ยีนส์จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองดื่มหมดไปแล้วกี่แก้ว ทั้งแก้วที่เพื่อนตัวดีขยันชง ไหนจะแก้วจากโต๊ะอื่นที่แวะเวียนมาขอชนแก้วแลกไลน์ ไอจี ไว้พูดคุยพบปะนัดเจอกันอีก ไม่รู้ว่ายีนส์ควรปวดหัวกับแอลกอฮอล์ที่ดื่ม หรือหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบก่อนดี?
ผลั่ก!!
“ขอโทษครับ ผมไม่ทันได้มอง” ยีนส์รีบก้มหน้าขอโทษขอโพยคนที่เขาเดินเซไปชนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ครั้นจะขอตัวเดินหลบออกมาจากบริเวณนั้นก็ไม่ได้ เมื่อคู่กรณีดันถือวิสาสะจับข้อมือเล็กของเขาไว้ซะแน่น น่าเสียดายที่แสงไฟหน้าห้องน้ำมันสลัวจนเขาเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามไม่ค่อยชัด แต่กรอบหน้าที่เขาได้เห็นรำไรก็เรียกได้ว่าหล่อไม่หยอก
“เอ้า ไม่เจอกันนานเลยนะ” อีกฝ่ายทักทายเขาเยี่ยงคนสนิทสนม มิหนำซ้ำการเข้าถึงเนื้อถึงตัวก็จัดว่าสกินชิพกันเกินเหตุอย่างกับรักใคร่กันมานานทั้งๆ ที่ความรู้สึกของยีนส์กลับรู้สึกแค่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน
“ขะ..ขอโทษนะครับ แต่ผมจำคุณไม่ได้จริงๆ” ยีนส์ค่อยๆ แกะมือที่ลุ่มล่ามกับเนื้อตัวของเขาออก พยายามทำอย่างไม่เสียมารยาท แล้วเดินหันหลังออกมาดื้อๆ แม้ว่าชายแปลกหน้าคนนั้นจะเรียกเขาให้หันกลับไปนับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม
“ยีนส์มึงคุยอะไรกับพี่ไนท์อะ” ทันทีที่ถึงโต๊ะน้ำตาลก็รีบดึงตัวเขาเข้าไปถามอย่างร้อนรน
“ใครคือไนท์”
“ก็คนที่มึงคุยไง มึงไม่รู้จักเขาหรอ” น้ำตาลแสดงอาการตกใจกับคำพูดของเพื่อนที่บอกว่าไม่รู้จักไนท์ เจ้าของไนท์คลับ คลับที่ขึ้นชื่อว่าหรูหราที่สุดในประเทศไทบ
“ไม่นะ กูบังเอิญไปชนเขา แล้วเขาก็บอกว่าไม่ได้เจอกันนานเลยนะ กูเคยเจอกับเขาหรอวะ”
“กะ…กูไม่รู้- “เพื่อนสาวคนสวยกำลังจะพูดอะไรต่อก็ไม่รู้ แต่จู่ๆ ก็เงียบนิ่งไป
น้ำตาลที่เห็นไนท์ยังมองมาที่เธอกับยีนส์ไม่เลิกก็เริ่มอยู่ไม่สุข ไหนเคยบอกว่าไม่เข้าร้านทุกเสาร์อาทิตย์ไง ทำไมถึงมายืนหัวโด่อยู่ในคืนวันอาทิตย์แบบนี้ละ น้ำตาลได้แต่คิดในใจ “แต่กูว่า..เรากลับกันเถอะ พรุ่งนี้กูลงฝึกงานวันแรก เดี๋ยวสาย” พูดจบน้ำตาลก็รีบชิ่งเดินนำลิ่วออกมาก่อน
“เอ้า เฮ้ย รอกูก่อน”
ยีนส์กลับมาบ้านทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะไม่กลับ แต่เพื่อนตัวดีก็พาเขามาส่งจนได้ ทั้งที่คิดไว้ว่าจะไปต่อกับหนุ่มน้อยต่างมหา'ลัยแท้ๆ ไม่รู้ว่าวันนี้น้ำตาลไปกินอะไรมา ถึงคะยั้นคะยอให้เขากลับมานอนที่บ้านให้ได้
หมับ!
