“เดี๋ยว-“
“พี่รู้ว่าพี่ผิด พี่พยายามแก้ตัวอยู่โยให้โอกาสพี่หน่อยได้ไหม” อีกฝ่ายพูดต่อไม่หยุดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง แต่ยิ่งอีกฝ่ายพูดอะไรออกมามากเท่าไรยีนส์ก็ตอบได้เพียงอย่างเดียวว่าเขาไม่รู้ ไม่รู้เรื่องทั้งหมดที่ร่ายยาวไม่รู้แม้กระทั่งโยนั้นคือใคร
“ระ..เราไม่ได้ชื่อโย เราไม่รู้ด้วยว่าโยที่คุณหมายถึงคือใคร แล้วเราก็มั่นใจว่าเราไม่เคยเจอคุณมาก่อน”
“โยล้อพี่เล่นหรือเปล่า พี่ไนท์ไง โยจำพี่ไม่ได้จริงๆหรอ” ไนท์แนะนำตัวเสียงดังฟังชัด เขาพยายามจับใบหน้าเรียวให้หันกลับมาสบตาของเขาที่โยเคยบอกว่าชอบมันมาก ชอบที่จะสบตาแล้วหัวใจเต้นแรงจนควบคุมไม่อยู่
“ไม่” ใบหน้าเรียวสะบัดหนีฝ่ามือที่ยื่นมาแนบแก้ม รวมถึงรวบแรงทั้งหมดสะบัดมือให้หลุดพ้นไปจากไนท์ แต่นั่นยิ่งทำให้ไนท์ทำอะไรที่ยีนส์คาดไม่ถึง
หมับ!
วงแขนแกร่งตวัดโอบกอดคนตัวบางไว้ในวงแขน ไนท์ออกแรงกอดรัดแน่นเหนียวไม่ให้ยีนส์ดิ้นหนีหลุดออกมาได้ ใบหน้าหล่อคมก้มซุกไว้ที่ท้ายทอยปล่อยลมหายใจอุ่นเป่ารดผิวกายแบบที่เขาชอบทำกับคนที่รัก
“ต่อให้โยจะเสริมเติมแต่งยังไงพี่ก็จำหน้าเมียเพียงคนเดียวของพี่ได้นะ ถ้าโกรธก็ไม่ได้ว่าแต่อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนอื่น” ไนท์พูดอย่างคนที่หมดแรง ถึงแม้ว่าอ้อมกอดที่กอดยีนส์อยู่จะดูแข็งแกร่ง แต่คนกอดนั่นกลับดูค่อยๆหมดแรงลงเรื่อยๆ
“ก็เราบอกแล้วไง ว่าไม่ใช่โย คุณมาบ้านผิดแล้ว ปล่อยเรานะ!” ยีนส์พยายามดิ้นหนีให้หลุดพ้นจากคนแปลกหน้าในสายตา
ไนท์ยังยืนยันจะกอดรัดร่างนี้เอาไว้จนกว่าโยจะตอบตกลงกลับไปหาเขา ไปนอนอยู่ในอ้อมกอดเขาเหมือนเดิม หารู้ไม่ว่าภายในไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างที่แข็งแรงของไนท์ต้องลงไปนอนกลิ้งกับพื้นถนนเพราะคนที่แรงเยอะกว่า
ผลั่ก!
