@เที่ยงวัน@โรงอาหารคณะบริหารฯ@มหาวิทยาลัยJ
อัญญารินทร์นั่งชะเง้อรอเพื่อนสาวจนคอยาว สักพักใหญ่เธอเห็นเพื่อนสาวเดินเข้ามาในโรงอาหารจึงรีบโบกมือเรียกเพื่อนสาวเพื่อง่ายต่อการสังเกต แต่ทว่า
ปึ่ก โอ๊ย!!! เสียงร้องของหญิงสาวรูปร่างโปร่งบางร้องขึ้นด้วยความเจ็บระคนตกใจ
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เจ็บตรงไหนมั๊ย" เป็นเด็กหนุ่มเสื้อช็อปเอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใยในขณะที่ประคองหญิงสาวไว้ในอ้อมอก
"ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยได้แล้วค่ะหนูไม่เป็นไร" หญิงสาวรูปร่างโปร่งบางพยายามขัดขืนเพื่อให้หลุดจากการพันธนาการของชายหนุ่ม
"นี่นายทำอะไรน่ะ ยังไม่เข็ดอีกเหรอ อย่าคิดว่าฉั๊นไม่รู้นะ พวกนายสะสมแต้มกันใช่มั๊ย นี่ฉั๊นมีคลิปที่จะฟ้องอาจารย์อยู่นะ เรื่องนายทำกับเพื่อนฉั๊นเมื่อเช้ายังไม่จางยังจะมาทำกับคนอื่นอีกเหรอ ออกไปเลยนะไม่งั้นฉั๊นจะฟ้องอาจารย์" อัญญารินทร์เอ่ยเสียงแข็งและหยิบโทรศัพท์เพื่อถ่ายคลิปไว้
"ยัยบ้านี่เข้าใจผิดแล้ว น้องเค้าล้มแล้วฉั๊นช่วยต่างหากล่ะ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาถ่ายคลิปฉั๊นเอาไว้ล่ะ" เด็กหนุ่มเสื้อช็อปแก้ตัวน้ำใส ๆ
"นี่เธอจริงหรือเปล่า มีใครชนเธอจริงมั๊ย" อัญญารินทร์หันไปถามหญิงสาวรูปร่างโปร่งบางนั้นทันที
"ใช่มีใครคนนึงชนฉั๊นทำให้เสียหลักแล้วพี่คนนี้ก็มารับไว้น่ะ แต่.." หญิงสาวรูปร่างโปร่งบางตอบไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่ทันจับ เด็กหนุ่มเสื้อช็อบก็เอ่ยแทรกขึ้น
"เห็นมั๊ยยัยเปี๊ยกฉั๊นเป็นคนช่วยน้องคนนี้ต่างหาก" เด็กหนุ่มเสื้อช็อปเอ่ยอย่างผู้มีชัย
"แล้วพี่มั่นใจมั๊ยว่านี่ไม่ใช่การเซ็ทบล็อค นั่นไม่ใช่หน้าม้าที่พี่เซ็ทให้มาชนผู้หญิงคนนี้แล้วพี่ก็เข้ามารับเพราะกลัวจะล้มอย่างแมน ๆ น่ะ พี่ก็ทำกับหนูแบบนี้เมื่อเช้านี้เองนะ" เป็นกานต์ธิดาเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง ทำเอาอีกสองคนหันมามองเธอกันเป็นจุดเดียว
"ใช่ ฉั๊นรู้สึกแบบนั้น" หญิงสาวรูปร่างโปร่งบางเอ่ยอย่างเพ้อ ๆ
"โถ่เอ๊ย!! ทำคุณบูชาโทษ" เด็กหนุ่มเสื้อช็อปสบถเสียงเข้มแล้วรีบเดินออกไป
หลังจากรุ่นพี่เสื้อช็อปเดินออกไปแล้วหญิงสาวรูปร่างโปร่งบางหันมายิ้มให้อัญญารินทร์และกานต์ธิดาอย่างเป็นมิตรทันที
"ขอบคุณนะ พวกเธอบริหารฯ ปีหนึ่งใช่มั๊ย"
"ใช่จ้ะ เราชื่อเอ๋ย-อัญญารินทร์นะ ส่วนคนนี้ชื่อบี-กานต์ธิดาน่ะ" อัญญารินทร์ถือโอกาสแนะนำตัวเองและเพื่อนด้วยเลย
"จำได้เธอที่ช่วยอุ้มลูกหมาไว้ให้เราใช่มั๊ย เราชื่อพราวนะ ชื่อจริงพราวพรน่ะเรียนปีหนึ่งคณะบริหารเหมือนกันการตลาดจ้ะ" หญิงสาวเอ่ยยิ้ม ๆ อย่างเป็นมิตร
