“อ๊ะ!.. พะ..พี่ธะ..ธีม” เสียงร้องกระเส่าดังรอดมาจากริมฝีปากอิ่มสวย ร่างกายเพรียวบางถูกควบคุมด้วยแรงมหาศาลจากคนด้านบน ธีมหลับตาพริ้มหาได้สนใจสีหน้าเปื้อนคราบน้ำตาที่เต็มไปด้วยความสุขตรงหน้าไม่ กลับกันอีกต่างหาก นอกจาหเขาจะไม่ได้สนใจหนุ่มเอวบางร่างน้อยคนนี้แล้ว..เขายังคิดถึงใครบางคนอีกต่างหาก ใครบางคนที่เติมเต็มเขาได้ดีกว่านี้!
“ไม่เหมือน”
“ห๊ะ!?” โฟม หนุ่มหน้าสวยที่ธีมกำลังควงออกงานอยู่บ่อยๆช่วงนี้ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับคำถามมากมายในหัว บั้นเอวแข็งแรงที่เมื่อครู่กำลังกระแทกแดกดันเขาร่างแทบพังก็หยูดนิ่งค้างไว้ เรียกว่าอารมณ์กำลังจะถึงฝั่งแล้วถูกดึงลงเหวก็ไม่ผิด “ไม่เหมือนอะไรหรอครับพี่ธีม”
“ไม่มีอะไร” ธีมตอบกลับเสียงห้วน เขาถอดกายออกจากร่างขาวเนียน ราวกับคนหมดอารมณ์ “กลับไปได้แล้ว”
“พะ..พี่ธีม!” โฟมขึ้นเสียงใส่ผู้ชายตัวใหญ่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ กำลังเสพสุขกับร่างกายเขาอยู่ดีๆก็หยุด หนำซ้ำยังมาไล่เขาให้ออกไปจากห้องนี้อีก ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นคนชวนเขามาเองแท้ๆ
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่พี่ โฟมก็รู้นี่ว่าพี่ไม่ชอบพูดซ้ำ” เมื่อพูดจบธีมก็ลุกหนีโฟมไปทันที
“ให้ตายเถอะ เอาใจยากชะมัด” โฟมรีบลุกสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ถูกถอดโดยธีม แล้วก้าวเท้าตึงตังแสดงความไม่พอใจออกไปจากห้อง
บุหรี่ยี่ห้อแพงถูกธีมหยิบติดมือมาด้วย เขายืนพิงกำลังริมระเบียงคอนโดของตระกูล จุดบุหรี่สูบเงียบๆเพียงคนเดียว ในหัวก็คิดถึงคนๆนั้นต่างๆนาๆ ธีมไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นอยู่ที่ไหน สิ่งเดียวที่ธีมจดจำคนๆนั้นในห้องสวีทหรูหราของโรงแรมได้ก็คือริมฝีปากสีเชอร์รี่ที่มันอวบอิ่ม น่าจูบจุมพิศ ร่างกายเพรียวบางเยี่ยงหญิงสาว ผิวขาวเนียนเหมือนกับเด็กน้อย สิ่งสะกดสายตาเขาไม่ให้ละไปจากคนๆนั้นได้เลยก็คือดวงตากลมโตที่สุกใส มันแวววาวเป็นประกาย ยิ่งตอนที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตายามที่เขาตอกกายตีตรากับเรือนรางนั้นมันยิ่งน่ามอง เขาจดจำภาพเหล่านั้นได้ดี โดยเฉพาะเสียงครางร้องกระเส่า เรียกชื่อเขาจวบจนฟ้าเกือบสว่าง
‘เรียกชื่อผม’