ธีมที่มองดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่เริ่มเดินมาจับไนท์แยกออกไปจากยีนส์ กำปั้นหนักๆพุ่งไปที่หน้าไนท์จนอีกฝ่ายต้องกองไปนอนกับพื้น พร้อมกับมือที่กุมไปครึ่งหน้าด้วยแรงเจ็บจากหมัด
“คุณโอเคหรือเปล่า” ธีมหันไปถามคนตัวเล็กที่วิ่งมาหลบอยู่หลังเขา คนด้านหลังส่ายหน้าดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ธีมลูบเส้นผมกลิ่นหอมเป็นการปลอบโยน
“เราไม่ได้เป็นอะไร”
“แล้วไอ้นี่” ธีมปรายหางตามองคนที่นอนเจ็บบนพื้น น้ำเสียงเรียบนิ่งไร้อารมณ์และความรู้สึกที่เปล่งออกมามันฟังดูน่าขนลุกมากกว่าตอนที่ธีมตะโกนเรียกยีนส์ในห้องน้ำซะอีก
“ระ..เราก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร เฮียพาเราเข้าบ้านหน่อยนะ” คนตัวเล็กดึงแขนเสื้อให้ธีมเดินตามเขาเข้ามาในบ้าน เพราะยีนส์เองก็ไม่รู้ว่าถ้าธีมหัวร้อนขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น แล้วผู้ชายตรงหน้าเขาจะเป็นอะไรไปไหม
“ไม่! พี่จะไม่ยอมให้โยหันหลังให้พี่อีกแล้ว พี่รักโยจริงๆนะ” ไนท์ที่หมดหนทางยื้อให้ยีนส์อยู่ต่อนั่งคุกเข่าลงต่อหน้ายีนส์และธีม ดวงตาสีรัตติกาลทอดมองไปยังคนตัวบางที่เขาเคยกอด ตัดพ้อที่ไม่นึกเห็นใจกันเลย
“คุณจะทำยังไง หรือจะปล่อยให้เฮียจัดการ” ยีนส์อึกอักเมื่อเจอธีมรวบรัดจะเอาคำตอบ “หรือคุณรักมันแบบที่มันรักคุณ”
“ไม่ ไม่ใช่ เราไม่เคยรู้จักเขามาก่อน” ยีนส์รีบอธิบายพัลวันเพราะกลัวธีมเข้าใจผิด
“ถ้างั้นคุณเข้าบ้าน เดี๋ยวเฮียจัดการเอง” คนตัวสูงก้มลงไปกระซิบกับคนตัวเล็ก ยีนส์พยักหน้าเข้าใจแต่ยังไม่วายหันหลังกลับมามองดูสถานการณ์
ไวกว่าไนท์ก็คือมือธีมที่กักตัวไนท์เอาไว้ได้ทันก่อนจะเข้าถึงตัวยีนส์แล้วผลักลงไปนอนอยู่กับพื้นถนนเช่นเดิม ไนท์ได้แต่มองคนที่ตัวเองตามหามานานสามปี เดินหายลับเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่สนใจเขาเลยสักนิด
เมื่อวันนี้หมดหนทางที่จะปรับความเข้าใจกับคนที่เขารักมาก ไนท์เลือกกลับมาเล่นงานธีม คนที่เข้ามาขว้างเขากับคนรัก แถมคนของเขายังดูมีทีท่าจะชอบมันมากไม่ใช่น้อย แสดงท่าทางรังเกียจเขาแต่กลับวิ่งไปซบหลังคนอื่น
“มึงหลบไป เรื่องผัวเมียมึงอย่ามายุ่ง!” ไนท์ประกาศเสียงดัง ย้ำให้ธีมรู้ว่าผู้ชายที่เพิ่งเดินหายเข้าไปในบ้านอยู่ในสถานะไหนกับตัวเอง
“หึ!” ธีมเยียดยิ้มเย้ยให้กับคำพูดของไนท์ ก่อนที่จะตบหน้าไนท์ด้วยคำพูดเรื่องเขากับยีนส์เมื่อคืนนี้ “คนที่มึงบอกว่าเขาเป็นเมียดันเป็นคนที่นัวกับกูเมื่อคืนยันเช้าน่ะหรอ”
“มึง! -”
“กูชื่อธีม กรุณาเรียกชื่อกูให้ดีด้วย” ธีมก้าวถอยหลังออกมาสองสามก้าว พอให้สายตามองเห็นฝ่ายตรงข้ามได้เต็มตัว มือทั้งสองข้างล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงราคาแพง ยกยิ้มมุมปากแสดงความเหนือกว่า “เขาคือคนของกู อย่ามายุ่งกับคนของกูอีก กูขอสั่ง”
ธีมพูดเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ถ้าเป็นคนที่สนามมาได้ยินคงขนหัวลุกไปหมด เพราะเมื่อใดที่ธีมมีน้ำเสียงแบบนี้นั่นแปลว่าเรื่องนี้เขาซีเรียส ถ้าพูดว่าไม่ก็ต้องไม่ ห้ามฝ่าฝืน
แต่เหมือนคนตรงหน้าธีมจะยังไม่ค่อยเข้าใจกับความจริงจังของธีม เพราะมันยังยืนเอานิ้วชี้หน้าเขาอยู่แบบคนไร้มารยาท
“กูจะบอกให้นะว่าโยน่ะรักกู น้องเขารักกูมาก รักกูมาหลายปีแล้ว ต่อให้เมื่อคืนเขานัวกับมึงมาขนาดไหน สุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาหากูคนที่เขารักอยู่ดี ไอ้ธีม”
ผลั่ก!
