"มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้มีความสุขกับการทำตุ๊กตา ถ้าให้คิดคงจะเป็นวันที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น หรือไม่....ก็คงจะเป็นวันที่ฉันเกิดมา.."
ในตอนแรกที่ฉันได้มาอาศัยที่หมู่บ้านแห่งนี้ พวกเขาต้อนรับรวมถึงคอยช่วยเหลือฉัน ทำให้คนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตอย่างฉันได้เริ่มหาจุดหมาย รอยยิ้มของเด็กๆ ที่ได้เล่นตุ๊กตาที่ฉันสร้าง มันคือความสุขที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลย
แต่ทว่า...ในวันที่เกิดเรื่อง...วันที่เด็กคนหนึ่งได้เห็นรอยแผลบนร่างกายของฉัน เธอค่อยๆ ล้มตัวลงก่อนที่ร่างกายจะเริ่มย่อยสลายจนสุดท้ายก็กลายเป็นตุ๊กตา ในตอนสุดท้ายเมื่อทุกคนรู้เรื่องทั้งหมด ทุกคนก็ออกตามล่าฉัน รุมประณามฉัน...พร้อมบอกว่าฉันเป็นปีศาจ ถึงแม้ในตอนนั้นฉันจะกล่าวขอโทษไปมากสักแค่ไหน ก็ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งพวกเขาเลือกที่จะจับฉันไป...เพื่อฆ่าฉัน แต่มันก็ไม่ สำเร็จ....เพราะพวกเขาได้เห็นคำสาปบนร่างกายของฉัน
ภาพของกองซากตุ๊กตามันยังติดตาของฉันอยู่เลย ฉันยังจำได้ว่าพวกเขาใช้ชีวิตแบบไหน พวกเขายิ้มกันยังไง พวกเขาพูดอะไรกับฉัน....แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นเพียงตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต เพียงเพราะคำสาปที่ติดตัวฉัน...
ฉันเลือกที่จะหนีออกมาจากที่นั่น ออกตามหาสถานที่ที่จะทำให้ไม่มีใครต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวฉันอีก จนฉันได้ไปเจอ...รถเมล์คันนั้น พวกเขาบอกฉันว่าจะพาไปส่งยังที่ปลอดภัยพร้อมให้กระดาษกฎที่เขียนไว้เพียงข้อเดียวคือ...
"ห้ามกลืนกินผู้หลงทางในระหว่างที่กำลังอยู่บนรถเด็ดขาด"
ในตอนแรกฉันไม่ได้เข้าใจกฎนั่นเลย...จนกระทั่งวันนั้น วันที่เด็กผู้ชายในชุดนักเรียนมองเข้ามาหาฉัน ตอนนั้นฉันพยายามเอามือปิดบังดวงตาของเขาไว้แล้ว...แต่ผลลัพธ์ก็คือร่างกายของเขาก็ค่อยๆ ย่อยสลายจนเหลือเพียง...ร่างของตุ๊กตา
ฉันนำเขามาไว้ที่บ้านของฉัน บ้านหลังแรกที่ฉันหนีจากมันมา แต่ในตอนนี้มันไม่เหลือสิ่งมีชีวิตใดๆ หลงเหลืออยู่แล้ว ฉันจ้องมองไปยังลิ้นชักที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนจะเห็นว่ามีสมุดไดอารี่เล่มหนึ่ง เมื่อได้ลองอ่านมันอีกครั้งก็รับรู้ได้ว่าในตอนนั้นฉันมีความสุขมากขนาดไหน และมันก็ทำให้ฉันรับรู้ว่า ทุกสิ่งนั้นสลายหายไปอย่างไม่หวนกลับมาแล้ว
พวกเขาบอกว่าฉันทำผิดกฎอย่างไม่ได้ตั้งใจ จึงบอกให้ฉันจ่ายค่าปรับแทน ในตอนแรกฉันหวังว่าพวกเขาจะขังฉันไว้ไม่ให้เจอกับโลกภายนอก....
