ปฐมบท 3 ความเจ็บที่ใจอันไร้เหตุผล2

1287 คำ
ชายหนุ่มโอบกอดนางไว้แนบอกอย่างซาบซึ้ง ทว่าก้นบึ้งของแววตากลับรู้สึกผิดอย่างท่วมท้นต่อสตรีอีกคน ขณะที่สาวน้อยซึ่งบัดนี้เติบโตเพื่อเขามีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ยามแนบใบหน้ากับแผงอกอบอุ่นที่ถวิลหาช่างสุขใจหาใดเทียม และแล้วเราสองก็ได้แต่งงานกัน นางได้เป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องเหมาะสม รัก...ที่แค่ฝังใจ จึงถึงคราวเปิดเผยสู่ธารกำนัลอย่างสง่างาม พิธีแต่งงานระหว่างเกาหมิงกับจางจิ่วเม่ยผ่านไปอย่างราบรื่น วันชื่นคืนสุขผ่านไปวันแล้ววันเล่า พร้อมกับการปกปิดความจริงและลืมเลือนหลินซูซิน จางจิ่วเม่ยให้รู้สึกหลุดพ้นจากเส้นทางรักอันขรุขระเสียที นางที่อดทนมองชายอันเป็นที่รักอยู่กับหญิงอื่น อดทนกับหลินซูซินที่เป็นนางมารขวางทางรักทุกวัน กล้ำกลืนมองความรักที่มีอุปสรรคมานานหลายปี ยามนี้นางไม่จำเป็นต้องทนทรมานอีกแล้ว สาวน้อยกลายเป็นสตรีที่สมหวังดังใจทุกประการ หากเป็นตัวเอกในนิทาน นั่นคือนางที่มีความสุขในตอนจบ ส่วนเกาหมิงแม้ยังคงรักฝังใจกับหลินซูซินมิเสื่อมคลาย ทั้งรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น ทว่าคนต้องเดินหน้าต่อหาใช่จมกับอดีตไม่ แค่มิได้รักสตรีข้างกายมากมายเท่าอดีตภรรยา เสน่หาบนเตียงล้วนทำไปตามหน้าที่อันพึงมีพึงปฏิบัติ บุรุษผู้หนึ่งแม้เบื้องหน้ามีรอยยิ้มประดับ ทว่าในใจใครจะรู้เล่าว่าโศกเศร้าปานใด นี่คือตราบาป คือกรรมที่เขาควรได้รับใช่หรือไม่ ทว่าการจมปลักฝังใจรักกับสตรีอีกคน แต่ใช้ชีวิตร่วมกับสตรีอีกคน ย่อมมิใช่ปัญหาใหญ่อันใดสำหรับปุถุชนคนหนึ่ง และด้วยความเป็นสุภาพชน เขาจึงยังคงเป็นสามีแสนดี แม้ต้องเปลี่ยนภรรยาอย่างจำยอมด้วยจำนนต่อความจริง ฮูหยินคนใหม่จึงแทนที่ฮูหยินคนเก่าโดยสมบูรณ์ เพียงแต่ความสมบูรณ์นั้น กลับทำให้คนผู้หนึ่งรู้สึกแหว่งเว้าในหัวใจอยู่ทุกวัน คนผู้นั้นอยู่ในห้องหรูโออ่าบนหอสูงของหุบเขาผนึกมาร แววตาคมดำของเขาล้ำลึกเกินหยั่ง ไม่มีใครอ่านความรู้สึกออก จ้าวเฟิงฉีไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองถึงรู้สึกเช่นนี้ เดิมทีหลินซูซินผู้นั้นไม่ควรอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเขา นางที่เอาแต่วิ่งหนีทุกคราเมื่อเจอหน้า เขาไม่ควรรู้สึกอันใด ตอนนางมีชีวิตอยู่ทำให้เขาโมโหโกรธเคืองปานใดล้วนจำได้ดี และยิ่งเกลียดชังทุกครั้งที่นึกถึงตอนที่นางพยักหน้ารับว่าที่สามีเป็นชายอื่น สตรีโง่งมเช่นนั้น เขาไม่ใส่ใจสักนิดว่านางจะแต่งงานเป็นภรรยาของใครที่ไหน แล้วเหตุใดตอนนางตาย เขาถึงทำใจไม่ได้เช่นนี้เล่า? ชายหนุ่มปรายตามองลงไปยังเบื้องล่างจากหอสูงที่เขาอยู่ ห่างออกไปไกลหลายหลี้คือตัวเมืองผิงโจว จวนสกุลเกาตั้งตระหง่านอยู่ในนั้น แววตาคมของจ้าวเฟิงฉีฉายแววอำมหิต ทั้งเย็นชาไร้ปรานี ย่อมหมดเวลาแห่งความสงบราบรื่นของคนที่ทำให้หลินซูซินตาย สกุลเกาไม่สมควรเสวยสุขเหนือความทุกข์ตรมของคนสกุลหลิน นิสัยของจ้าวเฟิงฉีค่อนข้างแข็งกร้าว แววตาที่ดุดันนั้นค่อยๆ แผ่กำจายความคิดอันโหดเหี้ยมออกมาอย่างท่วมท้น ที่มุมมืดหลังฉากกั้น เงาร่างอรชรค่อยปรากฏกายออกมาอย่างช้าๆ แลดูงดงามชวนหวาดหวั่นพรั่นพรึงแปลกประหลาด นางคือ เสี่ยวเหยา สุดยอดหญิงคณิกาอันดับหนึ่งของหอบุปผา หนึ่งในกิจการของสำนักยวี้จู๋ จ้าวเฟิ่งฉียังคงยืนนิ่งขรึมหันหน้าออกไปทางนอกหน้าต่างยามเอ่ยปากสั่งการเสียงเย็นชา “ไปจัดการจุดไฟเผาหลังเรือนสกุลเกาให้วอดวาย” ความหมายคือยึดครองเกาหมิง อย่าให้จางจิ่วเม่ยผู้นั้นได้อยู่อย่างผาสุก ยิ่งร้อนรุ่มดุจมีไฟสุมทรวงเท่าไรยิ่งดี แน่นอนว่างานเยี่ยงนี้เสี่ยวเหยาถนัดยิ่ง นางเหยียดยิ้ม “เจ้าค่ะนายน้อย” เงาร่างอ้อนแอ้นหายไป เงาร่างสูงเพรียวคนใหม่ก้าวเข้ามา เขาคือ อี้หาน เป็นชาวยุทธ์ที่ทำงานให้ราชสำนักมาช้านาน จ้าวเฟิ่งฉีสั่งการโดยไม่หันมองอีกครา “รอเวลาที่เหมาะสม ค่อยจัดการค้นจวนยึดทรัพย์ลากคนเข้าคุกรับโทษทัณฑ์” “ขอรับนายน้อย...” สกุลเกาที่สงบสุขราบรื่นเพราะลืมเลือนสตรีผู้หนึ่งไปสิ้นค่อยๆ เกิดพายุร้ายโหมกระพือภายในเรือน เปลวเพลิงแห่งชีวิตค่อยๆ แผ่ลามไปทั่วทั้งจวนภายในเวลาเพียงไม่นาน เรียกว่ากรรมตามทันได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องรอถึงชาติหน้า เดิมทีเกาหมิงที่รักหลินซูซินจากใจจริงแต่กลับนอกใจ ล้วนเป็นเพราะจางจิ่วเม่ยน่ารักซุกซน เป็นสตรีสดใสแปลกใหม่แบบที่ตนไม่ค่อยได้สัมผัส