ธีมไม่สนว่ามันจะพูดจนจบประโยคหรือยัง แต่การที่เขาปล่อยให้มันมาชี้นิ้วขึ้นไอ้ใส่เขาได้เกินสามวิมันก็มากพอแล้ว ยิ่งมาตอกย้ำว่ายีนส์ของเขารักมันมากมายขนาดไหน เขายิ่งทนไม่ไหว มันเหมือนคมมีดที่กรีดแทงไปตามกล้ามเนื้อ ว่าคนที่เขาหมายปองและอยากได้ลุ่มหลงไอ้ผู้ชายตรงหน้ามากมายแค่ไหนก่อนที่จะเจอเขา
มุมปากไนท์เปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด เกิดจากมือของธีมที่ทั้งต่อยทั้งตบจนนับครั้งไม่ได้
“กูไม่เชื่อที่มึงพูด ต่อให้สิ่งที่มึงเอาปากต่ำๆ มาพูดเป็นความจริงกูก็ไม่แคร์”
“หึ! ถุ้ย! ไม่แคร์ก็เหี้ยแล้วเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้”
ผลั่ก!
ไนท์อาศัยจังหวะที่ธีมเผลอซัดหมัดเข้าข้างแก้มจนธีมเสียหลัก หงายหลังไปให้ไนท์ได้อยู่เหนือกว่า แต่ก็แค่ไม่กี่วินาที ธีมก็พลิกเกมกลับมาเป็นผู้คุมเหมือนเดิม “พวกกูก็แค่ทะเลาะกัน ถ้ากูกับโยเคลียร์กันได้เมื่อไรมึงก็หมาล่ะว่ะ!”
ไนท์ยังคงพล่ามไม่หยุด
“ถ้ามึงมีโอกาสได้เข้าใกล้คนของกู”
ไนท์โดนธีมต่อยไปหลายหมัด ใบหน้าหล่อมีรอยฟกช้ำทั่วใบหน้า ไหนจะมุมปากที่เป็นแผลเลือดไหลไม่หยุด เสื้อผ้าทั้งคู่ก็เลอะดินเลอะฝุ่นไม่ต่างกัน จะมีแค่หน้าเท่านั้นธีมที่มีรอยโดนต่อยแค่นิดเดียว
“พวกมึงหยุด! กูบอกให้หยุด!” ก่อนที่ไนท์จะโดนธีมทำร้ายไปมากกว่านี้ยอร์ชก็เข้ามาห้ามไว้ได้ทัน
ยอร์ชเข้าไปจับเพื่อนตัวดีของเขาให้ลุกออกมาจากไอ้ไนท์ เด็กรุ่นน้องก่อนที่มันจะตายคามือธีม ตอนเห็นหน้าตาที่ตื่นกลัวของยีนส์กับคำพูดที่บอกว่ามีคนชื่อไนท์มาหาที่หน้าบ้านและกำลังคุยกับธีม ยอร์ชแทบจะวิ่งสี่คูณร้อยเมตรออกมา แต่ดูเหมือนจะช้าไปเพราะไอ้ไนท์ก็โดนธีมยำซะอ่วม
เขาไม่ได้เอ็นดูมันสักนิด แต่ก็อดสงสารไอ้ไนท์ไม่ได้ที่ต้องมาเจอคนมือหนักตีนหนักอย่างธีมซัดเข้า แต่อีกใจก็แอบซะใจมัน ก็สมแล้วกับสิ่งที่ไอ้ไนท์มันก่อไว้กับน้องเขา
“เฮียยอร์ช หวัดดีครับ” เมื่อลุกขึ้นตั้งหลักได้ไนท์ก็รีบยกมือไหว้รุ่นพี่ตรงหน้าทันที แต่พอเจอคำพูดยอร์ชเข้าไปทำให้ไนท์ลดมือลงวางข้างลำตัวแทบไม่ทัน