‘คะ..คุณชื่อ..อ๊ะ..อะไร'
‘เฮียธีม เรียกผมว่าเฮียธีม’
‘ฮะ..เฮีย อ๊ะ! ธีม’
“ทำไงเฮียถึงจะหาคุณเจอสักที ซ่อนตัวเก่งจัง”
Rrrr…Rr…
(มาถึงแล้ว เปิดประตูหน่อย) เสียงแทนดังมาจากปลายสายทันทีที่ธีมกดรับ
“เออๆ รอกูแป๊ป” ธีมเดินเปิดประตูที่เชื่อมไปยังห้องอีกห้อง เพื่อเปิดประตูให้แทนเข้ามาในห้องที่เขามักเอาไว้คุยเรื่องส่วนตัวที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของเขาคนนั้น
“สภาพแบบนี้มึงคงเรียกเด็กมาห้องเชือดสินะ เฮียธีม” แทนเอ่ยแซวพี่ชายตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยด้านบน แถมยังมีรอยข่วนและรอยจูบนับไม่ถ้วนประดับอยู่
“หึ” เฮียหัวเราะในลำคอก่อนจะแซวน้องชายตัวดีกลับ “ยังดีกูยังได้เชือด ดีกว่ามึงล่ะกัน ถนุถนอมมาแทบตาย สุดท้ายได้แค่พี่น้อง”
“มึงไม่รู้อะไรมึงอย่าพูดเลยเฮีย” แทนจิ๊จ๊ะไม่พอใจกับคำพูดแทงใจดำของธีม เขาเองก็ไม่ได้อยากเป็นแค่พี่น้องกับปลาย ยัยเด็กข้างบ้านนั่นซะเมื่อไร “เอาเรื่องของมึงก่อนดีกว่า สรุปมึงจะเอายังไง ป๊าโทรจิกกูทุกวันให้กูพามึงกลับบ้าน ทางนั้นเขาก็รอมึงอยู่” ทางนั้นที่แทนหมายถึง ก็คือคู่หมั้นที่เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทป๊าเขานี่แหล่ะ ที่หมายมั่นปั้นมือไว้แต่เด็กๆว่าอยากให้เธอกับธีมแต่งงานกัน
“กูไม่กลับ มึงบอกป๊าเลย ต่อให้ตายกูก็ไม่กลับไปแต่งกับผู้หญิงคนนั้นหรอก”
“มึงจะแต่งกับเด็กที่มึงเคยลากไปกินในโรงแรมตอนวันเกิดเมื่อ4ปีที่แล้วสินะ”
“เสือก!”
“เห็นมึงอารมณ์เสียกับเรื่องเด็กผู้ชายคนนั้นแล้วกูอารมณ์ดีชิบหาย” แทนเย้ยหยันพี่ชายด้วยสีหน้าระรื่น นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ธีมอารมณ์ได้ง่ายขนาดแค่เอ่ยถึง “ป่านนี่แล้วยังหาเขาไม่เจอ ป่านนี้ไม่แต่งงานมีผัวไปแล้วหรอวะ”
“วันนี้กูยังหาเขาไม่เจอ วันหน้าเดี๋ยวกูก็เจอ”
“แล้วถ้ายังไม่เจออีกละ มึงจะทำไง” แทนถามด้วยความคับข้องใจ เขาเห็นธีมพูดถึงและตามหาตัวเด็กผู้ชายคนนั้นมาเกือบ4ปีเต็ม แต่ก็ไร้วี่แวว เหมือนกับเด็กผู้ชายคนนั้นหายตัวไปอย่างลึกลับ
เขาอยากจะหัวเราะให้กับเรื่องงี่เง่าที่ผู้ชายโพร่งพร่างอย่างธีมทำ แต่กลับหัวเราะไม่ออกเพราะพี่ชายเขาปักใจกับผู้ชายคนนั้นมาก ถึงขั้นไม่ยอมคบหากับใครอีกเลย หลังจากคืนที่ทั้งสองมีอะไรกัน ธีมมักจะควงแค่เล่นๆ ไม่จริงจังมากมาย แล้วแต่ละคนก็จะมีบุคคลิกคล้ายคลึงกับเด็กผู้ชายคนนั้น สุดท้ายแล้วธีมก็ควงไม่ได้นาน เห็นทีจะมีน้องโฟมเด็กมหา'ลัยเดียวกับเขานี่แหล่ะที่อยู่ได้นานสุด