“เฮ้ย!!” ยีนส์ตะโกนเสียงดังทั่วบ้าน เมื่อร่างเพรียวบางของตัวเองต้องตกไปอยู่ในอ้อมกอดของร่างกายเปลือยเปล่าจากคนในความมืด
“มึงเป็นใคร มึงเข้ามาทำอะไรในบ้านนี้ ขโมยหรอห๊ะ!” เสียงแหบถามดังชิดอยู่ที่เหนือใบหู ทั้งดุดันน่าเกรงขาม และทำให้ขนลุกชันในเวลาเดียวกัน ลมหายใจร้อนที่รินรดอยู่แถวใบและบ่าทำให้หัวใจยีนส์ตื่นเต้นโครมครามไม่น้อย
“ปะ..ปล่อยนะ!” ลมหายใจยีนส์สะดุดขาดช่วงไปวูบหนึ่ง เมื่อรู้สึกว่าวงแขนใหญ่นั่นรัดตัวเขาแน่นขึ้น “ถ้าเป็นขโมยก็เหี้ยแล้ว! ปล่อยนะเว้ย”
“กูไม่ปล่อย ถ้าไม่ใช่ขโมยไหนลองบอกมาหน่อยสิว่าเข้ามาทำไม” ยิ่งยีนส์ออกแรงดิ้นพยายามจะหลบหนีไปจากร่างกายใหญ่ ธีมก็ยิ่งกอดรัด เบียดชิดกล้ามอกลงกับแผ่นหลังเล็กที่กอดจนจมกาย
“เข้ามาเดินเล่นมั้ง ปล่อยเลยนะ”
“เฮ้ยธีม เสียงอะไรวะ- ยีนส์!?” ยอร์ชเบิกตากว้างเมื่อเปิดไฟชั้นล่างแล้วเจอเพื่อนสนิทกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับน้องชายที่เหลือเพียงคนเดียวของตัวเอง
ฝ่ายยีนส์เองก็แน่นิ่งไปตั้งแต่รู้ว่าไอ้คนที่กอดและว่าเขาเป็นขโมยคือเฮียธีมคนที่เขาลอบมองเมื่อตอนบ่าย ก็พอจะรู้หรอกว่าคนที่กอดคือเพื่อนเฮียยอร์ชแต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนที่ชื่อธีมก็เท่านั้น
‘ทำไมแค่ได้รู้ว่าคนที่กำลังกอดตัวเองจากด้านหลังอยู่เป็นธีมหัวใจยีนส์ถึงได้สั่นคล่อนได้ขนาดนี้กันนะ หัวใจเต้นแรงและเร็ว ยากเกินจะจับได้ว่ามันเต้นกี่ครั้งในเวลา60วินาที ทำไมกัน?’
“เนี่ยน่ะหรอน้อ- “ธีมหยุดเคลื่อนไหวไปในทันทีเมื่อผู้ชายตัวเล็กในอ้อมแขนบังเอิญเงยหน้าขึ้นมามองเขา
สวย.. คำนี้มันผุดขึ้นมาในหัวเขาในทันทีที่ได้เห็นหน้าคร่าตาของยีนส์ในตอนนี้ ใบหน้าเรียว ผิวเนียน จมูกโด่งสวยได้รูป ริมฝีปากอิ่มเป็นกระจับชวนประทับรอยจูบ ดวงตากลมโต หยาดเยิ้มชวนมองและน่ารังแกในเวลาเดียวกัน
“ปะ..ปล่อยผมได้แล้ว” ยีนส์ขยับตัวให้ธีมรู้ว่าเขาอึดอัด เมื่ออยู่ๆ คนตัวโตก็หยึดนิ่งไป
“เอ่อ..โทษที พอดีไอ้ยอร์ชมันบอกว่าน้องชายมันไม่น่าจะกลับบ้าน”
“เออ เห็นปกติกลับเช้าตลอด แล้วนึกไงถึงกลับเร็วได้”
“ช่างมันเถอะ เรื่องยีนส์ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก” ยีนส์ตอบเลี่ยงๆ แล้วเบี่ยงตัวหลบออกมาจากธีม ดวงตากลมโตยังไม่วายปรายหางตามองเพื่อนพี่ชายที่เขารู้สึกคุ้นเคยอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสอง
“น้องกูเป็นไง” ยอร์ชจับอาการผิดปกติของเพื่อนได้ตั้งแต่นิ่งไปเมื่อเห็นยีนส์เต็มๆ ตา
“สวย..” ธีมพูดอย่างล่องลอยเหมือนคนไร้สติ
ยีนส์รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เช้านี้บนโต๊ะอาหารของบ้านเขามีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ธีมนั่งประจำอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา ร่างสูงมัดรวบผมสีน้ำตาลแดงที่ยาวปิดครึ่งใบหน้าไว้ด้านหลังยุ่งๆ ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์รอยสักสีสันหลากหลายและสวยงาม
