…ผลัวะ…
บุษกรตวัดกำปั้นตันๆ สาดเข้าใบหน้าคร้ามคมเต็มแรงที่มี เมื่อชายหนุ่มปล่อยเธอให้กลับมาอยู่บนโลกเอียงๆ ใบเดิม
นี่เธอเผลอไผลปล่อยตัวให้เข้าใกล้ชิดแบบนี้ได้อย่างไรกัน!! แค่ในฝันก็มากเกินพอแล้ว แถมยังเคลิบเคลิ้มไปกับเขาอีก บุษกรทั้งโกรธทั้งอายเมื่อสติกลับคืนมา
“ไอ้ชั่ว ไอ้ฉวยโอกาส ไอ้..ไอ้!!!” เธอโกรธจัด จนนึกสรรหาคำมาด่าว่าเขาไม่ถูก
“หยุดนะคุณผู้หญิง ด่าอีกคำเดียวฉันจะปล้ำเธอตรงนี้แหละ เธอต่อยฉันไปแล้วครั้งหนึ่ง ถ้าขืนยังด่าไม่ดูหน้าอินทร์หน้าพรหมอีกเจอดีแน่ๆ”
อองรียกปลายนิ้วขึ้นขี้หน้าบุษกร ดวงตาของเขาลุกวาบ ชายหนุ่มยกมือขึ้นเท้าเอว ยืนปักหลักจังก้า พร้อมที่จะเอาเรื่องหากผู้หญิงคนนี้คิดจะทำร้ายเขาอีก ก็แค่ “จูบ” จะอะไรหนักหนา!!
บุษกรเม้มเรียวปากบางจนเป็นเส้นตรง เธอถลึงตาใส่ชายหนุ่ม แต่ก็ขยับถอยหลังหนีออกไปห่างๆ อีกหนึ่งช่วงตัว
“ที่นี่... ที่ที่เธอยืนอยู่นี่คือบ้านของฉัน!! เธอเป็นแค่กาฝากเป็นแค่คนอาศัย อย่าคิดว่าอาศัยใบบุญของยัยแม่มดนั่น...ฉันจะนึกกลัว ขอให้รู้ไว้ ฉันจะทำทุกทางเฉดหัวเธอกับญาติของเธอออกไปให้พ้นจากบ้านฉัน!!”
ชายหนุ่มตวาดเสียงก้อง เขาจ้องหน้าอ่อนใสที่ซีดเผือดลงไปหลังได้ยินคำพูดเขาจนจบประโยค
“เอ่อ...ปราสาทหลังนี้ไม่ใช่ของคุณอองตวนเหรอคะ คุณเอาเรื่องบ้าๆ อะไรมาพูด คุณเป็นใครกัน?!!”
“เธอไปมัวงมหอยจับปลาอยู่ที่ไหน ถึงไม้เคยรู้ว่าเจ้าของเดอฟร็องส์ตัวจริงคือใคร!! แกล้งโง่หรือโง่จริงๆ หะ”
ชายหนุ่มแสยะยิ้ม เขาเหยียดมุมปากคลี่ออก ก่อนจะกรรโชกเสียงเคร่งๆ ใส่ยัยผู้หญิงหน้าหวานรสจูบซ่านทรวง
บุษกรกำลังงง ตกลงมีแชลอยู่ในฐานะอะไรที่นี่ เธอไม่ใช่มาดามเดอฟร็องส์เหมือนที่ป่าวประกาศหรอกหรือ แล้วผู้ชายหน้าเข้มคนนี้เขาคือใคร? เธอเพิ่งเดินทางมาปารีสไม่กี่วัน เพราะคุณน้ายังสาวขอความช่วยเหลือ เธอต้องการคนดูแลใกล้ชิด อีกอย่างบุษกรกำลังว่าง เธอเพิ่งจะเรียนจบวิทยาลัย’ มาหมาดๆ อีกอย่างการได้เดินทางไปต่างประเทศ แถมเป็นประเทศในฝันที่สาวๆ ทุกคนใฝ่ฝันที่จะไปเสียด้วย
“บัวไม่รู้จริงๆ ค่ะ บัวเพิ่งมาอยู่ที่นี่ ขอตัวนะคะบัวต้องคอยดูแลคุณน้า คุณไม่สมควรทำแบบนี้กับบัวอีก...ถึงบัวจะเป็นแค่คนอาศัยแต่บัวก็ไม่ใช่ลูกจ้างของคุณ”