“ถ้าสุดท้ายแล้วกูหาเขาไม่เจอ กูก็จะรอเผื่อสักวันเขาจะกลับมาที่เดิมเหมือนคนหลงทาง แล้วก็มาเจอกู”
เช้าวันต่อมา…
“ยีนส์มึงจะออกไปเที่ยวไหมคืนนี้!” ยอร์ชตะโกนถามน้องชายตัวดีที่กำลังนั่งดูซีรี่ย์อยู่ในบ้าน
“ไม่รู้อ่ะ ออกมั้ง รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆ” ยีนส์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับกดปิดซีรี่ย์ที่น่าเบื่อหน่าย
ร่างบางอรชรดั่งสตรีเพศเดินออกมาหาพี่ชายที่กำลังซ่อมรถอยู่ด้านนอก ยีนส์จัดเป็นผู้ชายที่สวย ถึงขั้นสวยมาก ถ้าจับเขาไปแต่งหน้าใส่วิกรับรองได้เลยว่ามีเดาผิดเดาถูกแน่นอน ความสูงเพียง168ที่ไม่ต่างจากผู้หญิงยิ่งทำให้ยีนส์ดูเหมือนผู้หญิง ไหนจะริมฝีปากสีสวยจากธรรมชาติ แขนขาเรียวที่เหยียดตรงอย่างกับตุ๊กตาเคลือบนี่อีก
“รถจากไหนเนี่ยเฮีย ทำไมมันเยอะแบบนี้ แถมยัง…” ยีนส์เดินดูซากรถที่พังแทบจะหาชิ้นดีไม่ได้แต่ละคันแล้วส่ายหน้า “เละเทะขนาดนี้แล้วมันจะซ่อมได้หรอเฮีย เอาไปชั่งเศษเหล็กขายยังดีซะกว่า”
“ส่งมาจากอู่เพื่อนกูเอง”
“สนามTน่ะหรอ”ยีนส์ก็เคยได้ยินชื่อสนามนี้อยู่บ่อยครั้ง เห็นว่าชอบจัดแข่งรถด้วยระบบโคตรเถื่อน ของพนันล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดี เหล้า ยา เงิน ทอง ผู้หญิง ไม่รู้ว่าพี่ชายเขาคิดยังไงถึงไปคบคนแบบนั้นเป็นเพื่อนได้ แถมยังเป็นเพื่อนสนิทอีกด้วย
“เออใช่ มึงคิดว่าอู่กูจะมีใครมาส่งซ่อมอีกหรอ ถ้าไม่ใช่จากสนามไอ้ธีม มึงจำเพื่อนกูไม่ได้รึไง”
“โอ๊ยย เจอกันแค่ผ่านๆ แถมก็ตั้งนานมาแล้วใครจะจำได้ล่ะเฮีย” ยีนส์บ่นยาวเหยียดให้ยอร์ชฟัง ยังมีหน้ามาถามว่าเขาจำเพื่อนสนิทตัวเองได้ไหม เล่นเจอกันเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วก่อนที่เขาจะบินไปเกาหลีใครจะไปนึกหน้าได้กันล่ะ แถมยังเห็นแค่ผ่านๆตาอีกต่างหาก
“ถ้ามึงอยากเจอมันก็ไม่ต้องออกไปไหน คืนนี้พวกกูนัดกันสังสรรค์ที่นี้”
“ยีนส์ขอบายจ้ะ!” ยีนส์ออกตัวขอผ่านทันที เขาไม่ชอบเข้ามาวุ่นวายเวลาพี่ชายพาเพื่อนมาที่บ้าน เขาแทบจะไม่ออกมาให้เพื่อนของยอร์ชเจอหน้าด้วยซ้ำ “ยีนส์ออกไปเที่ยวกับเพื่อนดีกว่า ขอไม่กลับมานอนบ้านด้วยละกัน ไม่อยากเจอเพื่อนเฮีย”
