เคยเห็นอะไรบางอย่างแล้วจำเป็นภาพติดตามั้ยครับ ผมกำลังเป็นอยู่ตอนนี้
แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ใบหน้าของพ่อค้าขายลาบคนนั้นยังติดอยู่ในห้วงความคิดของผมตลอดเวลา
“เป็นไรวะไอ้คาล กูเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวนานละ มีความรักหรอ”
เสียงไอ้คิลดังขึ้นปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์
นี่อาการผมมันออกขนาดนั้นเชียวหรอ
“ดูออกขนาดนั้นเลยหรอวะ”
ผมเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“จริงปะเนี่ย เริ่มแรกกูกะว่าจะแซวเล่น ๆ ไม่คิดว่าจะจริง ใครวะ กูรู้จักเปล่า”
มันยื่นหน้าเข้ามาถามอย่างคนขี้สงสัย
“ไม่รู้จักหรอก กูก็เพิ่งรู้จักเขาอาทิตย์ก่อน แต่กูไม่มั่นใจว่าใช่ความรักรึเปล่า ไอ้ความรู้สึกที่ใจมันเต้นแรงทุกครั้งที่คิดเห็นหน้าแอบไปส่องดูเขาทุกวัน แบบนี้มันเรียกว่ารักมั้ยวะ”
ผมวางปากกาที่กำลังจะจดเซ็นเอกสารแล้วหันไปขอความคิดเห็นจากพี่ชาย
“ถึงขนาดแอบไปส่องดูทุกวัน หนักอยู่นะกูว่า น่ารักหรอวะมีรูปเปล่า กูดูหน่อยซิ”
“ไม่มีหรอก”
ผมส่ายหน้าพัลวัน
“แต่เขาไม่ใช่คนน่ารัก ออกแนวห่าม ๆ พูดหยาบ ๆ กล้ามแน่นหน้าคม ดูท่าเขาน่าจะชอบผู้หญิงด้วยแหละ”
“งั้นมึงก็อกหักได้เลย เขาไม่เอามึงหรอก”
“เดี๋ยวสิ! กูยังไม่ได้เริ่มจีบเลย จะให้กูรีบอกหักไปไหนวะ”
ผมชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด
ไอ้นี่! ไม่สนับสนุนแล้วยังจะมาบั่นทอนจิตใจผมอีก
“กูคิดแผนไว้ละ รับรองอยู่หมัด มึงก็รู้หนิคนอย่างกูอยากได้อะไรก็ต้องได้”
ผมว่าด้วยสีหน้ามุ่งมั่นจนไอ้คิลส่ายหน้าด้วยความละเหี่ยใจ คงไม่เชื่อว่าผมจะตามตื้อเขาได้สำเร็จ แต่ทำไงได้ล่ะครับก็คนมันชอบไปแล้ว ชอบมากด้วย
ไอ้ผมมันก็เป็นคนดื้อดึงซะด้วยสิ ตราบใดที่เขายังไม่พูดปฏิเสธออกมา นั่นก็แปลว่าผมยังมีสิทธิ์ที่จะจีบติดใช่มั้ยล่ะครับ