พิ้งค์กี้ยืนถ่ายรูปกับซีเนียร์ด้วยความมึนงง ใครจะคิดว่าตัวเองจะได้รางวัลคู่ที่เหมาะสมกับชายคนรัก ใครมาโหวตให้เนี่ยอยากรู้จริงๆ
"ทำไมทำหน้างงอย่างนั้น ตัวเองไม่ดีใจเหรอที่ได้เป็นคู่รักที่เหมาะสมกับเค้าอ่ะ"
เขากระซิบคนรักเสียงอ่อนโยน เธอยิ้มให้กล้องถ่ายรูปก่อนจะตอบกลับเขาไป
"ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจแต่ปกติไม่มีใครมองว่าเราสองคนเหมาะสมกันเลย อาจจะเพราะว่าเป็นเพื่อนกันด้วย"
"เค้าว่าพวกผู้ชายโหวตกันแหละ เพราะเค้าบอกที่โต๊ะว่าไม่มีทางรักกับดีสนีย์ พวกมันเลยหันมาเป็นตัวเองแทน"
เธอพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ คะแนนห่างกันนิดเดียวแสดงว่าพวกผู้ชายคงตั้งใจโหวตให้เธอแทน โดยปกติก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครโหวตให้นะ คะแนนก็ห่างกันไม่เยอะหรอก แต่ปีนี้คะแนนเธอเยอะกว่านิดหน่อยแค่นั้นแหละ
"เจ๊พิ้งค์ทำหน้าให้มันเหมือนคู่จิ้นกันหน่อย รางวัลคือมงกุฎฝังเพชรนะเว้ย ทำไมทำหน้าแปลกๆ"
"ก็ไม่คิดว่าจะได้ป่ะ"
เธอจะหน้าเซ็งๆก่อนจะจัดการถอดมงกุฎของตัวเองแล้วเอาไปวางไว้ให้ซีเนียร์ถือให้ เธอเดินลงมานั่งลงที่โต๊ะตามเดิมก่อนจะถูกเพื่อนๆแซวใหญ่ที่ได้มงในปีนี้
"คือเริ่ดอ่ะพิ้งค์ ได้ทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม มงกุฎฝังเพชรแถมยังได้โรเล็กซ์จากซีเนียร์อีก"
"ไม่ได้หรอกมันแพงจะเอาคืนให้แล้ว"
ซีเนียร์เดินมาที่โต๊ะก่อนจะเอามงกุฎไปใส่ที่หัวให้หญิงสาวตามเดิม
"นทีบอกว่าให้ใส่ก่อน มันจะให้ช่างภาพมาถ่ายรูป"
"โรเล็กซ์ของนายอ่ะ รางวัลเมื่อกี้มันแพงเก็บไว้ดิ"
เธอส่งไปให้เขาเก็บไว้ ซีเนียรส่ายหน้าก่อนจะดันไปให้เธอเก็บเข้ากระเป๋าตามเดิม
"ไม่เอาอ่ะเก็บไว้เธอ มีเยอะละ เก็บแค่มงกุฎก็พอ"
เขาไม่รับแถมยังยกของแพงทั้งหมดให้หญิงสาวอีก เพื่อนในโต๊ะมองกันอย่างอิจฉา นี่ถ้าไม่รู้ว่าสองคนนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากก็คงมองว่าเป็นคนรักกัน การแสดงออกท่าทางเหมือนมากจริงๆ
"ให้เค้าเหรอ ป๋าซีนี่น่ารักที่สุดเลยค่ะ"
พิ้งค์กี้เอ่ยออกมาอย่างเคยชิน เธอเก็บของรางวัลตรงหน้าใส่กระเป๋าก่อนจะส่งไปให้เขาถือไว้
"ถือให้ด้วยปวดแขน"
"จ้ะแม่ งั้นเดี๋ยวตามไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะนะ"
"จ้ะ"
เธอยื่นมือไปจับแก้มเขาไว้ก่อนจะหันมามองเพื่อนที่มองกันตาค้าง เธอเหมือนจะรู้สึกตัวว่าแสดงออกมากเกินไปก็ยิ้มแห้งออกมาก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม
"มองไรกันอ่ะ"
"อย่างกับคู่รักกันแหนะแกสองอ่ะ เอาจริงแกกับซีเนียร์เหมาะกันมากเลยนะ รู้สึกว่าหมอนั่นจะชอบแกนะไม่ลองคบกันดูเหรอ"
พิ้งค์กี้มองหน้าเพื่อนก่อนจะไม่ตอบอะไร ถ้าบอกว่าคบกันอยู่คงจะช็อคเพราะฉะนั้นให้รู้แบบนี้ไปก่อนแล้วกัน
"มันเป็นเรื่องของอนาคตสิ ตอนนี้ก็มีความสุขดี"
"จ้ะแม่ดาราดัง ตอบอย่างกับดารา"
"ถามเยอะมาชนกัน น้องแตงกวาไปหาณภัทรก่อนเลยนะเดี๋ยวพี่ตามไปนั่งด้วย"
"ได้ค่ะ"
แตงกวายิ้มออกมาก่อนจะเดินไปหาสามีของตัวเอง ส่วนพิ้งค์กี้เธอนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่สักพักก่อนจะเดินไปหาซีเนียร์ที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ เธอลากเก้าอี้มานั่งแทรกระหว่างดีสนีย์และคนรัก ไม่รู้ว่าแอบมานั่งตอนไหนปล่อยคลาดสายตาไม่ได้เลย
"ป๋าซีนั่งด้วยค่ะ"
"เบื่อโต๊ะโน่นแล้วหรือไง"
"เบื่อแล้วหิวข้าวด้วย มีไรกินบ้างอ่ะ"
เขาหยีผมผมเธอเล่นก่อนจะลุกขึ้นเดินไปตักอาหารมาให้หญิงสาวหลายจาน พิ้งค์กี้เห็นอาหารตรงหน้าก็ยิ้มออกมาทันทีอย่างพอใจ
"น่ากินอ่ะ"
"น่ากินก็กินเยอะๆ"
เขานั่งลงข้างเธอก่อนจะหันไปหยิบน้ำเย็นมาวางให้ตรงหน้า พวกเพื่อนในโต๊ะต่างมองกันอย่างแปลกใจในการปฏิบัติต่อกันของทั้งคู่
"นี่... ทำไมไม่คบกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยอ่ะ"
"นั่นดิ ที่ทำอยู่นี่ไม่เหมือนผัวเมียกันตรงไหนถามจริง"
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองหน้าทุกคนอย่างขอความเห็น
"เหมือนขนาดนั้นเลยเหรอ เพื่อนกันก็ทำแบบนี้ให้กันนะแปลกตรงไหน แล้วเราสองคนก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรพวกนายลืมไปแล้วหรือไง"
ทุกคนนึกย้อนไปถึงในอดีต ก็จริงอย่างที่เธอพูดซีเนียร์ก็ทำแบบนี้ให้เธอตลอดอยู่แล้ว แต่ว่าทำกับพิ้งค์กี้คนเดียวนะไม่ได้ทำให้ผู้หญิงคนอื่น
"ก็จริงอ่ะ"
"แล้วไม่คิดจะลองคบกันเหรอ"
"เราสองคนตกลงกันว่าอีกสองปีถ้าต่างฝ่ายยังไม่มีใครก็จะแต่งงานกันเองเนี่ยแหละ"
ทุกคนในโต๊ะหลุดขำออกมาทันที นี่ถึงขั้นต้องสัญญาใจกันขนาดนี้เลยเหรอ
"เชื่อฉันดิไม่พ้นกันหรอกสองคนเนี่ย"
ณภัทรเอ่ยออกมาขำๆ ทุกคนยิ้มออกมาทันที สงสัยจะจริงอย่างที่ณภัทรพูดสองคนนี้คงไม่พ้นกันแน่นอน
"จ้ะพ่อนักทำนายชีวิตคนอื่น เกือบเอาตัวเองไม่รอดนะจ้ะ"
พิ้งค์กี้หันไปแขวะเพื่อนสนิท เขาตาโตก่อนจะปากระดาษใส่เพื่อนอย่างหมั่นไส้
"เรื่องมันนานแล้วมั้ย อย่ารื้อๆ"
"หึหึ อย่าปากดีไม่งั้นจะโดนแฉ"
พิ้งค์กี้ชี้หน้าณภัทรก่อนจะตักทานข้าวต่อ เขายกมือยอมแพ้ก่อนจะหันไปหาซีเนียร์ที่นั่งข้างเธอ
"ไอ้ซีจ้างล้านหนึ่งเอามันไปทำเมียดิ จัดการสั่งสอนห้ามให้พูดมากพร้อมโอนเลย"
ซีเนียร์หันไปหาหญิงคนรักอมยิ้มกรุ่มกริ่ม พิ้งค์กี้เอาข้อศอกกระทุ้งเอวเขาก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
"อย่ามายิ้มแบบนี้เดี๋ยวเค้ารู้กันหมด"
"ถ้าบอกมันตอนนี้ว่าเค้ากินตัวเองแล้ว ได้ตั้งล้านหนึ่งแหนะ ตัวเองไม่เอาเหรอ"
"คนบ้า! หยุดพูดเลยนะ"
เธอยิ้มเขินหน้าแดงก่ำก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มกลบเกลื่อน แบล็คลิสต์ที่เดินมาจากอีกโต๊ะมายืนอยู่ข้างหลังของหญิงสาวก็เอ่ยทักทายทันที
"พิ้งค์กี้ขอคุยด้วยหน่อย"
"ว่าไง คุยไรอ่ะ"
"พอดีว่าจะจ้างบริษัทไปจัดอีเว้นท์ให้หน่อย เห็นว่าทำโฆษณาด้วยใช่มั้ย"
เธอพยักหน้าออกมาก่อนจะหยิบนามบัตรของตัวเองส่งไปให้เขา ถ้าถามเรื่องงานคือลูกค้าทั้งหมดซึ่งเธอยินดีคุยด้วยเสมอ
"นี่นามบัตร พรุ่งนี้ค่อยโทรมาคุยกัน"
"โอเคขอบคุณมากนะ"
เขายิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปแตะที่ผมของพิ้งค์กี้ ซีเนียร์ที่เห็นรีบปัดมือเขาออกทันที
"ทำอะไรวะ"
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แบล็คลิสต์ตกใจก่อนจะรีบปฏิเสธทันที
"ไม่ได้ทำอะไรมีเศษดอกไม้ติดผมก็เลยหยิบออกให้ ไม่เห็นต้องโมโหขนาดนี้เลย"
ทุกคนหันไปมองเขาอย่างสงสัย ซีเนียร์รู้สึกว่าตัวเองแสดงออกมากจนเกินไปก็รีบเอ่ยกลบเกลื่อน
"ใครจะไปรู้นึกว่าแกจะลวนลามเพื่อนฉันนี่"
"เพื่อนหรือแฟนเนี่ย ออกนอกหน้ามาก"
ณภัทรเอ่ยแซวขำๆ ซีเนียร์หันไปถลึงตาใส่ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มอย่างกับอารมณ์ที่มันหงุดหงิดภายในใจ เขาไม่ชอบผู้ชายทุกคนที่เข้าหาพิ้งค์กี้รวมถึงอดีตคู่จิ้นของเธอด้วย
"พรุ่งนี้โทรมานะ"
"โอเค พรุ่งนี้จะโทรหา"
เขาอมยิ้มแก้มปริก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ดีสนีย์ที่นั่งเงียบอยู่นานก็ลุกขึ้นเดินตามแบล็คลิสต์ไป สงสัยคงต้องคุยกันสักหน่อยแล้วล่ะมั่ง
"ซีเนียร์อยากกินน้ำเย็น"
"นี่ไงน้ำเย็น"
"มันไม่เย็นแล้วอ่ะ"
เขามองแก้วของเธอที่ตอนนี้น้ำแข็งละลายหมดแล้วก่อนจะพยักหน้ารับทราบลุกขึ้นไปเปลี่ยนน้ำให้เธอ ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นในมือ
"อ่ะน้ำครับแม่"
"ขอบคุณจ้ะลูกชาย"
สองคนหยอกล้อกันอย่างที่เคย และก็ไม่มีใครสงสัยอะไรเพราะโดยปกติสองคนก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าก่อนจะถึงวันแต่งงานความลับจะแตกก่อนหรือไม่....