“มึงไปเที่ยวกูก็ไม่ว่าหรอก แต่แรดให้มันน้อยๆ เดี๋ยวจะได้ถอยซีรี่ย์มาแปะหน้าใหม่” ยีนส์เผลอจับจมูกโด่งสวยด้วยความหวงแหน เมื่อยอร์ชเอาเรื่องนี้มาขู่กับเขา ทำมาก็ตั้งแพง แถมยังบินไปทำถึงเกาหลี ไม่ใช่หน้าเดิมไม่สวยนะ แต่หน้านี้มันสวยกว่า
“พูดจาไม่ให้เกียรติเงินสกุลวอนที่ยีนส์จ่ายไปเลยนะเฮีย-“
“ยอร์ช!! ไอ้ยอร์ช!!” เสียงเรียกที่ดังมาจากหน้าบ้านทำให้ยีนส์ต้องหยุดพูด
“เพื่อนเฮียมาแล้วแน่ๆเลย ไปเปิดประตูเองนะ ยีนส์จะเข้าบ้าน”
เหตุที่ต้องออกไปเปิดประตู เพราะยอร์ชไม่ได้ทำอู่แบบเปิดเหมือนบ้านอื่นเขาทำกัน ยอร์ชชอบความเป็นส่วนตัว ชอบแต่งรถ ซ่อมรถ แต่ไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวาย ธีมที่เปิดสนามแข่งรถผิดกฎหมายเลยออกความคิด ให้เขารับทำแค่รถที่พังจากสนามหรือรถที่อยากเอามาแข่งที่สนามเขาเท่านั้น จะได้ไม่ต้องมีใครเข้ามาวุ่นวายที่บ้านยอร์ช นานๆทีถึงจะมีรถจากที่อื่นมาให้เขาทำ และนานๆทีเหมือนกันที่เขาจะยอมแต่งรถให้กับคนอื่น
“ยีนส์! ไอ้ยีนส์!” ยอร์ชส่ายหัวให้กับน้องชายตัวเล็กของตัวเอง ก่อนจะลุกไปเปิดประตูรั้วสูงท่วมหน้าผู้ชายอย่างเขาให้เพื่อนด้านนอกเข้ามา
“ทำไมมาเร็วจังวะ” ยอร์ชถามธีมที่ยืนเอามือเสยผมด้วยอารมณ์ที่ดูไม่ปกตินัก “แล้วรถมึงละ”
“โดนชนยับเลยดิเมื่อคืน กูเลยจอดทิ้งไว้ก่อน ไว้มีอารมณ์กูค่อยเอามาทำ”
“เออๆ เข้ามาๆ” ยอร์ชเปิดประตูกว้างให้ธีมเดินเข้ามาด้านใน “มึงชวดกับน้องกูนิดเดียวเอง อยากให้ได้เจอกันจังๆสักครั้ง”
“หึ กูเห็นมึงโอ้อวดมาหลายรอบแล้วนะกับน้องชายมึงน่ะ กูชักอยากจะรู้แล้วว่าน้องมึงเนี่ยดียังไง” เวลาธีมแวะเวียนมาบ้านยอร์ชทีไร เพื่อนรักก็ไม่วายจะเล่าขานถึงน้องชายตัวเองว่ามีดีและเด็ดเหนือใครๆ
“มึงอย่าดูถูกตระกูลกูดิวะ กูก็สูงหล่อรวยขนาดนี้ มึงคิดว่าน้องกูจะขนาดไหน” ที่ยอร์ชพูดออกมานั้นไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากความจริงเลยสักนิด เพียงแต่ธีมยังไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จนกว่าเขาจะได้เห็นกับตา สัมผัสกับมือ
“ตัวเล็ก หุ่นบาง ผิวขาว ปากอมชมพู น้องมึงมีครบทุกอย่างที่กูพูดขึ้นไหมละ”
“หึ น้องกูเอ็กซ์และก็เด็ดกว่านั้นเยอะ”
“ไม่กลัวกูชอบน้องมึง?”
