กฎในการใช้ห้องสมุดยามคํ่าคืน (1)
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคน ผมหวังว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบในการอ่านเรื่องสยองขวัญนะ ถามว่าทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะวันนี้ผมมีเรื่องที่สยองขวัญมากๆ มาเล่าให้คุณฟังน่ะสิ เเต่อย่าคาดหวังมันมากนักนะ เพราะตอนนี้ผมยังรู้สึกสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานอยู่เลย...
เรื่องมันเริ่มจากตอนที่ผมกำลังนอนเบื่อๆ อยู่ที่บ้าน เพราะสถานการณ์โรคระบาดในช่วงนี้ ทำให้ผมไม่สามารถออกไปไหนได้ เเต่มันก็นั่นแหละ นอนเปื่อยอยู่บนที่นอนจ้องมือถือทั้งวันมันทำให้ผมเริ่มเหี่ยวเฉานี่นา ผมก็เลยเลือกที่จะหาสถานที่เดินเล่นใกล้ๆ ที่พัก จนได้ไปเจอที่ที่หนึ่ง
มันเป็นเหมือนห้องสมุดเก่าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากห้องของผมนัก ด้วยความที่ผมก็เป็นพวกชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมอยู่ด้วยละนะ เลยตัดสินใจลองไปที่นั่นดู
เวลาในตอนนี้ประมาณช่วงบ่าย ผมออกมาจากบ้านพร้อมอุปกรณ์ป้องกันแบบครบครัน ตั้งเเต่หน้ากากยันเจลล้างมือ จะได้ไม่มีใครบอกว่าผมไร้ความรับผิดชอบ เพราะผมค่อนข้างอ่อนไหวกับคำพูดพวกนี้อยู่ด้วย
ผมใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการไปถึงที่นั่น สิ่งที่เห็นอย่างเเรกคือมันก็เป็นเหมือนร้านขายหนังสือเก่าๆ ที่เปิดให้คนมาใช้บริการเช่าหนังสือจนกลายเป็นห้องสมุดธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ข้างในเเบ่งเป็น 2 โซน คือโซนชั้นหนังสือกับนั่งอ่าน โซนชั้นหนังสือมีอยู่ประมาณ 15 ชั้น พวกมันตั้งอยู่ข้างหลังสุดของห้อง มีอยู่ 5 เเถว แถวละ 3 ชั้น โดยที่ข้างๆ แถวด้านซ้ายสุดมีจะประตูสำหรับเข้าห้องนํ้าอยู่ อีกโซนคือโซนนั่งอ่าน มันตั้งอยู่ข้างหน้าเลยล่ะ มีโต๊ะยาวสีขาวตั้งอยู่ประมาณ 8 ตัว โดยที่โต๊ะด้านข้างถูกวางชิดกับกำเเพงข้างร้านซ้ายและขวาด้านละ 2 ตัว และโต๊ะตรงกลางที่วางอยู่อีก 4 ตัว นั่นเป็นสภาพร้านคร่าวๆ ที่ผมเห็น โดยรวมก็ถือว่าดีเเม้จะมีรอยดำบนผนังเยอะไปหน่อย แต่ผมก็พอรับได้
ผมเดินตรงเข้าไปหน้าโต๊ะของพนักงานที่ตอนนั้นมีคุณลุงผิวเข้มกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมอยู่ ผมเลยบอกเขาไปว่าอยากใช้บริการห้องสมุดต้องทำยังไงบ้าง เเต่คุณลุงคนนั้นกลับไม่พูดตอบอะไรผม เขาเพียงยื่นหนังสือเล่มจิ๋วมาให้ก่อนจะกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์ของเขาต่อ ผมได้เเต่ยืนงงเเต่ก็รับเจ้าสมุดเล่มจิ๋วนั่นมา พร้อมกับบอกตัวเองว่าคงใช้ห้องสมุดได้เเล้วละมั้ง
น่าจะสัก 1 ชั่วโมงเเล้วที่ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่นี่ เเละผมคิดว่าทำทุกอย่างที่ควรจะทำเเล้ว เช่นการตรวจสอบสถานที่ทั้งหมด หรือการตรวจสอบหนังสือทั้งหมด เเต่ผมก็พบว่ามันถูกวางจัดกลุ่มอยู่อย่างปกติไม่มีอะไรน่าสงสัย