“ยังเรียนไม่จบหรอ” ธีมเงยหน้ามองคนเด็กกว่าที่เพิ่งลงมาจากชั้นบนด้วยชุดนักศึกษาพอดีตัวชวนมอง
“ตามจริงก็จบปีนี้แต่พอดีดรอปเรียนไป3ปีอ่ะ แล้ว..ไม่กลับบ้านหรอ” ที่ถามแบบนี้เพราะปกติเฮียยอร์ชไม่ค่อยให้เพื่อนมาค้างที่บ้าน เรียกว่าไม่เคยมีเพื่อนมาค้างเลยจะดีกว่า
“ก็กะว่าจะกลับตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ แต่พอดีติดใจน้ำหอมกลิ่นเซ็กซี่ไนท์ของใครบางคนเข้าเลยขออยู่ต่อ” แก้มขาวขึ้นรอยริ้วแดงทันที ก็ไอ้กลิ่นน้ำหอมที่ว่าเมื่อกี๊นั่นมันคือกลิ่นที่เขาฉีดเมื่อคืน
“แสดงว่าก็เจอคนมาไม่น้อยนะ แค่ดมไม่กี่วิก็รู้แล้วว่ากลิ่นอะไร” ดูจากการไม่เขินอายกับการถอดเสื้อของคนตรงหน้าก็พอรู้หรอก ว่าผู้ชายที่ดูดีคนนี้ผ่านหญิงชายมาแล้วนับไม่ถ้วน
“จะให้เฮียบอกชื่อยี่ห้อที่คุณใช่ยังได้เลยนะ”
ธีมลอบมองสังเกตกิริยาท่าทางของยีนส์ทุกท่วงท่า ล้วนแต่น่าดูน่ามอง ชวนให้หลงไหล ไหนจะใบหน้าสวยนี่อีก ให้ความรู้สึกคุ้นเหมือนเด็กผู้ชายคนนั้น แต่ใบหน้านี้กลับไม่ใช่คนที่เขาเคยร่วมหลับนอนด้วย มีเพียงแค่ความรู้สึกที่บ่งบอก
“กำลังจะไปเรียนใช่ไหม…ยีนส์?” ธีมไม่แน่ใจว่าเขาจำชื่อน้องชายเพื่อนถูกหรือเปล่า
“ใช่ พี่ทำไมหรอ”
“เฮียธีม” คิ้วสวยหย่นเข้าหากันเมื่อไม่เข้าใจกับคำพูดของคู่สนทนา ธีมส่ายหัวให้กับใบหน้าที่น่าเอ็นดู “เรียกเฮียว่าเฮียธีม ไหนลองเรียกสิ”
“เฮียธีม..” แค่เรียกชื่อมันจะอะไรมากมาย แต่ทำไมหัวใจของยีนส์มันถึงได้เต้นตึกตักแบบนี้ด้วยตอนที่ธีมหันมาสบตากับเขา
“เฮียจะขอติดรถกลับด้วยได้รึเปล่า”
“เราก็ไม่ขัดถ้า..เฮียธีมจะไปด้วย”
@บนรถ
“เฮียมองเรานานเกินไปแล้วรึเปล่า” ยีนส์ชักจะอยู่ไม่เป็นสุขเมื่อถูกจ้องมองเป็นเวลานาน เขาไม่เคยเจอใครที่สามารถมองเขาโดยไม่ละสายตาไปไหนได้เลย ถึงจะคลั่งอยากจะได้เขาขนาดไหนก็ไม่เคยมีใครมเขาได้เท่าเฮียธีม
“อาการเฮียมันชัดมากเลยหรอ” ถึงจะรู้ว่าอาจจะทำให้เด็กน้อยกลัวได้ แต่หาเสสายตาไปมองสิ่งอื่นไม่ ธีมไม่อยากละสายตาไปจากยีนส์จริงๆ
“มองเราแบบนี้เฮียพูดมาเลยดีกว่าว่าเฮียต้องการอะไร เราเป็นคนเข้ากับคนง่าย ง่ายๆ ทุกเรื่อง” พูดจบประโยคยีนส์ก็เผยรอยยิ้มร้าย แถมมุมปากยังโชว์เขี้ยวสวย น่าให้มากัดเล่นแถวลำคอของเขานัก ธีมได้แต่คิดในใจ
“พูดแบบนี้ตั้งใจอ่อยเฮียรึเปล่า”
“ก็แล้วแต่ว่าเฮียจะตีความคำพูดเราไปในทิศทางไหน” ถึงครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันยีนส์กลับต่อบทสทนาธีมได้โดยไม่ขัดเขินสักนิด ทำเหมือนรู้จักกันมานานและเข้ากันได้เป็นอย่างดี
“ที่เฮียมองคุณก็เพราะว่าคุณคล้ายกับคนที่เฮียกำลังตามหา…แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ”