ความร่าเริงของสาวน้อยซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสตรีเรียบร้อยอ่อนหวานอยู่ในกรอบจารีตที่เจออยู่ทุกวันเช่นหลินซูซิน ย่อมทำให้บุรุษโลเลผู้หนึ่งหวั่นไหวสั่นคลอน ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเกาหมิงได้เจอเสี่ยวเหยา หญิงสาวที่เอาศาสตร์สตรีอันล้ำเลิศทุกแขนงมาไว้กับตัวดุจธรรมชาติสรรสร้าง ความสะสวยไม่ต้องพูดถึง ความหยาดเยิ้มยิ่งไม่ต้องกล่าวอ้าง สตรีสะคราญโฉมแพรวพราวเช่นนี้เกาหมิงหรือจะต้านทานเสน่หาดั่งมนต์มารได้ เสี่ยวเหยาจึงได้เข้าจวนเกามาเป็นอนุคนโปรดของเกาหมิง เปลวเพลิงแห่งริษยาของสตรีล้วนมีอยู่จริงทุกหย่อมหญ้า จากสตรีนางน้อยน่ารักสดใสช่างจำนรรจาให้คนตกบ่วงเสน่หา จางจิ่วเม่ยแทบคลุ้มคลั่งกลายเป็นสตรีบ้าเพราะเสี่ยวเหยา เกาหมิงคล้ายมองเห็นจางจิ่วเม่ยแปลกแปร่งไปในทุกวันก็เริ่มเบื่อหน่ายมิค่อยเข้าใกล้นางเหมือนก่อน เสี่ยวเหยาทางหนึ่งยุแยงจางจิ่วเม่ยด้วยฝีปากอันเลิศล้ำ แต่อีกทางหนึ่งปรนนิบัติเอาใจเกาหมิงอย่างหวานล้ำช่ำชอง บุรุษยามลุ่มหลงรูปลักษณ์กลิ่นเสียงล้วนอ่อนแอมีช่องโหว่ และบุรุษที่เป็นขุนนางต่อให้เปลือกนอกสัตย์ซื่อมือสะอาดปานใด แต่เพื่อผลงานยิ่งใหญ่ล้วนมิแคล้วมีความผิดซุกซ่อนอยู่ เกาหมิงล้วนเป็นเช่นที่กล่าวมา อี้หานค่อยๆ รวบรวมความผิดของเกาหมิงขึ้นทูลต่อชินอ๋องครองเมือง คดีความเรื่องต่างๆ ถูกส่งให้กรมอาญาประจำผิงโจวทันที จ้าวเฟิงฉีเอาคืนให้หลินซูซินหนักมืออย่างยิ่ง นางตาย แต่ผู้อื่นต้องอยู่ชดใช้แบบตายทั้งเป็นกันถ้วนหน้า เกาหมิงถูกยึดตำแหน่งริบทรัพย์จองจำในคุกตลอดชีวิต สกุลเกาถึงขั้นล่มสลาย ฮูหยินผู้เฒ่าตรอมใจจนล้มป่วยใกล้ตาย จางจิ่วเม่ยหนีหายไร้ร่องรอย ใช้ชีวิตอัปยศอดสูอยู่ที่ใดก็สุดรู้ ทุกคนล้วนมีชีวิตแบบอยู่มิสู้ตาย อยากตายแต่มิได้ตาย ต้องใช้ชีวิตอย่างทรมานยิ่งกว่าวิญญาณในขุมนรก แม้ได้แก้แค้นสาสมใจ แต่ติงอี้เทากลับเห็นเหลนชายยังคงไร้ความสุข ต้องดื่มเหล้าดับทุกข์ เพราะทนคิดถึงคนตายในทุกวัน ท่านผู้เฒ่าเพิ่งได้ล่วงรู้ว่าจ้าวเฟิงฉีบุรุษแข็งกระด้างผู้นี้ ถึงกับมีรักที่ฝังอยู่ในใจกับใครบางคนลึกล้ำปานนั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม