บทที่5
รักข้างเดียวมันทรมาน
มิเกลเดินขึ้นมาชั้นสองของบ้านเธอไม่เคยขึ้นมาข้างบนเลยแต่ดีที่หน้าห้องมีป้ายชื่อห้อยอยู่ เธอจึงเคาะประตูห้องของมิเกลแต่เธอไม่ขานรับจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปด้วยความเป็นห่วง มิเกลนอนหลับใส่หูฟังในชุดนักเรียนน้ำท่ายังไม่ได้อาบ
“พี่มิเกลคะ”
มิเกลสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นมาพอเห็นเป็นเจ้านางก็อ้าปากค้างเช่นเดียวกับเจ้านางที่มองดูรูปถ่ายของพี่ชายตัวเองถูกมิเกลสวมกอดไว้
“เจ้านาง....”
“แฮร่.... พี่มาร์ชให้หนูมาดูพี่ค่ะ อย่าบอกนะที่พี่เป็นแบบนี้เพราะพี่ชายหนู”
“เฮ้อ....”
มิเกลดึงเจ้านางให้นั่งลงบนเตียงนอนของเธอ เธอจึงยอมรับสารภาพว่าแอบชอบเจ้าขุนมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ เธอเก็บซ้อนความรู้สึกเอาไว้อยู่คนเดียว
“ทำไมพี่ไม่บอกพี่เจ้าขุนไปว่าพี่ชอบเขา”
“บอกไปก็มีค่าเท่าเดิม เจ้าขุนไม่ได้ชอบพี่ถ้าโดนปฏิเสธคงเสียใจกว่านี้แน่”
“หนูเข้าใจพี่นะ”
“อื้อ แต่ตอนนี้พี่ขอเวลาอีกหน่อยเดี๋ยวพี่ก็คงทำใจได้เอง ช่วงนี้เจ้าขุนก็มีแฟนแล้วด้วยพี่คงไม่กล้าเข้าไปวุ่นวาย ดีซะอีกพี่จะได้ตัดใจ”
เจ้านางไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากกอดมิเกลเพื่อปลอบใจ เธอกำลังคิดแผนการที่ทำให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันเหมือนซีรีส์ที่เธอเคยดูมา เริ่มต้นด้วยการยุให้พี่ชายจัดงานปาร์ตี้วันเรียนจบดีดีกว่า
วันนี้ทั้งสองอยู่ด้วยกันจนดึกหมอศิลาจึงโทรตามลูกสาวตัวดีให้รีบกลับ เมื่อเจ้านางกลับไปแล้วมิเกลก็ทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม เธอหยิบรูปเจ้าขุนจากใต้หมอนขึ้นมาดู
“ไอ้เจ้าขุนบ้า ฉันแอบชอบมาตั้งนานทำไมไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลย!”
โรงเรียนสกุลวาณิชย์
หลังจากเคารพธงชาติเจ้าขุนก็เรียกนักเรียนชั้นม.6ให้มารวมตัวกัน เขามีหน้าที่เช็กชื่อนักเรียนแต่ละห้องก่อนเข้าห้องประชุม เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายของนักเรียนชั้นม.6 หลายๆ คนก็มีที่เรียนต่อแล้วเมื่อเจ้าขุนเดินมาอยู่ตรงหน้ามิเกลเธอก็เกิดอาการใจสั่นทำอะไรไม่ถูก
“เมื่อวานไม่สบายเหรอมิเกล” เจ้าขุนถามพร้อมมองสบตาเธอเหมือนคุณหมอกำลังซักประวัติคนไข้
“มิเกล!” โก๋สะกิดแขนมิเกลจนเธอได้สติกลับมา
“อืม!”
เขาถามเธอเพียงเท่านี้จริงๆ พอเพื่อนอีกกลุ่มเรียกเขาก็ไป มิเกลถอนหายใจออกมาจนอาจารย์เริ่มการประชุม ช่วงนี้เป็นช่วงการสอบและกิจกรรมวันปัจฉิม หลายๆ คนจึงใช้โอกาสนี้บอกความในใจกับเพื่อนร่วมชั้น
“เธอควรใช้โอกาสนี้บอกมันนะ” โก๋กระซิบข้างหูมิเกล ถึงเขาจะไม่ได้เรื่องในหลายๆ อย่างแต่เขาก็เห็นใจมิเกลที่ต้องรักเพื่อนเขาข้างเดียว
“บอกชอบแฟนคนอื่นเนี่ยนะ ไม่เอาหรอกโก๋”
เจ้าขุน....