"ยินดีที่ได้รู้จักเธออย่างเป็นทางการนะ" เป็นอัญญารินทร์ที่เอ่ยขึ้น ตามด้วยกานต์ธิดาที่พยักหน้าให้อย่างเห็นด้วย
"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการเหมือนกัน เราเป็นเพื่อนกันนะ ต่อไปนี้มากินมื้อกลางวันด้วยกันทุกวันที่นี่นะ" พราวพรเอ่ยยิ้ม ๆ
"ได้เลย/ได้ซิ" อัญญารินทร์และกานต์ธิดาตอบรับอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสสุด ๆ เพราะมีเพื่อนทั้งสวยทั้งฮ็อทนะซิ
"วันนี้มีคนดูน้องแล้วเหรอ" อัญญารินทร์เอ่ยถามถึงเจ้าหมาน้อยขนสวยตัวนั้น
"อ๋อ วันนี้คุณแม่อยู่บ้านน่ะก็เลยฝากน้องไว้กับคุณแม่ได้ ว่าแล้วก็คิดถึงตะหงิด ๆ เลย งือ.." พราวพรเอ่ยยิ้ม ๆ หลังจากนั้นทั้งสามก็ลงมือรับประทานมื้อเที่ยงกันอย่างเอร็ดอร่อยและแลกเปลี่ยนคอนเน็คชั่นกันเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกันขึ้นชั้นเรียน
@เวลา 16.00 น.
กานต์ธิดาลงมาจากตึกไม่เห็นใครแต่กลับพบกับใครบางคนที่ไม่อยากเจอเป็นที่สุดแต่จะทำไงได้ก็เป็นอาของเพื่อนไปแล้วนี่ก็ต้องเข้าไปทักทายเสียหน่อย
"สวัสดีค่ะคุณอานัท มารับยัยเอ๋ยหรือคะ ยังไม่ลงมาเลยค่ะ แปลกจริงวันนี้เลิกช้ากว่าหนู แฮร่" คนตัวบางยกมือกระพุ่มไหว้อาของเพื่อนสาวพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้อย่างนอบน้อม
"หวัดดีสาวน้อย เป็นไงบ้างกินข้าวได้บ้างมั๊ย มีแรงขึ้นหรือยัง" เปรมมนัสเอ่ยปากถามเป็นฉาก ๆ
"กินได้ สบายดีค่ะ" กานต์ธิดาตอบอย่างรักษามารยาทพลางคิดในใจว่าเมื่อไรเพื่อนสาวจะลงมาเสียที
"หิวมั๊ย อามีขนมเค้กมาฝากด้วย น้ำดื่มก็มีนะเอามั๊ยอยู่ในรถ รถจอดใกล้ ๆ นี้เอง" คนตัวโตไม่รอคำตอบรีบสาวเท้าไปที่รถแล้วเดินกลับมาพร้อมกับขนมเค้กร้านดังพร้อมกับน้ำดื่มที่ยังมีไอความเย็นอยู่แล้วยื่นให้คนตัวบาง
"เออ..ขอบคุณค่ะ" กานต์ธิดายกมือกระพุ่มไหว้คุณหมอหนุ่มใหญ่แลรับถุงขนมเค้กแสนสวยมาอย่างเสียมิได้
"อะนี่ แทนการล้างมือ กินเลยซิ อร่อยนะ กว่าพี่ชายจะมาหิวตายพอดี" เปรมมนัสทำทีเป็นขึงขัง
"เอ่อ..ค่ะ" กานต์ธิดาเงอะ ๆ งะ ๆ เปิดกล่องขนมสีสวยหยิบช้อนตักขนมใส่ปากอย่างว่าง่าย ตาก็เหลือบมองเพื่อนสาวอยู่ตลอด ไปไหนนะไม่มาสักที
"น้องบีว่าอะไรเหรอคะ" เปรมมนัสแกล้งถามคนตัวบางทั้งที่ดีอยู่แก่ใจ
"เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะ" กานต์ธิดานั่งเหลียวซ้ายและขวาก็ยังไม่เห็นใครมาสักที มองหาพี่ชายก็แล้ว มองหาเพื่อนสาวก็ไม่มีวี่แววส่วนอีกคนได้แต่หัวเราะในใจเพราะอะไรน่ะเหรอ
เหตุการณ์ก่อนนี้
ข้อความ
เปรมมนัส: น้องเอ๋ยลงมาช้า ๆ ก็ได้นะ
อัญญารินทร์: น้องเอ๋ยไม่เข้าใจค่ะ
เปรมมนัส: ขออาคุยกับเพื่อนเราหน่อย ขอขนมเค้กให้เพื่อนเราก่อนนะ
อัญญารินทร์: โอเคค่า