“มึงกองไว้ตรงนั้นแหล่ะ แล้วเก็บมันไปพร้อมกับมึงที่ไสหัวไปให้พ้นบ้านกู”
“แต่ผม- “ไนท์ไม่ต้องอธิบายอะไร ยอร์ชก็ชี้นิ้วไล่ให้ออกไปให้พ้น
จากที่ธีมหมั่นไส้ต่อยไนท์อยู่เมื่อครู่ยังต้องดึงแขนห้ามเพื่อนตัวเองไม่ให้เข้าไปทำร้ายไนท์ ดูจากท่าทางไนท์ก็คงทำให้ยอร์ชโกรธไว้ไม่น้อย เพราะเขาเองก็ไม่เคยเห็นยอร์ชอารมณ์ร้าย ขึ้นเสียงดังชี้นิ้วไล่ใครแบบนี้มาก่อน
“มึงไสหัวไป ไสหัวไปอยู่กับอีตัวที่ทำลายชีวิตน้องกู ก่อนที่กูจะทนไม่ไหวแล้วทำลายชีวิตมึงทั้งคู่ให้ย่อยยับ”
ไนท์เดินฟึดฟัดกลับไปขึ้นรถ เขาอุตสาตามหาโยและหาที่อยู่จนเจอ กะว่ายังไงก็ต้องได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ก็มีมารอย่างธีมมาขัด แถมไอ้พี่ยอร์ชก็ไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาจะมาเจอโย ยังไงเขาก็จะตื้อจนกว่าโยจะกลับมาหาเขา
หลังจากที่ไล่ไนท์ไปพ้นหน้าได้ยอร์ชก็พาธีมเข้ามาในบ้าน ก่อนหน้านี้ยีนส์บอกกับเขาว่าปวดหัวมากเขาเลยให้แม่บ้านพาไปกินยาและนอนพักไปแล้ว ถ้างั้นไม่พ้นน้องชายเขาต้องมานั่งหาคำอธิบายจากเขาไม่ต่างจากธีมที่มองหน้าเขารอคอยคำตอบ
“จะทำเองหรือให้กูช่วยทำให้” ธีมไม่ตอบแต่เลือกจะรับกล่องอุปกรณ์ทำแผลมาทำด้วยตัวเอง
“ถ้ายังเห็นแก่ความเป็นเพื่อนมึงต้องบอกกูว่าไอ้ห่านั้นกับยีนส์และคนชื่อโยเป็นอะไรกัน” ธีมพูดเข้าประเด็นในสิ่งที่เขาอยากรู้
ยอร์ชเกาหัวแรงจนผมมันยุ่งเหยิงฟูไปทั้งหัว เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เพื่อนเขามันฟังยังไงดี เรื่องราวมันเยอะมากมายจนไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน และที่สำคัญถ้าเขาพูดออกไปจนหมด เพื่อนเขามันจะรับในสิ่งที่น้องเขาเป็นได้หรือเปล่า
ยอร์ชถอนหายใจรวบรวมสติ เมื่อเขาทนสายตานิ่งของธีมที่จ้องมองมาต่อไปไม่ไหว
“ไอ้เหี้ยนั่นมันชื่อไนท์ เคยได้ยินชื่อไหม NigthClub มันมีคู่หมั้นอยู่แล้วคืออีฟ้า! ลูกนักการเมือง ไอ้ไนท์มันแอบคบกับน้องกูทำเหมือนน้องกูเป็นเมียน้อย แล้วเมียตัวจริงมันก็จับได้ไง! แล้วมันก็มาทำร้ายน้องกู!” พอพูดถึงผู้หญิงที่เขาจงเกลียดจงชังในชีวิตยอร์ชก็แสดงอาการเดือดดาลออกมาชัดเจน