ช่วงสุดท้ายของการใช้ชีวิตมอปลายเป็นช่วงที่ประธานนักเรียนอย่างผมวุ่นวายมาก งานราษฎร์งานหลวงให้เพียบไปหมด ไอ้โก๋ก็เอาแต่หม้อสาวไม่ได้คิดจะมาช่วยผมเลย ดีที่กลุ่มของลิลลี่เข้ามาช่วยผม
“เจ้าขุนนายว่ามิเกลดูแปลกๆ ไปไหมตั้งแต่นายเปิดตัวแฟนมิเกลก็ดูซึมๆ ไปเลย” สมายด์ขยิบตาใส่ลิลลี่เพื่อช่วยกันใส่ร้ายมิเกล
“นั่นสิเจ้าขุน แสดงตัวแบบนี้ไม่เกรงใจแฟนเจ้าขุนเลยเนอะ” ลิลลี่สมทบอีกเสียง
“ไม่หรอกมิเกลอาจจะไม่สบายจริงๆ ก็ได้”
“เราดูออกว่ามิเกลคิดอะไรกับเจ้าขุน นายลองคิดสิเมื่อก่อนไม่ว่านายจะทำอะไรที่ไหนมิเกลก็ต้องอยู่แถวๆ นั้นเหมือนคนโรคจิตอะชอบแอบตามดู เนอะๆ” แก๊งสาวๆ หัวเราะชอบใจเจ้าขุนจึงรีบเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อเตรียมตัวขึ้นเรียน
“ไอ้โก๋มานี่หน่อยมึงเอางานนี่ไปให้มิเกลด้วย ฝากบอกด้วยว่ามิเกลหยิบงานผิดมา”
“มึงก็ไปบอกเองสิ”
“กูเห็นมึงสนิทกับมิเกล มิเกลป่วยเป็นอะไร”
“กูไม่ใช่หมอ กูไม่รู้มึงเป็นว่าที่นายแพทย์มึงก็ไปถามสิครับเพื่อน”
สุดท้ายผมก็ต้องเดินมาหามิเกลอีกครั้งเหมือนเธอไม่ค่อยอยากมองหน้าผม ผมจึงส่งใบงานให้เธอ
“อะไรเหรอ”
“งานนี่มันใบงานของอาจารย์นงลักษณ์ไม่ใช่ของอาจารย์ผกา”
“อ่าว!”
เธอรีบเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบใบงานอีกแผ่นให้ผม เธอไม่มีสมาธิจากที่โก๊ะๆ อยู่แล้วยิ่งไปกันใหญ่แบบนี้เรียนหมอจะรอดไหม
หลังจากที่เจ้าขุนเดินกลับไปมิเกลก็รีบวางมือบนหัวใจของตัวเอง มันสั่นไหวอีกแล้วเธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จนซอลหยิบสมุดขึ้นมาพัดให้เธอ
“มึงเนอะหัวใจจะวายตายห่าก่อนมีผัวหรือเปล่า”
“อิซอลกูก็ไม่รู้ทำไมเวลากูอยู่ใกล้เจ้าขุนกูถึงเป็นแบบนี้ทุกทีเลย มันเจ็บจี๊ดๆ เจ็บเหมือนโดนเข็มเล็กๆ ทิ่มแทง”
“มึงรักมันมากขนาดนี้เลยเหรอวะมิเกล”
“กูไม่รู้ว่ามันเรียกว่ารักไหม แต่กูยอมเห็นเจ้าขุนมีความสุขกับคนที่ดี กูเจ็บกูทนได้สักวันเดี๋ยวกูก็ดีขึ้นเอง”
“เมื่อไหร่วะ มิเกลกูขอพูดตรงๆ นะมึงเก็บความรู้สึกแบบนี้มาตั้งแต่ป.4 จนตอนนี้จะจบม.6อยู่แล้ว ถ้ากูเป็นมึงกูจะบอกมันไปตรงๆว่ามึงคิดอะไร ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไงอย่างน้อยมึงก็จะได้รู้ใจตัวเองว่าควรชอบมันต่อหรือควรตัดใจ”
“อืม ไว้สอบเสร็จกูจะบอกเอง”
“เออมันต้องแบบนี้ดิ!”
---------------------------------
ตอนเรียนจบไรท์ก็เคยบอกผู้ชายที่ชอบเหมือนกันค่ะ แต่เขาบอกเขาเป็นตุ๊ด!!
ไม่ต้องกลัวว่าพระเอกจะไม่โบ้นะคะ เรื่องนี้โบ้หนักค่ะอีกไม่กี่ตอนเท่านั้น