‘ว้าวคุณไบรอันต์ มาด้วยเหรอแก….’
‘กรี๊ด....นั่นก็คุณเซนกำลังเดินตามมาข้างหลังแล้ว’
เสียงฮือฮาจากบรรดาหญิงสาวในงานต่างเรียกความสนใจให้กับพริบพราวและทุกคนในละแวกนั้นต้องหันหลังกลับไปมอง ตากลมโตมองผู้ชายที่เดินเข้ามาในงานด้วยความตกตะลึงกับความหล่อ เธอมองผู้ชายตัวสูงโปร่งตรงหน้าแบบตาแทบไม่กะพริบ เขามีสีผมเทาสว่างที่รับกับผิวขาวของใบหน้า ไหนจมูกโด่งชนิดที่เธอยืนมองไกลๆ ก็ยังเห็น เขาดูมีเสน่ห์และดึงดูดเธอเป็นอย่างมากก่อนที่ผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นจะหยุดเดินและปรายตามองมาที่เธอ...
ตึกตัก ตึกตัก.....
หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเมื่อพลันสายตาคู่สวยปะทะเข้ากับตาคมเข้ม พริบพราวยืนตัวแข็งทื่อ แทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อสายตาคู่นั้นที่สบเข้าหากันดุจดั่งราชสีห์ที่กำลังล่าเหยื่อและพร้อมจะกลืนกินเธอเข้าไป
“ไบรอันต์ มึง...” เซน เดินตามเข้ามาในงานเอ่ยเสียงเรียกเพื่อนรักที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะหันไปมองตามสายตาของไบรอันต์ที่ทอดมองจนเขา...ก็ต้องหยุดชะงักไป..
ตึกตัก! ตึกตัก!.....
หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวมากขึ้นกว่าเดิมราวกับว่ามันกำลังจะระเบิด เมื่อตาคมของชายหนุ่มสุดหล่ออีกคนที่มีสีผมสีดำเข้มหันมาสบตาเธอ
พริบพราวมองผู้ชายที่มาใหม่อีกคนด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง เพราะรูปร่างหน้าตาของเขาสมบูรณ์แบบไม่ต่างจากผู้ชายคนแรกที่เดินเข้ามา เธอมองสลับใบหน้าหล่อเหลาที่พระเจ้าประทานมาให้ชายหนุ่มทั้งสองคน ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็กำลังจ้องมองเธอเป็นตาเดียวเช่นเดียวกัน
‘กรี๊ดดดดดด! หล่อ! หล่อมากกกก หล่อทั้งสองคนเลย ’ คำนี้ผุดขึ้นมาในสมองของพริบพราว เธอแอบส่งเสียงกรีดร้องในใจ เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการมางานวันนี้กับทำให้เธอได้เจอผู้ชายที่ใช้คำว่าหล่อได้เปลืองมากขนาดนี้
“สวัสดีครับคุณไบรอันต์ สวัสดีครับคุณเซน” มนตรีเดินเข้ามาทักทายแขกคนสำคัญอย่างนอบน้อม เมื่อเห็นพวกเขาเดินทางมาถึงแล้ว
“อืม/อืม” ไบรอันต์และเซนละสายตาจากใบหน้าของพริบพราวก่อนจะหันมากลับตอบเจ้าของงานใหญ่
“แล้วคุณคาร์เตอร์...”
“ไม่เห็นก็แปลว่าไม่มา” ไม่ทันที่มนตรีจะพูดจบ เซนก็สวนตอบกลับไปด้วยความหงุดหงิด
“เอ่อ..คะ..ครับๆ งั้นเชิญคุณเซนและคุณไบรอันต์ทางนี้เลยครับ”
เมื่อได้รับคำเชิญจากเจ้าของงาน ทั้งสองมาเฟียหนุ่มและเหล่าบอดี้การ์ดก็เดินตามเข้าไปนั่งที่โต๊ะVVIP ที่ทางเจ้าของงานนั่นจัดเตรียมไว้ให้ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย..
ไบรอันต์ และเซน เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่หน้าจับตามองของแวดวงธุรกิจ เพราะด้วยความสามารถและการประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหน้าที่ขาวสะอาดของพวกเขานั้น แท้จริงแล้วเบื้องหลังของพวกเขากับเป็นมาเฟียหนุ่มที่ยิ่งใหญ่และทำธุรกิจสีเทาทั้งในไทยและต่างประเทศอีกมากมาย
“เฮ้อ.....พราวพอเถอะ เดี๋ยวพ่อพาเราไปหาเขาดีไหม” อำนาจเอ่ยบอกพริบพราวอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เมื่อลูกสาวชะเง้อคอมองตามนักธุรกิจหนุ่มดังทั้งสองคนที่พึ่งเดินหายเข้าไปในงาน
“อือ....อะไรกันคะ พราวไม่ได้อยากเข้าไปรู้จักเขาสักหน่อย”
ฉันรีบปฏิเสธผู้เป็นพ่อเสียงแข็งก่อนที่จะหลบสายตาของผู้เป็นพ่อที่จ้องจะจับผิดฉัน ฉันยอมรับว่าพวกเขาทั้งสองคนนั้นหล่อมาก หล่อมากแบบมากที่สุด แต่ในแววตาสองคู่นั้นกับมีอะไรบ้างอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก และมันก็ทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าพวกเขา...ไม่ใช่คนดี ฉันเลยจะต้องหยุดคลั่งรักในความหล่อของเขาทันที เพราะฉันไม่ชอบผู้ชายแบบแบดๆ
“ก็ดี....เพราะพวกเขาก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงไปตอแยสักเท่าไหร่”
“อ๊ะ! อย่าบอกนะคะ ว่าพวกเขาคือคู่เกย์ เฮ้อ..หนูล่ะเสียดายความหล่อจริงๆ”
“นี่ยัยพราวเบาๆ เสียงหน่อย” ผกาเอ่ยปรามลูกสาวตัวเอง
“โอ๊ย! แม่หนูเจ็บนะ” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อแม่หยิกเขาที่แขนเล็กของฉันอย่างแรงอีกครั้ง
“ก็ฉันตั้งใจทำให้แกเจ็บ นี่จะพูดจะจาอะไรให้ระวังๆ ด้วยนะ คุณไบรอันต์ และคุณเซนเป็นนักธุรกิจ ที่มีอิทธิพลมากๆ และเขาก็ไม่ใช่คู่เกย์อย่างที่แกพูด”
“ก็...”
“พ่อกำลังอยากจะทำธุรกิจกับเขา พราวอย่าทำให้เสียเรื่อง”
“ค่ะ! งั้นหนูจะไม่พูดหรือแตะต้องพวกเขาอีกแล้ว ชิ!หนูหิวแล้วค่ะไปหาของกินดีกว่า!” เมื่อสิ้นเสียงประกาศิตของพ่อ ฉันก็ต้องเงียบปากลงทันที และตอบพ่อไปแบบปัดๆ เพียงแค่พูดถึงแค่นี้เอง ทำไมจะต้องมาทำเสียงเข้มกันด้วย จากที่จะชอบตอนนี้ก็รู้สึกไม่ชอบแล้วนะ ทำตัวเป็นเทวดาแตะต้องไม่ได้เลยจริงๆ ฉันรีบสลัดเรื่องผู้ชายสองคนนี้ออกจากหัว ก่อนจะสะบัดก้นที่งอนงามออกไปหาอะไรกินให้มันอิ่มท้องดีกว่า
ตัดชึบ✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