อืม...เเต่จริงๆ มันก็มีบางอย่างที่ผมสงสัยอยู่ อย่างเเรกคือรอบๆ ห้องสมุดเเห่งนี้ไม่มีหน้าต่าง หรือกระจกใสรอบๆ เลย มีเพียงช่องรูระบายอากาศเล็กๆ บนผนังเพียงเท่านั้น แต่มันก็อาจจะเพราะข้างในห้องมีแต่พัดลมก็ได้ แถมห้องสมุดแห่งนี้ก็ดูจะไม่ได้มีรายรับมากพอจะติดแอร์อีกด้วย ข้อสงสัยของผมเลยหายไปในเวลาไม่นาน
แต่สิ่งที่ยังคงคาใจของผมอยู่ก็คือ สมุดจิ๋วที่ผมได้รับมาจากคุณลุงพนักงาน มันเป็นสมุดที่เขียนบนปกเพียงเเค่ว่า "หากคุณต้องการเพียงมาอ่านหนังสือ ก็อย่าเปิดมันมาอ่านเลยจะดีกว่า" ผมที่เห็นแบบนั้นก็เกิดสงสัยว่าถ้าอ่านเเล้วจะเกิดอะไรขึ้น เเต่ก็อดทนกลั้นใจแล้ววางมันไว้ข้างๆ เพียงเท่านั้น
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่หลังจากที่ผมพึ่งอ่านหนังสือนิยายแฟนตาซีจนครบ 3 เล่ม ด้วยความเมื่อยผมเลยเอาหนังสือนิยายพวกนี้ไปเก็บก่อนจะเดินไปหาคุณลุงพนักงานเพื่อถามเวลา แต่ก็เห็นว่ามันมีนาฬิกาตั้งอยู่บนโต๊ะของคุณลุงอยู่แล้ว และเวลาบนนั้นคือ 15:00 ผมที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ผมนึกว่าตอนนี้มันใกล้คํ่าเเล้วซะอีก นิยาย 3 เล่มนั้นผมอ่านจบเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเองเหรอ ผมทิ้งความสงสัยก่อนจะเดินกลับไปหยิบสมุดจิ๋วเล่มนั้นมาคืน แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นมันพุ่งพล่าน ผมเลยตัดสินใจเลือกจะเปิดมันมาอ่านก่อนที่จะเอามันไปคืน และเมื่อนึกย้อนไปในตอนนี้ ผมล่ะอยากต่อยหน้าตัวเองเหลือเกินที่ทำสิ่งนั้นลงไป....
"สวัสดีนักอ่านขาดึกทุกท่าน ก่อนอื่นขอขอบคุณที่มาใช้บริการห้องสมุดของเรา เบื้องต้นคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าใช้บริการห้องสมุดนี้หรอก เจ้าของห้องสมุดแห่งนี้ไม่ได้ต้องการเงินหรือของมีค่าใดๆ เพราะเขาไม่ได้ต้องการจะเก็บค่าบริการจากพวกคุณ..."
"เกือบจะลืมไป ก่อนที่คุณอ่านกฎเหล่านี้ หากคุณยืนหรือนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ห้อง ให้ย้ายมา "นั่ง" ที่โต๊ะใดโต๊ะหนึ่งกลางห้อง นั้นก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เอาล่ะ ถ้าหากคุณทำตามคำเเนะนำทั้งหมดเเล้ว ขอให้คุณเปิดอ่านหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง จงอ่านมันทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร และได้โปรดทำตามกฎเหล่านั้นอย่างเคร่งครัดด้วย นั่นไม่ใช่เพื่อพวกเรา แต่มันก็เพื่อตัวของคุณเอง"
"กฎในการใช้ห้องสมุดยามค่ำคืน"
1. สิ่งแรกที่คุณควรรู้ กฎเหล่านี้จะเริ่มใช้เมื่อเวลา 19:00 ทางที่ดีคุณควรจะนั่งอยู่ในที่นั่งของคุณ และห้ามขยับไปนั่งที่อื่นเมื่อถึงเวลานี้ อาจจะมีบางครั้งที่คุณสามารถขยับไปที่อื่นได้ แต่ขอให้ทำตามกฎที่ระบุไว้