บุษกรเชิดหน้าขึ้น ถึงพลังอำนาจอันน่าเกรงขามจะแผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม เธอกลัวจนขาสั่น แต่ไม่มีทางแสดงออกให้ใครเห็น โดยเฉพาะเขา!! ร่างบอบบางหมุนตัวเดินหนีและอองรียอมปล่อยแต่โดยดี เมื่อเขาเกิดความคิดสนุกๆ ขึ้นมาแบบเฉียบพลัน ยัยหน้าหวานเป็นญาติสนิทของมีแชล การจะล้วงความลับของผู้หญิงน่าเกลียดคนนั้นคงต้องอาศัยผ่านเธอผู้นี้ คิดจะกำจัดมีแชลไม่เกินความสามารถของเขา แต่การจะเหยียบซ้ำให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นๆ ก่อนที่จะเปิดหนี มันน่าสนุกกว่าเป็นไหนๆ
บุษกรหันแผ่นหลังพิงกำแพงหิน เธอหอบหายใจจนตัวโยน หลังวิ่งหนีเตลิดผู้ชายร้ายกาจดังอสูรร้ายคนนั้นมา มือเล็กๆ ยกขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง เธอโดนชายหนุ่มปล้น ‘จูบ’ แบบอุกอาจ เฟิร์ตคิสที่เธอเก็บไว้เพื่อมอบให้คนสำคัญ มันถูกขโมยไปเสียแล้วจากผู้ชายคนหนึ่งที่ดูดุเถื่อนและน่าหวาดกลัว
เขาเป็นใคร?!! เธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย...
“บัว...อองรีล่ะเขากลับไปหรือยัง”
เพียงแค่ประตูห้องพักเปิดออก เสียงแหลมปรี๊ดก็ถามด้วยความใจร้อน
“ยังค่ะ” ผู้ชายคนนั้นชื่อ ‘อองรี’ ดูเขามีความสำคัญมากจนแม้แต่ผู้หญิงที่แสนมั่นใจอย่างคุณน้ามีแชลยังดูหวาดหวั่น
“ฉันก็ลืมบอกบัวไป ว่าอองรีเขาเป็นลูกชายของคุณพี่ เขาออกไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่ฉันย้ายมาอยู่ใหม่ๆ”
มีแชลขยายเรื่องราวให้หลานสาวรับรู้เพิ่มขึ้น “อย่าไปยุ่งกับเขาเชียวล่ะ เขาเกลียดฉันเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน ความเกลียดนั่นอาจจะเพื่อแผ่มาถึงเธอด้วยก็ได้”
บุษกรครางอยู่ในอก นี่หรือทายาทของเดอฟร็องส์ที่สาวใช้เก่าแก่เอ่ยถึงอยู่บ่อยๆ หนุ่มรูปงามที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ ดวงตาเขาเหมือนเสือร้าย ที่รอเวลาตะครุบเหยื่อ ริมฝีปากคู่นั้นร้อนแรงดังเปลวเพลิง มันพร้อมที่จะลวกอีกฝ่ายให้มอดไหม้ด้วยไฟบัลลัยกัลป์
“ฉันแค่ต้องการบอกข่าวดีเรื่องที่ฉันกำลังตั้งท้อง แต่...ทำไมเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้นะ”
มีแชลรำพึงรำพันด้วยความไม่เข้าใจ เธอไม่เคยรู้เลยว่าสามีที่อยู่ด้วยกันนับสิบปีจะไม่สามารถมีบุตรได้อีก เธอพลาดหรือ?!! แล้วไอ้มารหัวขนที่อยู่ในท้องเธอนี่ล่ะ เธอจะทำอย่างไรกับมันดี เมื่อไม่ได้ช่วยให้เธอสามารถครอบครองเดอฟร็องส์ได้ มันก็ไม่สมควรได้ลืมตามาดูโลกมีแชล หรี่ตาลงเธอต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้เสียก่อน เธอไม่มีทางยอมให้อองรีได้มีโอกาสขับไล่เธอออกจากเดอฟร็องส์ได้เพราะสาเหตุนี้หรอก!!
“แล้วคุณพี่ล่ะบัว”
เสียงเย็นเฉียบหลังมีแชลนั่งอยู่เงียบๆ เป็นนานสองนาน
“คุณท่านยังอยู่ในงานฉลองค่ะ แขกยังกลับไม่หมด”
“เหรอ!!”
