“สวัสดีครับ คุณอำนาจ” เซนเอ่ยกล่าวทักทายผู้มีอายุมากกว่าด้วยความสุภาพ
“อะ..เอ่อ..สวัสดีครับคุณเซน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่คุณเซนเชิญผมให้มาทักทายได้ถึงที่” อำนาจรู้สึกประมาทอยู่ไม่น้อย ที่เด็กหนุ่มผู้มีอิทธิพลด้านธุรกิจในไทยละต่างประเทศจะให้ความกันเองกับนักธุรกิจระดับกลางๆ อย่างเขา
“ไม่เป็นครับ....ไม่ต้องเกรงใจ ผมแค่อยากมาทำความรู้จักกันไว้”
“ครับ เป็นเกียรติมากจริงๆ”
“แล้วนี่คุณอำนาจมากับใครครับ ผม...เห็นเดินมาคนเดียว”
“ผมมางานกับภรรยาและลูกสาวครับ นั่นไงครับลูกสาวผม เธอกำลังเดินมาพอดี / พริบพราวมานี้เร็วลูก” อำนาจพูดอธิบายพลางสอดสายส่ายตามองพริบพราว ก่อนจะรีบออกคำสั่งลูกสาวหวังจะแนะนำให้เธอรู้จักผู้ชายที่เก่งไปด้วยความสามารถ
“ค่าๆ รีบอยู่ค่ะ” พริบพราวซอยเท้าเดินตามจังหวะรบเร้าของผู้เป็นพ่อ เธอเดินหน้าบูดก้มหน้าก้มตายุ่งอยู่กับโทรศัพท์ในมือโดยไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบข้างตัวเธอเลย
“คุณเซนครับ นี่พริบพราวลูกสาวคนเดียวของผม” ทันทีที่หญิงสาวเดินมายืนเคียงข้างกายผู้เป็นพ่อ อำนาจก็เอ่ยแนะนำลูกสาวตัวเองให้กับนักธุรกิจหนุ่มตรงหน้า
“อ๊ะ!” ทันทีที่พริบพราวได้ยินชื่อ เธอก็รีบเงยหน้าขึ้นทันทีก่อนที่สายตาทั้งคู่จะปะทะเข้าหากันอีกครั้ง
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“หนูไหว้คุณเซน เขาสิ” อำนาจเอ่ยขึ้นอย่างขัดจังหวะ เมื่อตอนนี้หัวใจดวงน้อยของเธอกลับเต้นแรงอีกครั้ง
“เอ่อ..สวัสดีค่ะคุณเซน หนูชื่อ...พริบพราวค่ะ” หญิงสาวรีบสลัดสายตาที่น่ากลัวนั่นออกไปก่อนจะรีบพนมมือไหว้ผู้ชายตรงหน้าด้วยความนอบน้อม
“อืม...แต่ฉันไม่รับคำทักทายจากเธอแบบคนไทยหรอกนะ”
“คะ?” / “แล้วมันต้องทักทายแบบไหนเหรอครับ” ทั้งพริบพราวและอำนาจต่างไม่เข้าใจในคำพูดของนักธุรกิจหนุ่มตรงหน้า
“หึ ไม่เป็นไรครับ ผมคง...พูดเยอะไปหน่อย” เซนสงวนคำพูดไว้ เมื่อตอนนี้เขาเกือบเผลอทำให้ไก่ตื่น
“คุณอำนาจ....” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังเรียกความสนใจของสองพ่อลูกให้หันหลังกลับไปมองยังต้นเสียง
“อะ..อ้าว...สวัสดีครับคุณไบรอันต์” อำนาจรีบเอ่ยคำทักทายทันทีที่เห็นว่าผู้มาใหม่คือนักธุรกิจที่เขาอยากร่วมลงทุนตอนนี้มากที่สุด
“สวัสดีครับ” ไบรอันต์ตอบกลับไปสั้นๆ แต่สายตาของเขากับจดจ้องแต่ใบหน้าสวยของสาวน้อยที่หันหลังกลับมาจ้องมองใบหน้าเขาด้วยเช่นเดียวกัน
“วันนี้ผมรู้สึกโชคดี และเป็นเกียรติมากๆ ที่ผมได้มีโอกาสได้เข้ามาทักทายนักธุรกิจหนุ่มที่ไฟแรงทั้งสองคนแบบนี้”
“แล้วนี่?” ไบรอันต์ไม่ได้สนใจคำเยินยอของอำนาจ เขาเพียงเอ่ยถามคำถามสั้นๆ
“อ๋อ..ต้องขออภัยด้วยครับผมลืมแนะนำไปเลย คุณไบรอันต์...นี่ลูกสาวคนเดียวของผมครับ ชื่อพริบพราว” อำนาจที่อ่านสายตาของไบรอันต์ออกรีบตอบคำถามในทันที
“สวัสดีค่ะคุณไบรอันต์..อ๊ะ!” พริบที่กำลังพนมมือไหว้ผู้ชายตรงหน้า ก็ต้องชะงักงัน เมื่อมือหนาของไบรอันต์สอดเข้าที่เอวเล็กและรั้งตัวเธอมาประกบแนบชิดจนหน้าอกอวบใหญ่เบียดเสียดกับหน้าอกแกร่ง ก่อนที่เขาจะประทับริมฝีปากหยักที่แก้มเธอนวดของเธอเบาๆ ทั้งสองข้าง
‘งื้อ...ตัวหอมจัง’ คำนี้ผุดขึ้นมาในสมองของพริบพราว ตอนนี้กลิ่นกายเขาทำให้เธอเผลอหลงใหลและเคลิบเคลิ้มไปเสียสนิท
“อะฮื่ม!” เซนเอ่ยเสียงขึ้นอย่างขัดจังหวะ ลิ้นหนาดันเข้ากระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นสายตาของไบรอันต์ที่เหลือบขึ้นมามองเขาพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชัยชนะ
“พริบพราว ชื่อเพราะดีนะ” ไบรอันต์กระซิบเสียงเรียบที่ข้างใบหูขาวจนพริบพราวรู้สึกขนลุก ก่อนที่เขาจะผละใบหน้าหล่อออกมา และเดินเลยไปยืนข้างกายเพื่อนสนิทอย่างเซน
“คุณอำนาจไม่ถือสาใช่ไหมครับ ที่ผม...ทักทายลูกสาวคุณแบบสไตล์ตะวันตก” ไบรอันต์รีบกล่าวคำขอโทษ
“ไม่ครับ ผมไม่ถือสาอะไร ผมเข้าใจคุณไบรอันต์เป็นลูกครึ่ง ทักทายแบบนี้ก็คงไม่แปลกอะ..อะไร..”
“แต่หนูถือค่ะพ่อ!.” พริบพราวพูดแทรกขึ้นโดยที่อำนาจไม่ทันได้พูดจบ เธอไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ว่าไบรอันต์นั้นเจ้าเล่ห์ขนาดไหนและเมื่อกี้เขาก็จงใจจะแต๊ะอั๋งเธอมากกว่า
ตัดชึบ✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂
-------------///-------------