แต่มันก็เป็นได้แค่ความหวังเท่านั้น..
ฉันนั่งมองเหล่าตุ๊กตาที่อยู่ภายในห้องอย่างสิ้นหวัง จริงๆ แล้วตุ๊กตาพวกนี้ก็เกิดมาจากชีวิตหนึ่งเหมือนกัน ฉันทำให้พวกมันกลายเป็นตุ๊กตาเพื่อช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่คิดเลยว่าการทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผลลัพธ์มันจะสะท้อนเข้ามาถึงตัวเอง จนสุดท้ายฉันก็ตัดสินใจจะปลดปล่อยพวกเขา แต่ยังมีสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างคือเครื่องสังเวย....
และหลานของฉันคือตัวเลือกนั้น..
ฉันรู้สึกสิ้นหวังในทุกตัวอักษรที่เขียนใส่ในกระดาษ ฉันสร้างกฎปลอมๆ ขึ้นเพื่อทำให้หลานของฉันทำตาม....ทั้งหมดเพราะความเห็นแก่ตัวของฉันเองเพียงคนเดียว..
ในวันที่หลานของฉันได้มาถึง เขาทำตามกฎอันแสนไร้เหตุผลของฉันได้อย่างดีเยี่ยม ทุกอย่างที่ฉันได้เขียนเอาไว้เพียงเพื่อทำให้เขาอยู่ข้างในบ้านให้นาน จนกว่าพิธีกรรมทั้งหมดจะเสร็จสิ้น แต่ในอีกใจหนึ่ง....ฉันก็อยากจะให้เขาหนีไป..
ฉันลองโผล่ไปหาเขาทางหน้าต่างด้วยร่างกายที่แสนน่ากลัว ฉันคิดไว้ว่าเขาคงจะกลัวฉันจนวิ่งหนีไป...แต่ไม่เลย เขายังทำตามกฎทุกข้ออย่างเคร่งครัดแถมยังหยิบขนมมาให้ฉันซะเต็มกำมือ การที่เขาทำแบบนั้นมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเดิม....แต่ฉันถอยกลับไปไม่ได้แล้วในตอนนี้...
พิธีกรรมได้เริ่มต้นขึ้น เหล่าตุ๊กตาสัตว์เริ่มเปลี่ยนร่างกลายเป็นร่างดั้งเดิมของพวกมัน ความดุร้ายและสัญชาตญาณเริ่มเพิ่มพูนจนพวกมันกลับร่างอย่างสมบูรณ์ ฉันได้แต่เพียงยืนภาวนาให้หลานของฉันปลอดภัย...จนในที่สุด
แสงของรุ่งเช้าได้มาถึง ฉันเห็นหลานชายของตัวเองโผล่ขึ้นมาท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้าน เขายืนคุยกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งพร้อมกับอ่านข้อความภายในจดหมายที่ฉันเขียนเอาไว้ ก่อนที่พวกเขาจะกลับไป
ฉันรีบเดินมาตรวจสอบบ้านของฉันที่ตอนนี้เหลือเพียงแต่ซาก ก่อนจะเห็นว่ามีตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนร่าง เมื่อฉันมองใกล้ๆ ก็เห็นเป็นตุ๊กตามนุษย์ในชุดนักเรียนที่ฉันนำมาด้วย คงเพราะเขาไม่มีความดุร้ายและสัญชาตญาณที่แรงกล้ามากพอ เขาก็เลยยังอยู่ในร่างของตุ๊กตา
แต่ในตอนนั้นเอง เมื่อฉันหยิบตัวเขาขึ้นมาก็ได้เห็นว่าตัวของเขานั้นกำลังนอนทับกับสมุดไดอารี่ของฉันอยู่ ฉันกอดเขาไว้กับตัวก่อนจะหยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นมา....
"ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความทรงจำที่เจ็บปวด แต่ฉันจะไม่สามารถก้าวข้ามมันได้ถ้าฉันเลือกที่จะทิ้งมันไป......"