2. เมื่อถึงเวลา 19:00 คุณควรจะนั่งอ่านหนังสือ (หรือแกล้งอ่าน) เมื่อถึงเวลานี้ แต่ถ้าหากคุณไม่มีหนังสือให้อ่านคุณสามารถลุกไปหยิบได้ แต่ขอกำชับไว้ว่าทำมันให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ไปรบกวนลูกค้าท่านอื่น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นใครนั่งอยู่ก็ตาม และห้ามหยิบหนังสือในชั้นที่ 13 ในเวลานี้ (จะมีเลขเขียนบอกว่านั้นคือชั้น 13) หนังสือเหล่านั้นไม่ใช่ของคุณ
3. ในระหว่างที่คุณอ่านหนังสืออยู่หากได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ให้ปฏิบัติตามนี้
- หากได้ยินเสียงเดิน คุณไม่ต้องกังวล ให้คุณนั่งอยู่นิ่งๆ ตราบใดที่คุณนั่งอ่านหนังสืออยู่คุณจะปลอดภัย
- หากได้ยินเสียงไอ กระเเอม คุณต้องลุกไปนั่งโต๊ะอื่นที่อยู่ตรงกลาง ห้ามลุกไปนั่งที่โต๊ะข้างๆ กำเเพงอย่างเด็ดขาดและคุณควรทำมันอย่างปกติที่สุด พวกมันจะไม่คิดว่าคุณเป็นสิ่งเเปลกปลอมหากทำเเบบนั้น
- หากได้ยินเสียงลากเก้าอี้ คุณจะต้องเหลือบตามองช้าๆ ไปยังที่นั่งข้างๆ คุณ หากเห็นว่าไม่มีใครให้คุณนั่งอ่านนิ่งๆ ตามปกติ แต่ถ้าหากคุณเห็นอะไรบางอย่างอยู่ที่หางตา แม้จะเห็นเพียงเล็กน้อยและไม่ชัดเจน ให้คุณรีบลุกไปนั่งที่อื่นทันที พวกมันเริ่มสงสัยในตัวคุณแล้วจึงทำเเบบนั้น
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ขอเเนะนำให้คุณตั้งใจฟัง เพราะมันจะดีกว่ามากหากคุณมีสติพอที่จะสามารถรับมือกับพวกมันได้ทันเวลา
4. เหตุการณ์ในข้อที่ 3 จะเกิดตั้งแต่เริ่มจนถึงเวลา 23:00 หากคุณสามารถมาถึงเวลานี้ได้ ขอแสดงความยินดีด้วย คุณสามารถพักผ่อนเข้าห้องนํ้าหรือจะนอนพักก็ตามสบาย เเต่ขอแนะนำว่าคุณห้ามหลับ เพราะคุณมีเวลาพักเพียง 1 ชั่วโมงก่อนจะถึงยามเที่ยงคืนเพียงเท่านั้น
5. เราขอเตือนคุณไว้ว่า ก่อนจะถึงเวลาเที่ยงคืน ทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่กรีดร้องหรือตื่นตระหนกกับสิ่งที่จะได้ยินหรือได้เห็น ตรวจสอบตัวเองว่าคุณมีสติพอที่จะรับมือกับกฎต่อไปได้ เพราะบางอย่างจะเข้ามาใช้บริการ ณ ห้องสมุดแห่งนี้ยามเที่ยงคืน
6. เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนตรง พนักงานประจำร้านจะเข้ามาปิดไฟ ขอให้คุณอย่าตกใจ เพราะมันจะไม่มีอะไรน่ากลัวเกิดขึ้นกับคุณแน่นอน ตราบใดที่คุณยังทำตามกฎละนั่งอ่านหนังสืออยู่นิ่งๆ ในที่ของคุณ
7. ในระหว่างที่คุณกำลังอ่านหนังสือหากมีแสงไฟส่องเข้ามา ให้คุณสังเกตว่ามันส่องไปทางไหน
- หากแสงไฟนั่นส่องมาทางคุณ ให้คุณจ้องไปที่ไฟนั่น ไม่ต้องห่วงว่ามันจะแสบตา เพราะนั่นไม่ใช่ไฟปกติ และคุณจำเป็นจะต้องจ้องจนกว่าไฟจะดับลง
- หากไฟนั่นส่องไปยังที่นั่งอื่น คุณต้องรีบเดินไปยังไฟนั่นให้เร็วที่สุด แล้วจ้องไฟนั่นจนกว่าจะดับเช่นกัน