ถึงจะหวั่นใจในความผิดที่ตัวเองก่อ แต่มีแชลคิดว่าโทษเธออาจจะไม่รุนแรงเพราะความรักที่อองตวนมอบให้เธอแบบทูนหัวทูนเกล้า เธออาจจะปล่อยเด็กคนนี้ไว้และใช้เขาเป็นสายใยเชื่อมชายสูงวัยเอาไว้ ถึงแม้จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข แต่ความไร้เดียงสาของเด็กแรกเกิดมักจะจับจิตจับใจคนสูงวัยเป็นเรื่องธรรมดา
“เธอไปตามคุณพี่มาหาฉันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”
หลังใคร่ครวญอยู่นาน มีแชลคิดแผนร้ายอันแยบยลขึ้นมาได้ เธอจึงอยากทำให้มันสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว จึงสั่งให้บุษกรไปตามอองตวนสามีสูงวัยมาเพื่อเจรจา
“ค่ะ!!”
บุษกรผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ คุณน้ามีแชลกับพ่อนิสัยคนละอย่าง แตกต่างกันสุดขั้ว พ่อชอบอยู่เงียบๆ อยู่กับธรรมชาติกลางขุนเขา ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ทะเยอทะยานฟุ้งเฟ้อ แต่คุณน้าผิดกับพ่อแบบหน้ามือกับหลังมือ ผู้หญิงสวยสง่ามีความสุขอยู่กับคนที่ตัวเองรัก ยังกระหายและอยากได้ใคร่ดีไม่รู้จักพอ...
ร่างเล็กๆ ลัดเลาะไปตามเงาตึก เธอพยายามหลบสายตาของอองรีโดยเฉพาะ เมื่อเขาน่ากลัวเหมือนอสูรร้าย เธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เดิมๆ ซ้ำอีก ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะไปสู้แรงกำลังที่มีมากกว่าได้อย่างไร โดยเฉพาะพลังอำนาจที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ หากเธอถูกลวกซ้ำคงมอดไหม้กลายเป็นแค่ฝุ่นผง
อองรีหรี่ตาลงเขามองเห็นยัยนั่นผ่านหางตาแวบๆ เธอเดินหลบซ่อนตามเงาตึกมุ่งหน้าตรงมายังทิศที่เขายืนอยู่พอดี แต่เมื่อเธอหันมาสบตาเขาเธอผงะหลบเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ เจอพญาเสือ ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เขาเริ่มสนุกจนแทบจะอดใจรอไม่ไหว
“ยิ้มอะไรคะอองรี โลรีสเห็นคุณยิ้มแบบนี้หลายครั้งแล้วนะคะ”
นางแบบสาวเหลือบมองชายหนุ่มคู่ควง เธออดใจไว้ไม่อยู่จึงหลุดปากถามด้วยความแปลกใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงไปด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ที่ดูลึกลับและน่ากลัว
“คุณอยากลองนอนในปราสาทหลังโตๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์นี่หรือเปล่าล่ะโลรีส”
เสียงทุ้มนุ่มถาม เขาไม่ได้ตอบคำถามอย่างที่เธออยากรู้...
“ได้เหรอคะ!! อองรี”
นางแบบสาวตาโต ปราสาทเดอฟร็องส์ไม่ได้เปิดต้อนรับแขกการที่จะเข้ามาได้ต้องมีคนในชักจูงและมันน่าสนใจหยอกเสียเมื่อไร?!! เมื่อปราสาทหลังโตๆ เคยเป็นที่อยู่ของเจ้านายในชนชั้นสูง เธอจะได้นอนบนเตียงที่มีประวัติยาวนานนับทศวรรษ
“เดอฟร็องส์เป็นของผม และการที่เจ้าของบ้านตัวจริงจะมาอาศัยนอนค้างคืนสักคืนหนึ่งจะเป็นอะไรไป”
คำตอบของอองรีสร้างความปีติยินดีให้นางแบบชื่อดัง ถึงจะเคยได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มาบ้างเป็นกระสาย แต่โลรีสก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ความคลุมเครือที่ไม่มีใครให้คำตอบชัดๆ เสียที ต่างฝ่ายต่างสงวนทีท่าและอองรีไม่เคยเปิดปากพูดเรื่องนี้ หากมีใครเสนอหน้าเขาไปถามเขาตรงๆ
“ไปเถอะผมจะหาห้องนอนหรูๆ ให้คุณในคืนนี้ บรรยากาศที่น่าจดจำไปอีกนานแสนนาน”