“มึงมีหนุ่มน้อยในดวงใจที่ตามหามาหลายปีอยู่แล้วกูไม่กลัวหรอก ถึงมึงไม่มีคนนั้น มึงก็ได้ใจน้องกูยาก” ยอร์ชตอบพร้อมกับเผยรอยยิ้มมีเลศนัย บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ที่สะสมอยู่ในตัวจำนวนไม่น้อย
ยีนส์ที่บอกว่าขอตัวเข้าบ้าน แต่ทว่าเขาไม่ได้หันหลังให้กับเพื่อนพี่ชายอย่างที่บอกไว้ หนุ่มหน้าสวยแอบซุ่มมองดูแผ่นหลังกว้างของธีมอยู่ภายในบ้าน ร่างกายสูงโปร่ง มัดกร้ามกำยำ เสียงทุ้มแหบที่ชวนให้คนฟังหลุ่มหลง ยิ่งมองคนตรงหน้ายีนส์ก็ยิ่งรู้สึกคุ้น เหมือนไม่ใช่แค่เจอกันผ่าน เขารู้สึกว่าเขาใกล้ชิดกับคนตรงหน้ามากกว่านี้! มันเลือนลางอยู่ในหัวยิ่งพยายามจะนึกภาพที่เลือนลางกลับค่อยๆจางหาย
@Sคลับ
“มึงเหม่ออะไรอ่ะยีนส์ กูเห็นมึงเป็นตั้งแต่เข้าร้านมาแล้วนะ” น้ำตาลเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของยีนส์ถามชายหน้าสวยที่เอาแต่เหม่อมองไร้ทิศทางตั้งแต่เหยียดกายเข้าร้านประจำนี้มา
น้ำตาลถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยสะดุดตา ใบหน้ามีเสน่ห์ชวนมอง การแต่งตัวดูดีชวนเข้าหา แต่แต่น่าเสียดายที่น้ำตาลเป็นพวกไม่ชอบยึดติดกับใคร หรือจะเรียกว่าไม่ชอบมีความรักไม่อยากรักใครก็ได้ แต่ไม่ได้หมายถึงเธอจะไม่มีความใคร แค่สนุกชั่วข้ามคืนมันก็พอแล้วสำหรับเธอ
“ช่างมันเถอะ กูคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ยีนส์ตอบแบบขอไปที พรางนิ้วเรียวก็หยิบแก้วสีอำพันบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม
“ที่ว่าเพลินเนี่ยมึงคิดถึงเรื่องอะไร เรื่องผู้ชายหรือเปล่าคะ?”
“มึงเห็นกูแรดขนาดนั้นเลยรึไงวะ”
“กูก็ไม่เคยเห็นมึงอดอ่ะบอกเลย ยกเว้นตอนที่มึงดรอปเรียนไปน่ะ แล้วนี่มึงจะกลับไปเรียนจริงๆหรอวะ” น้ำตาลถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ว่าเพื่อนที่ดรอปเรียนไปนานของเธอจะกลับไปเรียนอีกครั้งน่ะเป็นเรื่องจริงหรือหลอก
“ทำไมอ่ะ กูแค่จะกลับไปเรียนให้จบเอง”
“แต่มึงดรอปไปเกือบ3ปีนะคะ เพื่อนเขาเรียนจะจบอยู่แล้ว” นั่นหมายถึงตัวเธอด้วยที่ตอนนี้กำลังจะลงฝึกงานในปีสุดท้ายของการศึกษา
น้ำตาลไม่ได้กลัวแค่ว่ายีนส์จะไม่มีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวเรียนเป็นเพื่อนหรอก เธอกังวลเรื่องอื่นในอดีตของยีนส์มากกว่า ถ้าเกิดคนพวกนั้นเอาเรื่องเก่าเหล่านั้นมาซ้ำเติมยีนส์ตอนเธอไม่อยู่ เพื่อชายหน้าสวยของเธอจะทนรับมือไหวหรือเปล่า
“แต่กูจ่ายเงินค่ารักษาหน่วยกิตใต้โต๊ะทุกปี เพราะงั้นกูจะกลับไปเรียน” ยีนส์ยึดมั่นกับความตั้งใจเดิมของตัวเอง เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะกลับมาเมืองไทย มาเรียนให้จบ แม้ว่าพ่อจะขอร้องให้เขามาเริ่มเรียนใหม่ที่เกาหลีเขาก็ไม่ยอม
“แน่ใจนะว่ากลับไปแล้วจะรับเรื่องนั้นได้” น้ำตาลเผลอหลุดปากพูดเรื่องที่ไม่ควรจะพูดออกไป จะโกหกบอกปัดว่าไม่ได้พูดออกไปก็ดูเหมือนจะไม่ทัน เพราะตอนนี้เพื่อนตัวดีกำลังนั่งจ้องเธอตาไม่กระพริบเสียแล้ว
“เรื่องอะไรวะ”
“ช่างเถอะ ไร้สาระน่ะ มึงอย่าใส่ใจ ถ้าลืมมันได้จริงๆก็ถือว่าดีล่ะ” น้ำตาลแอบลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่ยีนส์ไม่รู้สึกตะหงิดอะไรกับคำพูดเมื่อครู่ ถ้าเกิดยีนส์สงสัยอะไรขึ้นมาเฮียยอร์ชคนหล่อเล่นงานเธอถึงตายแน่ๆ ที่บังเอิญไปรื้อฟื้นอดีตที่ไม่ควรจำขึ้นมา