ถ้าคุณทำสำเร็จ พนักงานของเราจะรู้ได้ทันทีว่าคุณคือคนปกติและจะหาทางช่วยคุณ เเต่หากคุณไปถึงไม่ทันก่อนที่เเสงไฟจะดับลง หรือคุณเลือกที่จะหลบแสงไฟนั่น ทางเราจะไม่สามารถรับรองชีวิตของคุณได้
แต่เรามีสองทางเลือกให้คุณ อย่างเเรกคือวิ่งออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด (ไม่เเนะนำ) กับสอง ให้คุณเข้าไปซ่อนตัวในห้องนํ้าสักห้องจนกว่าจะเช้า เเล้วภาวนาว่าพวกมันจะไม่เข้าไปในห้องที่คุณอยู่
8. แนะนำว่าให้คุณมองเช็กนาฬิกาตลอดเวลา หากถึงเวลา 03:00 เมื่อไหร่ ให้คุณตั้งสติไว้ให้มั่น เพราะพวกมันจะรู้ได้ทันทีว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ที่นี่
9. นี่อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณจะได้ทำเมื่อถึงเวลาตีสาม หลับตาลงและรีบขึ้นไปบนโต๊ะข้างห้องให้ไวที่สุด คุณจะได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และอาจจะมีบางครั้งที่คุณจะรู้สึกว่ามีอะไรมาจับ เเต่ไม่ต้องห่วง พวกมันไม่ได้มีแรงมากพอจะดึงคุณลงมาหรอก เพราะฉะนั้นยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ และอย่าลืมตาเด็ดขาด พวกเราไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าถ้าคุณเห็นพวกมันเเล้วจะเป็นยังไง เราขอให้คุณอดทนไว้ก่อน เพราะคุณจะต้องรอไปจนถึง 04:00 หรือหนึ่งชั่วโมง
10. เมื่อถึงเวลาตีสี่ จะมีแสงไฟส่องมา คุณจะรู้สึกถึงมันได้แม้คุณจะหลับตาอยู่ เมื่อถึงตอนนั้นคุณสามารถลืมตาได้ รีบเดินลงมาเเล้วไปหาพนักงานของเรา แต่อย่าพึ่งวางใจ เรามีข้อสังเกตให้คุณอีกอย่างแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ให้คุณมองไปยังนัยน์ตาของพนักงานที่มารับคุณให้ดีๆ หากนัยน์ตาของเขาเป็นสีดำ ควรจะขอบคุณเขาเเละเดินออกไป คุณโชคดีเเล้วสำหรับวันนี้ เเต่หากสีตาของเขาเป็นสีเเดง รีบวิ่งออกมาซะ!! มันยังไม่ถึงเวลาตีสี่ และมันไม่ใช่พนักงานของเรา
ทั้งหมดคือกฎที่คุณควรจะทำตาม หากคุณต้องการจะผ่านคืนนี้ไปให้ได้แม้คุณจะเต็มใจหรือไม่ และขอเเสดงความเสียใจหากคุณอ่านกฎเหล่านี้จนจบ ตอนนี้คงเป็นเวลาที่คุณจะต้องเริ่มเเล้ว...
ผมปิดหนังสือเเล้ววางมันลงเพราะมันคือหน้าสุดท้ายแล้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมาเพราะคิดว่ามันเป็นเพียงกฎบ้าๆ ที่เจ้าของร้านทำมาแกล้งอำลูกค้าเเน่ๆ แต่ในตอนที่ผมจะลุกขึ้นจากที่นั่ง ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบก็ผ่านเข้ามา ใจผมสั่นไหวเล็กน้อยเพราะนึกไปถึงย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือ
"และขอแสดงความเสียใจหากคุณอ่านกฎเหล่านี้จนจบ ตอนนี้คงเป็นเวลาที่คุณจะต้องเริ่มแล้ว..." ผมกลืนนํ้าลายหนึ่งอึกก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองไปยังนาฬิกาบนโต๊ะของพนักงาน เมื่อผมได้เห็นเวลาอย่างชัดเจนเหงื่อบนหัวผมก็เริ่มไหลออกมา เพราะนาฬิกาในตอนนี้มันขึ้นเวลา
19:00...