“งั้นหรอ” ยีนส์จอดรถนิ่งเมื่อเห็นไฟสีแดง ใบหน้าสวยหันกลับมาสบตากับคนข้างกาย การสบตาในขณะที่ยีนส์คุยกับธีมมันกลายเป็นความท้าทายของยีนส์ไปแล้ว ว่าต้องทำยังไงให้ใจเขามันไม่สั่น “แล้วระหว่างเรากับคนที่เฮียตามหาใครสวยกว่ากัน”
“ทำไมต้องถามด้วยว่าใครสวยกว่า”
“เราก็อยากรู้ไงว่าจะมีใครสวยได้เท่าเรา”
“มั่นใจดีเนอะ” ยีนส์ยิ้มกว้างรับคำพูด เขาจะมั่นก็ไม่แปลก เพราะเขาสวยจริงๆ
“หรือเฮียว่าเราไม่สวย” ครั้งนี้ยีนส์ไม่ทำแค่หันมาสบตา หนุ่มหน้าสวยยังยื่นหน้ารับริมฝีปากน่าจูบมาใกล้ธีมอีกต่างหาก นี่จะล้อเล่นกับความต้องการของร่างกายเขารึไงกัน
“เฮียไม่ใช่คนดี พี่ชายคุณไม่เคยบอกหรอ”
ธีมบอกกับยีนส์ด้วยตัวเองเผื่อเพื่อนรักเขามันไม่ได้บอกว่าเขาน่ะ แค่ครั้งเดียวแล้วจบมีออกจะบ่อยไป ถ้าอีกฝ่ายโอเคเค้าก็พร้อมจะย่ำยีร่างกายนั้นให้จมอก แต่หากเป็นเคสของยีนส์เขาออาจจะต้องคิดหนัก และห้ามปรามคนสวยตรงหน้าไว้บ้าง ยังไงเขากับยอร์ชก็เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน
“เราก็ไม่ใช่คนยากอะไร เฮียควรจะรู้ไว้นะ” ประโยคที่แสนจะกำกวมทำเอาความอยากและความอดทนธีมลดลงเรื่อยๆ “จะพูดว่าเราแรดก็ได้นะเฮีย”
“เฮียเปล่าสักหน่อย คุณคิดไปเอง”
“ถึงเฮียจะว่าเราแรดเราก็ไม่ซีหรอก เราถือว่าการนอนด้วยกันมันเป็นแค่ความพึงพอใจของคนสองคน คนอื่นจะมองไงก็ชั่งสิ” คำพูดที่ไม่แยแสคนรอบข้างทำให้ธีมสนใจในตัวยีนส์มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นละคุณ มันง่ายขนาดจริงๆ หรอ”
“สำหรับเฮียนะ ระหว่างความรักกับเรื่องอย่างว่า อะไรมันง่ายกว่ากัน” คำถามนี้ทำให้ใบหน้าหล่อของธีมต้องขมวดคิ้วใช้ความคิดขึ้นมาในทันที คำถามฟังดูง่าย แต่เขาหาคำตอบให้ไม่ได้
“เฮียไม่รู้หรอก เฮียไม่เคยรักใคร”
“นั่นไง! เพราะเราต่างไม่รู้ว่ารักคืออะไร เพราะงั้นเรื่องอย่างว่ามันก็ง่ายอยู่แล้วล่ะ ใช้แค่ความต้องการไม่ต้องใช้หัวใจ”
“งั้นที่ยอร์ชมันบอกว่าคุณไม่ค่อยกลับบ้านก็เพราะว่าไปนอนกับคนอื่นนั้นก็-”
“อย่ามองว่าง่ายขนาดนั้นดิ เราไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายกับทุกคนนะ” ยีนส์ส่งยิ้มหวานให้กับธีมอีกครั้งก่อนจะกดเบรคมือเมื่อถึงสถานที่ที่ธีมบอก “อ่ะ ถึงแล้วที่เฮียให้เรามาส่ง”
“ขอบคุณนะคุณ”
“จะขออะไรเราไว้ไหม ไลน์ เฟสบุ้ค ไอจี ทวิตเตอร์” ยีนส์ไม่ใช่เด็กน้อยนะ เขามองออกว่าธีมน่ะสนใจในตัวเขาไม่น้อย แล้วตัวยีนส์เองก็รู้สึกว่าอยากรู้จักธีมให้มากกว่านี้ แต่อยากจะรู้จักถึงขั้นไหนอันนี้ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ไว้เฮียไปเจอคุณที่บ้านดีกว่า อยากคุยกับคุณแล้วเห็นหน้าสวยๆ ของคุณไปด้วย”
“เราจะบอกให้นะเฮีย ว่าเฮียน่ะมายั่วผิดคนแล้ว เราก็อาจจะไม่ต่างจากเฮีย”
“เฮียก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะผิดหรือไม่ผิดคน ไว้เจอกันนะคุณ”
“ไว้เจอกันนะคุณ”