นับตั้งแต่วันเกิดเรื่องเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย และไม่คิดที่จะพูดให้ใครฟังด้วย เรื่องนี้เหมือนเป็นรอยแผลขนาดใหญ่ในชีวิตยอร์ช เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่ายอร์ชต้องดูแลยีนส์ให้ดี ปกป้องยีนส์ให้ไกลจากผู้ชายคนนั้น
“แล้วที่มันเรียกยีนส์ว่าโยคืออะไรวะ” ยอร์ชหลบสายตาของธีมที่มองมา เขายื่นมือไปหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาจิบ ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ถ้ามึงรับได้กับเรื่องที่กูพูดมาทั้งหมด มึงรู้จักแค่ยีนส์ที่มึงควรรู้จักก็พอ ถ้ามึงไม่รังเกียจน้องกู”
“กูไม่เคยคิดรังเกียจน้องมึง”
ถึงแม้ธีมจะไม่ถามต่อเรื่องคนชื่อโย แต่ยอร์ชเชื่อว่าอีกไม่นานธีมก็ต้องหาคำตอบด้วยตัวเองได้อยู่ดี ธีมเป็นลูกคนรวยที่มีอิทธิพลรอบด้าน ไม่ว่ามันจะตามล่าหาใครหรือแม้แต่อยากรู้เรื่องอะไรทุกอย่างจะไปเป็นตามที่มันต้องการ ยกเว้นคนเพียงคนเดียวในคืนนั้นที่มันยังตามหาไม่เจอ แม้ว่าจะใช้เส้นสายมากมายขนาดไหน
“ถ้าเป็นไปได้มึงอย่าพูดถึงโยให้ยีนส์ได้ยินอีกได้หรือเปล่า”
ยีนส์รู้สึกจิตใจเขาอยู่ไม่เป็นสุขกับการไม่ได้เห็นหน้าเฮียธีม ยิ่งวันก่อนเพิ่งเกิดเรื่องมีผู้ชายมาดักรอเขาหน้าบ้าน แถมยังบอกรักและประกาศต่อหน้าเฮียธีมว่าเขาเป็นเมีย ไม่รู้ด้วยว่าเฮียธีมจะเชื่อคำพูดพวกนั้นหรือเปล่า
ครั้นจะเค้นเอาความจริงจากปากเฮียยอร์ช เฮียยอร์ชก็ไม่ยอมบอก เอาแต่พูดว่าคนไนท์มันจำหน้าคนผิด ทักไปหาน้ำตาล น้ำตาลก็อ้ำๆอึ้งๆ บอกแค่ว่ารู้แค่ว่าไนท์เป็นเจ้าNigth Club แค่นั้น ส่วนที่เหลือไม่รู้อะไรเลย
“เฮีย ยีนส์ขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ จะเอามาเล่นเกม” ยอร์ชเหล่มองน้องตัวดีของเขาที่เดินวนเขาไปมา ก่อนจะเข้ามาขอยืมโทรศัพท์ ก็พอรู้หรอกว่าดูคิดหนักเรื่องไอ้ไนท์แต่เห็นทีคนที่ทำให้น้องเขาไม่เป็นอันทำอะไรก็คงหนีไม่พ้นไอ้ธีมเพื่อนรักเขานี่แหล่ะ
“ก่อนจะเล่นเกมก็โทรไอ้ธีมให้กูด้วยแล้วกัน บอกมันนะว่ารถเสร็จแล้วเข้ามาเอาได้”
“โอเคๆ เดี๋ยวยีนส์โทรให้ก็ได้”
ยีนส์เดินถือโทรศัพท์ยอร์ชเข้ามาในห้อง ปลดรหัสผ่านก่อนจะเลื่อนหาเบอร์เฮียธีม แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะแอบเมมไว้ในเครื่องตัวเอง ความจริงยีนส์อยากจะได้ไลน์ของธีมด้วย แต่ก็เห็นว่าในไลน์ของยอร์ชล้วนมีแต่งาน มันจะเป็นการก้าวก่ายพี่ชายเกินกว่าเหตุ
(เออว่าไงยอร์ช) เสียงธีมดังกรอกมาตามสาย ยีนส์แทบจะกดวางสายทันทีที่ได้ยินด้วยความตื่นเต้น เสียงเฮียธีมยังคงฟังดูมีเสน่ห์ไม่ต่างจากคุยต่อหน้าแค่ไม่เจอกันแค่วันเดียวทำไมถึงรู้สึกคิดถึงได้มากมายขนาดนี้
“ระ..เราไม่ใช่เฮียยอร์ชนะ เฮียให้เราโทรมาบอกว่ารถเฮียเสร็จแล้วนะ” ยีนส์กรอกเสียงสั่นๆไปตามสาย ไม่รู้ว่ามุมปากเขายกยิ้มด้วยความดีใจตั้งแต่ตอนไหน
(เดี๋ยวเฮียว่างแล้วจะเข้าไปเอา) ธีมตัดจบประโยคไว้อย่างคลุมเคลือ แถมยังย้ำคำสุดท้ายของประโยคให้ยีนส์คิดลึกไปใต้ร่มผ้า ทำเอาท้องน้อยมันปั่นป่วนไปหมด (แล้ว..คุณจะให้เฮียเข้าไปเอาเมื่อไรดี)
“อะ..เอาอะไรเฮีย ทะลึ่ง!”
(ฮ่าๆ เฮียหมายถึงรถน่ะ เป็นเด็กเป็นเล็กคิดทะลึ่งนะคุณ) ยิ่งได้ยินเสียงขำจากธีมยีนส์ยิ่งรู้สึกอาย ที่ปล่อยให้ธีมจับได้ว่าเขาคิดไม่ซื่อกับร่างกายของอีกฝ่ายอยู่ (คุณโทรมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน)
“ดียังไง”
(เพราะเฮียกำลังคิดถึงคุณอยู่พอดีเลยน่ะสิ อยากเจอหน้า อยากจูบคุณจะแย่แล้ว) ถึงแม้ว่ายีนส์จะจำรสจูบในคืนนั้นไม่ได้ แต่ร่างกายยีนส์มันก็ฟ้องและบ่งบอกว่ามันต้องดีมากแน่ๆ ไม่งั้นมันคงทำให้ในอกวูบไหว ท้องน้อยปั่นป่วน ใจเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้
“ทำเป็นพูดดีนะเฮีย”
(หรือคุณไม่คิดถึงเฮีย ไม่คิดถึงร่างกายเฮียที่กอดคุณไว้ทั้งคืน) ยีนส์หุบยิ้มไม่ลงเมื่อนึกถึงเช้าวันที่เขาตื่นขึ้นมาบนอกแน่นของธีม กลิ่นกายของธีมยังติดอยู่ในความทรงจำยีนส์ไม่หาย
“เราไม่คิดถึงเฮียหรอก”
(อย่าดื้อแบบนี้สิคุณ ไม่งั้นเฮียจะลงโทษคุณนะ)