๆ เรื่องฟาร์มวัวนม พ่ออยากซื้อฟาร์มข้างๆ เพิ่ม แต่ยังต่อรองราคากันอยู่” “อ๋อ ราคาสูงมากเลยเหรอ ถึงตกลงกันไม่ได้สักที” “ก็ใช้เงินเยอะนะ เพราะพ่อจะซื้อสองฟาร์มที่ขนาบข้างฟาร์มของพ่อ กะจะขยายใหญ่ๆ ไปเลย” ปานดวงใจไม่ได้ลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ หากอีกฝ่ายไม่ถาม ซึ่งมารีก็ไม่ได้ใคร่จะอยากรู้อะไรไปมากกว่าการคุยธุระของตัวเอง “พี่เชื่อว่าอาเมธต้องได้เป็นเจ้าของมันแน่ๆ ฝากบอกอาเมธด้วยนะ ว่าขอให้ได้ในราคาที่พอใจ” “ม้า ป๊าจาไปแย้ว ไปกันๆ เย็ว” ขุนพลคว้าแขนของมารีข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ จัดการลากแขนของแม่ไปทางจอมทัพซึ่งยืนขยับสูทรออยู่หน้าประตู “แค่นี้ก่อนนะเมย์ พี่ต้องไปงานเลี้ยงข้างนอก” “ค่ะพี่มารี โชคดีค่ะ” “พรุ่งนี้เหมือนเดิมนะ” มารีสำทับ “จบงานพี่ให้ค่าเหนื่อยก้อนใหญ่เลย” “ไม่ต้องหรอกค่ะพี่มารี เมย์ไม่ลำบากเลยสักนิด ทุกวันตอนแปดโมงเมย์จัดการให้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพี่สาว” ปานดวงใจรับคำ “ไปครับน้องขุน” เสียงของมารีดังเข้ามาก่อนจะวางสาย ส่วนปานดวงใจก็หอบเสื้อผ้าที่เก็บจากราวตะกี้เดินแหวกกองสีน้ำ พู่กัน กระดาษ แก้วที่มีสีต่างๆ ละลายอยู่ข้างใน และลูกขนุนมอมๆ มีชีวิตสองลูกเอาไปเก็บในห้องรีดผ้า หูได้ยินเสียงรถคุ้นเคย แล้วสิ่งมีชีวิตสองลูกที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาก็ลุกพรวด “ป๋ามา” สองเสียงประสานกัน “พี่พลอย น้องแพร หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ ยู้ดดดดดดดด” ปานดวงใจโยนผ้าเข้าไปไว้ในห้องส่งๆ เสียเวลานิดหน่อยตอนที่เท้าย่ำลงไปบนหลอดสี มันทะเล็ดใส่เท้าทันที ได้ยินเสียงสองแฝดแจ๋วๆ ตะโกนไกลออกไปเรื่อยๆ ตามหลังรถของสัตวแพทย์หนุ่มไปยังคอกวัวท้องแก่ที่แยกไว้ เดี๋ยวนี้สุเมธ พ่อของเธอทำคลอดวัวเองได้ แต่ผู้ช่วยซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวลากลับบ้านตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว จนเปิดปีใหม่ก็ยังไม่กลับมา เป็นแบบนี้ประจำทุกปี แต่ปีนี้แววมณีดันจะมาคลอดลูกเอาวันนี้ พ่อจึงโทร.ตามภูผา สัตวแพทย์หนุ่มเนื้อหอมให้มาช่วย “ป๋า ป๋า” พลอยใสปีนขาของภูผา ให้ชายหนุ่มอุ้มตัวเองขึ้นไปก่อน “อุ้ม อุ้ม ป๋าอุ้ม” แพรสวยอ้าแขน เรียกร้องแบบพี่สาวที่เกิดก่อนแค่ยี่สิบนาที ภูผาหรือ ‘ป๋า’ เพียงเพราะการพูดยังไม่ชัดของเด็กๆ มองไปยังคอกวัว สุเมธส่งสัญญาณมือบอกว่าอีกพักหนึ่ง ยังมีเวลาให้ชายหนุ่มได้ทักทายคู่แฝด เขาจึงคุกเข่าลง หันซ้ายทีขวาที มองเด็กหญิงผิวขาวตัวอวบวัยสามขวบ ผมดำขลับผูกแกละสองข้าง อยู่ในชุดเหมือนกัน แถมสีเดียวกัน คือชุดเอี๊ยมกางเกงผ้ายืดสีดำลายดาวดวงโตๆ สีขาว ตัวเสื้อเป็นสายเดี่ยวโชว์ไหล่โชว์แขนเป็นปล้องๆ แต่สิ่งที่สะดุดตาเขาก็คือ ทั้งหมดที่ว่ามามีสีเปื้อนเป็นหย่อมๆ กระจายไปทั้งตัว และบนผม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม