“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม ตั้งแต่เราเป็นเพื่อนกันมายีนส์ยังไม่เคยไปเที่ยวกับนิคเลยนะ” นิครีบเดินตีคู่ให้ทันยีนส์ที่ลุกเดินออกมานอกห้องเรียนก่อน ช่วงนี้เขาสังเกตอาการเพื่อนชายหน้าสวยว่าดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ บางทีก็เหม่อ เหมือนคิดอะไรอยู่ไม่ตก ซึ่งยีนส์ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำชวนนั้น
“แล้วจะไปเที่ยวที่ไหน เราขอกลับไม่ดึกมากนะ ช่วงนี้เซ็งๆ” พอพูดจบยีนส์ก็แอบถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าช่วงนี้เขาเป็นอะไร ทำไมจิตใจมันฟุ้งซ่านไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันเป็นเรื่องไนท์ที่ค้างคาใจ หรือเป็นเพราะคนที่หายหน้าไปสามวันไม่โผล่มาให้เขาเจอ
“ไปเที่ยวใกล้ๆ นี่แหล่ะ เพื่อนเราก็มาด้วยยีนส์จะได้มีเพื่อนเยอะๆ”
@NigthClub
ยีนส์จอดรถคันสวยเทียบหน้าร้านที่นิคแชร์โลเคชั่นมาให้ ทันทีที่เห็นป้ายร้านติดหราอยู่ด้านหน้าว่าNigthClubเขาอยากจะขับรถให้มันเลยไปเลย ยังไงก็คงไม่พ้นร้านของไนท์คนนั้นแน่นอน แต่พอมาคิดดูดีๆ ถ้าเขาเจอไนท์ขึ้นมาจริงๆ คืนนี้เขาอาจจะได้รู้อะไรมากขึ้นก็ได้ ที่มันอาจจะเกี่ยวกับตัวเขาหรือโยที่เขาฝันถึง
นิคเลือกที่จะยืนรอยีนส์ที่หน้าประตู เพราะกลัวคนตัวบางจะเดินไปหาเขาที่โต๊ะลำบาก และที่สำคัญ เขาไม่อยากให้ผู้ชายแปลกหน้าในคืนนี้เข้าใกล้คนสวยที่เขาเฝ้ามอง
รอไม่นานยีนส์ก็ปรากฏกายในร้าน ร่างเพรียวในชุดกางเกงเกงตัวฟิตกับเสื้อเชิ้ตลายสวยเป็นอะไรที่เข้ากันและน่ามองที่สุด นิคพายีนส์เดินตรงไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆ เขารออยู่
“คนนี้ยีนส์เพื่อนที่มหา'ลัยใหม่ของกู” นิคแนะนำยีนส์กับเพื่อนๆ ของเขา ก่อนที่จะเริ่มแนะนำเพื่อนของตัวเองให้ยีนส์รู้จัก “นี่เพื่อนนิคเองนะ ไอ้เจมส์ ไอ้ฟาร์ ส่วนไอ้คนสุดท้าย ไอ้กั้ง”
เพื่อนของนิคในวันนี้ก็เป็นเพื่อนที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน ก่อนจะแยกกันไปทำตามฝันแต่ยังคงมารวมกันสังสรรค์กันเป็นประจำ
“หวัดดีครับ” ยีนส์ฉีกยิ้มสวยทักทายเพื่อนใหม่ตรงหน้า จนฟาร์อดที่จะแซวและชมในเวลาเดียวกันไม่ได้
“ยีนส์นี่สวยเหมือนที่ไอ้นิคเล่าเลยนะ สวยจนเราไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองเลย”
“เว่อร์แล้ว สวยเพราะศัลเหอะ” ยีนส์ตอบพร้อมกับส่งยิ้มกลับให้ฟาร์เล็กน้อย
คนตัวเล็กขยับตัวเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่ถูกเว้นว่างไว้ โดยที่มีนิคเดินตามมานั่งข้างๆ รูปหน้าคมเข้มเอียงมองใบหน้าสวย ก่อนที่จะขยับเข้าไปพูดใกล้ๆ ให้อีกฝ่ายได้ยิน “ไม่ศัลก็สวยอยู่แล้ว”
ยีนส์นิ่งไปหลังจากที่นิคพูดคำนั้นออกมา ร่างบางไม่ได้เขินกับคำชมหรือกิริยาที่ดูจะใกล้ชิดเกินไปของนิค เขาแค่กำลังนึกถึงใครอีกคนที่ชอบมากระซิบเขาแบบนี้เหมือนกัน เพียงแค่ลมจากริมฝีปากปัดผ่านเนื้อผิวเท่านั้นมันก็สามารถทำให้ยีนส์เกร็งบิดไปได้ทั้งตัว เฮียธีมบุคคลที่หายหน้าไปจากเขา
“โอ๊ะ!” ยีนส์สะดุ้งตัวเกร็ง เพราะจู่ๆ เอวของเขาก็ถูกนิครวบเข้าไปกอด แล้วยังดึงตัวเขาทั้งตัวไปแนบชิดกับร่างกายตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนยีนส์ตั้งตัวไม่ทัน
“นิคขอโทษนะที่ลุ่มล่าม เมื่อกี้มีคนจะชนยีนส์ นิคเป็นห่วง” ยีนส์พยักหน้างึกงัก แต่ในหัวตอนนี้กลับคิดตามคำอธิบายของนิคไม่ได้สักประโยค เพราะเขามัวแต่เอาเรื่องธีมมาใส่หัวมากเกินไป
“อ่อ ไม่เป็นไร”
ยีนส์นั่งฟังกลุ่มนิคพูดคุยกันสนุกสนาน ร่างบางแทบจะยิ้มอยู่ตลอดเวลาเพราะเรื่องที่ฟังล้วนมีแต่เรื่องตลก จนไม่รู้เลยว่าแขนของเขากับนิคมาวางเบียดกันตอนไหน หัวเข่ามาชนกันใต้โต๊ะได้ยังไง ในเมื่อตอนแรกระหว่างเขากับนิคมีระยะห่างพอควร
เพราะจิตใจยังวกวนกับเรื่องเฮียธีมไม่เลิกยีนส์เลยต้องหาอะไรที่มันดึงดูดใจให้ลืมใบหน้าของคนๆ นั้นสักที ดวงตาโตกวาดมองไปยังผู้คนที่เบียดแน่นกันในค่ำคืนนี้ ถ้าเจอใครสักคนที่มองเขาอยู่เขาอาจจะพาไปสานต่อ ให้มันลืมๆ เฮียธีมไปซะ
“อ๊ะ!” ลมหายใจยีนส์สะดุดขาดช่วง มือที่ถือแก้วก็สั่นจนมันหกเลอะเสื้อที่สวมอยู่ มันเปียกชุ่มเสื้อด้านบนส่งกลิ่นฟุ้งดับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงไปซะหมด
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเขาเห็นภาพเฮียธีมกำลังนั่งมองเขามาจากบาร์ด้านหน้า พอหันกลับไปอีกทีก็ไม่เจอ หรือกูจะคิดถึงเขาจนหลอนวะ
“เอาทิชชู่มาดิ๊!” เสียงเอะอะของนิคทำให้ยีนส์ตั้งสติกลับมาสนใจเหตุการณ์ใกล้ตัว นิคกำลังม้วนทิชชู่ซับน้ำออกจากเสื้อให้เขาอย่างประณีต
“ไม่เป็นๆ เดี๋ยวเราไปล้างที่ห้องน้ำดีกว่า” ยีนส์ส่งทิชชู่กลับคืนให้นิค ร่างเพรียวรนรานลุกเดินตรงมาที่ห้องน้ำ โดยไม่สังเกตอะไรเลยสักนิดว่ามีคนๆ หนึ่งกำลังเดินตามแผ่นหลังบางมาติดๆ
@ห้องน้ำ
ยีนส์หยิบทิชชู่มาซับเหล้าที่เปียกชุ่มบนเสื้อให้มันเบาบางลง ก่อนจะเปิดน้ำเอามาล้างกลิ่นคละคลุ้งที่ฟุ้งตีจมูก ปากก็พร่ำบ่นถึงคนที่ทำให้เขาไม่มีสมาธิ จิตใจฟุ้งซ่าน คนที่ทำให้เขา…คิดถึง
“ไอ้บ้า! ไอ้เฮียบ้า! มาทำให้คิดถึงแล้วก็หายหัว”
หึ! ธีมแอบยิ้มมุมปากกับท่าทางของเด็กตรงหน้า ใบหน้าที่สวยสะกดตาคนมองกำลังแสดงความไม่พอใจ ริมฝีปากบางพร่ำด่าบ่นเขาไม่หยุด
ธีมแอบเดินตามยีนส์มาตั้งแต่ทางเข้าห้องน้ำ เขาแอบเดินตามมาเงียบๆ เพราะยังไม่อยากให้คนตรงหน้ารู้ตัว ช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่างเลยให้คนคอยตามดูยีนส์ห่างๆ
เขาแทบจะเหยียบคันเร่งมิดไมล์ตอนที่คนของเขารายงานว่ายีนส์มาที่ไนท์คลับ ร้านที่เป็นของไอ้ไนท์ แล้วยังจะมาเห็นไอ้หน้าหล่อที่หล่อน้อยกว่าเขาโอบเอวยีนส์ไว้อย่างแนบชิด ตอนนั้นเขาเกือบคุมตัวเองไม่อยู่ อยากจะเข้าไปกระชากมือมันออกจากเนื้อนิ่มๆของยีนส์ แล้วซัดมันด้วยหมัดหนักๆสักสองสามที ดีที่ลูกน้องของเขาพอจะห้ามปรามอารมณ์ไว้ได้บ้าง
และเหมือนโชคเข้าข้างเพราะอยู่ดีๆเด็กน้อยของเขาก็หันหน้ามาสบตากับเขาเอง สีหน้าที่ตื่นเต้นและตกใจในตอนนั้นทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย พอสบโอกาสที่ยีนส์เดินมาเข้าห้องน้ำเขาก็เลยรีบตามมาทันที
“ด่าเฮียแบบนี้ควรทำโทษคุณยังไงดี”
“เฮีย!..” ยีนส์มองบุคคลที่สะท้อนเงาบนกระจกด้านหน้า ร่างกายแข็งแกร่งยืนซ้อนทับเบียดเขาอยู่ด้านหลัง สองมือหนาที่หยาบกร้านวางเท้ากับขอบเคาน์เตอร์ล้างหน้า กักกันตัวยีนส์ให้อยู่ในโอวาทหมดหนทางหนี
“นึกว่าเฮียเป็นใครหรอคุณ หรือคิดว่า..เฮียเป็นไอ้ไนท์เจ้าของร้านนี้”
“เฮียพูดอะไรของเฮียเนี่ย!” ถึงแม้ว่าจะรู้สึกดีใจที่ได้เจอหน้า แต่ความเคืองในจิตใจมันก็ยังมีอยู่ที่เฮียธีมไม่ยอมมาให้เขาเจอ นึกจะหายก็หายไม่บอกกล่าว คิดจะมาก็มา
หมับ!
สองมือที่เคยเท้ากับขอบเคาน์เตอร์เปลี่ยนมาเป็นตวัดโอบกอดร่างบางตรงหน้าให้จมอก ธีมกอดยีนส์แนบแน่นให้สมกับที่เขาคิดถึงและทรมานไม่ได้เห็นหน้ามาหลายวัน
กลุ่มผมนิ่มคือที่หมายปองของธีม เขาซุกใบหน้าลงกับเส้นผมที่ยาวปกคลุมท้ายทอย จมูกโด่งเคลียคลอและสูดดมกลิ่นหอมที่มาจากเส้นผมรวมเนื้อผิวเนียนด้วยความคิดถึง
“เฮียรับเรื่องทุกอย่างของคุณได้หมด แต่ใช่ว่าเฮียจะทนเห็นคุณอยู่กับผู้ชายคนอื่นได้นะ” ธีมพูดทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าจากท้ายทอยสวย เขายังคงเกลี่ยปลายจมูกไปกับเส้นผมนิ่มไม่ห่าง
“ระ..เราไม่ได้ยุ่งกับใคร นั่นเพื่อนเรา” ยีนส์ตอบเสียงสั่น ท้องน้อยเริ่มบิดมวนเพราะลมหายใจอุ่นที่เป่ารดผิวไม่ห่าง ไหนจะปลายจมูกที่ซุกซนดมผิวเนื้อเขาไม่หยุดนี่อีก
“แล้วมันคิดกับคุณแค่เพื่อนหรือเปล่า” “อย่ามาหาเรื่องเรา เฮียไม่มาหาไม่มาให้เราเจอเองนะ เฮียหายหน้าหายตาไปเองแล้วเฮียจะมาหวงเราทำไม” คนในอ้อมแขนพูดกึ่งจะตัดพ้อที่ปล่อยให้คิดถึง
“ถ้าเฮียไม่สนใจคุณเฮียจะรู้ได้ไงว่าคุณมาร้านนี้กับใคร คุณออกมาจากบ้านตั้งแต่กี่โมง จะให้เฮียร่ายให้คุณฟังไหม”
“เฮียสะกดรอยตามเราหรอ?”
“เฮียแค่ส่งคนมาดูแลคุณไม่ให้ใครหน้าไหนมาเข้าใกล้คุณต่างหาก” ธีมตอบนิ่งๆ เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวเล็กในอ้อมอกผ่านหน้ากระจก “เฮียไม่อยากให้ไอ้ไนท์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณอีก”
“แต่เฮียไม่มาให้เราเจอเนี่ยนะ เฮียปล่อยให้เราคิดถึงเฮียอยู่ฝ่ายเดียวเนี่ยน่ะหรอ เฮียแม่งใจร้ายว่ะ!” ยีนส์ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนธีมที่กอดเขาไว้อย่างเหนียวแน่นไม่คลาย ถึงธีมจะรู้ว่าต่อให้ยีนส์ออกแรงดิ้นให้ตายก็หลุดออกไปไม่ได้ แต่ก็อดจะเอ่ยปากออดอ้อนให้คนตัวเล็กสงบอยู่ในอ้อมแขนไม่ได้
“อย่าเพิ่งดิ้นสิคุณ ยอมให้เฮียกอดหน่อยเถอะ เฮียก็คิดถึงคุณจะแย่แล้ว”
เสียงทุ้มแหบเสน่ห์ของธีมดูท่าจะได้ผล เพราะคนตัวเล็กยืนนิ่งยอมให้เขากอดโดยดี ก่อนที่จะทำหน้าตาตกใจเพราะเสียงผู้คนที่กำลังคุยกันใกล้เข้ามาในห้องน้ำขึ้นทุกที “ไปคุยกันตรงอื่นดีกว่าคุณ” ธีมผละแขนออกจากยีนส์ จากนั้นก็เปลี่ยนมายืนด้านหน้า อุ้มคนตัวเล็กจนลอยเหนือพื้นเข้าไปที่ห้องน้ำห้องแรก แล้วแทรกตัวเข้ามาด้านในด้วยกันก่อนจะลงกลอนล็อคประตู
“เฮียยย จะเข้ามาเบียดกันทำไมในนี้” ยีนส์ถามเสียงเบา เพราะกลัวคนด้านนอกได้ยิน
“คุณไม่อยากอยู่ใกล้ๆเฮียแล้วหรอ”
เฮียธีมก็เหมือนแกล้งทรมานยีนส์ให้ตายคาอก รู้ทั้งรู้ว่าห้องน้ำมันแคบยังจะเบียดร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเสียดสีร่างเพรียวบางของยีนส์อยู่ได้ ขาข้างหนึ่งก็แทรกเข้ามาแนบอยู่ระหว่างขาเรียวของคนตัวเล็ก ไหนจะฝ่ามือที่ประคองเอวบางให้ช่วงล่างเบียดชิดกันอีก
“บะ..แบบ..แบบนี้มันใกล้ไป” ยีนส์เริ่มจะเสียงสั่น เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมตามกรอบหน้าเรียว ริมฝีปากเม้มกัดเข้าหากันเป็นเส้นตรง
“ทำไมละ กับเฮียอยู่ใกล้กันแบบนี้ไม่ดีหรอ หรือต้องอยู่กับคนอื่น” ธีมพูดหยอกเย้าแกมประชดกับเหตุการณ์ที่เขาเข้าไปตามยีนส์ในห้องน้ำวันนั้น ถึงจะไม่ได้ติดใจอะไรแล้วแต่ก็อดจะมีน้ำโหไม่ได้เวลานึกถึง
“มันก็ดี แต่..แต่เรา..เรา”
“ยีนส์! ยีนส์ ยีนส์อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”
เฮือก!
ยีนส์สะดุ้งแรงจนตัวธีมก็รับรู้ได้ เสียงเล็กกระซิบบอกให้ธีมรู้ว่านิคเข้ามาตามเขาแล้ว นิคเรียกยีนส์ดังไปทั่วห้องน้ำที่ไม่ได้มีพื้นที่กว้างมากมายอะไร เห็นเพื่อนคนสวยหายเข้ามาในห้องน้ำนาน นิคก็อยู่ไม่เป็นสุข
“เฮีย โอ๊ยตายๆ ทำยังไงดี นิคมันต้องรู้แน่ๆเลยว่าเราอยู่ในนี้กับเฮีย”
“แคร์มันหรอ เฮียเปิดประตูให้เอาไหม” ธีมคลายอ้อมกอดออกจากยีนส์ มือหนาคว้าไปที่กลอนประตูทำท่าจะปลดกลอนจริงๆ นิคก็เริ่มเคาะประตูที่เฮียธีมกับเขามาอัดกันอยู่ข้างใน ยีนส์พูดลิ้นรัวเกือบจะจับใจความไม่ได้
“ไม่ใช่ ไม่ได้แคร์ แค่ไม่สนิทจนถึงขั้นต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้”
“งั้นหรอ” ธีมหยักคิ้วทำหน้าเป็นผู้เหนือกว่า ฝ่ามือใหญ่เลิกแตะที่กลอนประตูแล้วมาลูบที่แก้มใสอย่างแผ่วเบา ก่อนจะตะโกนเสียงดังกลับไป “เลิกเคาะสักที รำคาญ!”
“เอ่ออ ขอโทษครับ ผมคิดว่าเป็นเพื่อนผม” เสียงนิคตอบกลับมาอย่างมีมารยาท ก่อนจะเงียบหายออกไปแล้วไลน์ของยีนส์ก็ดังขึ้น
ธีมเสียมารยาทดึงเอามือถือยีนส์ที่กำลังเปิดอ่านไลน์มาดู ก็จริงอย่างที่เขาคิดว่าไอ้เด็กนั่นต้องทักตามคนของเขา ธีมยืนอ่านจนพอใจถึงส่งคืนให้กับเจ้าของ
“ไลน์ไปบอกมันว่าจะกลับ แล้วไปต่อกับเฮีย”
“ปะ..ไปไหน!?” พอได้ยินคำนี้เหมือนเหตุการณ์วันที่เมาวนลูปกลับมาในหัว
“กลับไปกับเฮีย คืนนี้เฮียไม่ยอมเสียคุณไปหรอกนะ คุณต้องอยู่กับเฮียทั้งคืน”
ธีมไม่ได้ขู่บังคับอะไรยีนส์เลยสักนิด เจ้าของร่างเพรียวก็เดินตีคู่ออกมากับเขา กลับกันความรู้สึกยีนส์เหมือนโดนบังคับกรายๆด้วยคำพูด สีหน้า แววตาที่มีเสน่ห์จนยากใจที่จะปฏิเสธ ร่างกายตัวเองก็เรียกร้องอยากเป็นของธีม แต่อีกใจก็คิดว่ามันจะเร็วเกินไปไหมกับเรื่องนี้สำหรับผู้ชายที่ร้ายอย่างเฮียธีม
ยีนส์เดินคิดไปคิดมาก็มาหยุดอยู่ที่รถคันสวยที่เขาขับมา พร้อมกับผู้ชายแปลกหน้าในเครื่องแบบสีดำสองคนที่ยืนรอเขากับเฮียธีม ก่อนที่เฮียธีมจะเอากุญแจรถของเขาส่งให้คนพวกนั้นให้ขับไปจอดไว้ที่บ้านเขา ส่วนเขาไปกับรถเฮียธีม
@Zคอนโด
“อาบน้ำก่อนไหม เอาเสื้อผ้าเฮียไปใส่ได้นะ คุณไปรื้อตู้ดูได้เลย” ธีมพูดน้ำเสียงนุ่มทันทีที่พาร่างบางเข้ามาในห้องคอนโดที่เขาซื้อไว้ เขาอยากให้ยีนส์เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าของเขา เขาจะได้ดูเป็นเจ้าของยีนส์มากกว่านี้ แล้วอีกอย่างคนตรงหน้าก็คงไม่อยากทนใส่เสื้อที่กลิ่นเหล้าคลุ้งแบบนี้แน่
ก่อนหน้านี้เขาทุ้มเทชีวิตให้กับสนามแข่งจนกินนอนอยู่ที่นั่น บ้านที่อยู่กับน้องชายสองคนก็ปล่อยให้แทนกับปลายอยู่ด้วยกัน คิดไปคิดมาก็คิดว่าถ้ามีคอนโดสวยๆเอาไว้พาใครสักคนมานอนมันก็คงดีไม่น้อย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของยีนส์ในการมาห้องนี้ และต้องยอมรับว่าเฮียธีมเป็นคนที่มีระเบียบคนหนึ่ง ของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ถูกจัดไว้เข้าที่เป็นอย่างดี เสื้อผ้าในตู้ก็ถูกแขวน ถูกผับ จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ เนี้ยบกว่าห้องเขาซะอีก
“ห้ามแอบดูเรานะ” ยีนส์ตะโกนดังมาจากในห้องแต่งตัว ที่เจ้าตัวกำลังเลือกเสื้อผ้าที่พอจะใส่ได้
ธีมเดินเข้ามาดู เขาเห็นยีนส์กำลังก้มหน้าก้มตาเลือกเสื้อผ้าเขาเป็นการใหญ่ ก่อนจะส่งเสียงให้คนด้านหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วเดินออกไป “เฮียไม่ชอบทำอะไรแอบๆ ต่อหน้ามันเร้าใจกว่าเยอะ”
ยีนส์เดินกลับมาหาธีมอีกครั้งในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ที่ยีนส์มั่นใจมากว่าถ้าเขาใส่ออกมาแล้วมันจะดูดี ยั่วยวนสายตาให้ธีมละไปไหนไม่ได้
“จะดื่มต่อรึไงเฮีย” ยีนส์เดินมาดึงแก้วไวน์ไปจากธีม ตอนนี้ร่างสูงตรงหน้าเหลือเพียงกางเกงสแล็คเพียงตัวเดียว ส่วนเสื้อเชิ้ตที่สวมก่อนหน้านี้ได้ถูกถอดพาดไว้ที่พนักพิงโซฟา
“เผื่อคืนนี้จะได้นอนหลับสบาย” ธีมพูดไปสายตาก็ไล่มองทรวดทรงของคนด้านหน้าไปด้วย
“แน่ใจหรอว่าเราจะได้นอน” ธีมยิ้มให้กับคำพูดที่ถูกใจ
“งั้นคุณก็เตรียมใจมาแล้วงั้นสินะ ถึงได้เลือกชุดที่มันยั่วเฮียขนาดนี้” ยีนส์ไม่ได้ตอบอะไร ร่างบางยกแก้วที่ไวน์ยังเหลืออยู่ดื่มจนหมดแล้วส่งคืนให้เจ้าของ ก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ
ยีนส์ขยับขายกไขว้กันโชว์โคนขาขาวให้ธีมได้เห็น นิ้วมือเรียวก็กรีดกรายไปตามเส้นด้ายของกางเกงธีมอย่างซุกซน คล้ายจะปลุกอารมณ์ให้มันเพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย ไม่ก็หันไปเล่นกับรอยสักบนร่างกายที่ไร้เสื้อปกคลุมของธีม
ยีนส์ไล่มองรอยสักมากมายบนตัวของธีม และสะดุดตากับรอยสักรอยหนึ่งที่เป็นตัวเลขโรมัน ร่างบางรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกใครอีกคนจ้องเล่นงานอยู่
“ทำไมถึงจ้องเราขนาดนั้น เราแปลกไปหรอ” ยีนส์ถามคนที่เลิกดื่มไวน์ แล้วมานั่งมองเขาไม่ละสายตา
“เปล่า เฮียชอบดวงตาคุณนะ กลมโต มันสุกใสแวววาวเหมือนลูกแก้วเลย เฮียว่าเฮียน่าจะเคยเห็นดวงตาคู่นี้มาเมื่อหลายปีก่อนนะ” ธีมจ้องลึกเข้ามาในดวงตาสีอ่อนที่เขารู้สึกคุ้นเคย
“อาจจะใช่ก็ได้ มั้ง! เราก็รู้สึกคุ้นเคยกับเฮียนะ” ยีนส์หยุดทุกอย่างที่กำลังทำเหมือนกับที่ธีมหยุด แล้วหันมาสนใจกันและกัน ทั้งคู่ต่างจ้องมองไม่มีใครยอมใคร
มารู้ตัวอีกทีร่างบางก็ถูกรวบตัวมานั่งอยู่บนตักแกร่ง ฝ่ามือใหญ่ประคองแก้มสองข้างอย่างถนุถนอม ปลายนิ้วโป้งแตะคลึงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มแผ่วเบา โดยที่สายตาไม่ละไปจากดวงตากลมได้เลย
“คุ้นแบบนี้หรือเปล่า”