ปฐมบท 1 รักฝังใจ
มีนิทานประโลมโลกอยู่เรื่องหนึ่ง
ตัวเอกผู้หญิงแอบมีรักปักใจกับตัวเอกผู้ชายมานานหลายปี นางที่อายุเพียงสิบสามแต่กลับมีความพยายามเข้าหาเขาทุกทาง พยายามสร้างเหตุการณ์ที่จะได้เดินเคียงไหล่เขามาโดยตลอด นางไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคนานัปการ นับเป็นตัวเอกที่น่าสงสาร
ในขณะที่ตัวเอกฝ่ายชายนั้น เขาค่อยๆ เห็นถึงความจริงใจในตัวสตรีนางน้อยที่คอยแสดงออกถึงความพยายามอย่างไม่ย่อท้อความรักของทั้งสองรอวันผลิบานผ่านระยะทางคือความต่างวัย เพราะฝ่ายชายอายุยี่สิบสามปีมีหน้าที่มากมายที่ต้องรับผิดชอบ หนึ่งในนั้นคือแต่งภรรยาตามคำสั่งบุพการี...สตรีผู้ที่เปรียบเสมือนอุปสรรคขวากหนาม คล้ายนางมารซึ่งกางกั้นมิให้ตัวเอกได้รักกัน
นิทานเรื่องนั้น กำลังเกิดขึ้นจริงในชีวิตของพวกเขา
“เรื่องของพวกเราเป็นไปไม่ได้ เจ้าก็รู้” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างสำรวมถือตัว ทว่าในน้ำเสียงกลับแฝงความอ่อนอกอ่อนใจเอาไว้ แววตาคมที่สุขุมเยือกเย็นเพียรซ่อนแวววูบไหวมิให้นางเห็น
สาวน้อยเม้มปากพยักหน้าเบาๆ พยายามกลั้นน้ำตามิให้ไหลออกจากดวงตาคู่งาม “ข้าย่อมทราบ เพียงแต่ครั้งยังเยาว์ก็มีแค่ท่านที่ข้าผูกพันธ์จนฝังใจ จะให้ทำอย่างไร?”
หนึ่งฉุดรั้งหนึ่งผลักไส หลังจากรุกไล่กันมาโดยตลอด เนิ่นนานกับการทนทุกข์ ฝ่ายหญิงก็เริ่มเหนื่อยใจ นางเริ่มไม่ไหว จึงปรารถนาถอดใจจากชายอันเป็นที่รัก ค่อยๆ ถอยห่าง
แม้นางจะมาก่อนแล้วอย่างไร รักตั้งแต่เด็กแล้วอย่างไร
นางตามติดเขามานานจนเกินไป...
ในขณะที่ฝ่ายชายกลับรู้สึกว่าชีวิตคล้ายขาดสิ่งสำคัญไป เขาเริ่มมองหานางตามเส้นทางที่เคยพบเจอ
ครั้นพบพาน สาวน้อยที่เคยยิ้มหวาน เข้าหาเขาอย่างซุกซนเอาแต่ใจ กลับเมินเฉยเย็นชา สาดวาจาคล้ายกริชน้ำแข็งเข้าใส่
“ข้ากับท่าน เราสองอย่าเจอกันอีก นั่นจึงนับว่าดีที่สุด”
นางพูดจบก็ผินหน้าเดินหนี กล่าวเสียงสั่นเทาอันแผ่วเบาอีกว่า “เรื่องของเราควรจบเสียที”
กิริยาหนีห่างเช่นนี้ มีหรือเคยทำ แต่เมื่อถึงวันที่นางตัดใจ กลับเป็นเขาที่ฉุดรั้งอย่างที่ไม่เคยต้องทำกับใคร
“เจ้า...ช้าก่อน” ใบหน้าสุภาพหล่อเหลาที่เคยราบเรียบบัดนี้เผยความสับสนและสั่นคลอน
สาวน้อยหลับตา ปล่อยน้ำสีใสรินไหลอย่างช้าๆ
“ข้าพอแล้วกับความปวดใจที่ต้องเผชิญ การรักท่านแต่ต้องฝังความรู้สึกลึกล้ำไว้เพียงแค่ในใจ ข้าเหนื่อยเหลือเกิน”
แววตาบุรุษวูบไหวยากระงับจนเผยออกมาซึ่งความนัยอย่างที่ไม่เคยเป็น
ความนัยนั้น ตลอดเวลา นางเห็นและสัมผัสได้ทุกอย่าง รับรู้ทุกสิ่งว่าเขาคิดเช่นไรกับนาง
เพียงแต่ด้วยหน้าที่ของบุตรชายที่ดี เขากลับ...
“ท่านเป็นบุรุษปากไม่ตรงกับใจ”
สาวน้อยต่อว่าอย่างตรงไปตรงมา ก่อนสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขา เริ่มโวยวายน้ำตานองหน้า
“ความรักที่ต้องฝังให้ลึกสุดใจ เปิดเผยมิได้แม้แต่ห้องหับลับตาคน ข้าเกินทนแล้วรู้หรือไม่? ปล่อยข้า!”
“ไม่!” บุรุษที่เย็นชาผลักไสนางอย่างไม่ไยดีมาโดยตลอด บัดนี้กลับจับมือนางไว้อย่างหวงแหน “เจ้าได้โปรด อย่าไป!”
“ปล่อยข้านะ”
“ไม่!”
ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชาก สาวน้อยดิ้นรนหมายให้หลุดพ้นเพื่อตัดขาดนิรันดร์
ทว่ายิ่งนางรั้นฝ่ายบุรุษก็เริ่มหวาดหวั่นถึงการพลัดพราก จึงจับนางแล้วลากเข้าห้องปิดประตูกดร่างบางไว้กับผนัง ริมฝีปากพลันประกบปิด ตัดทุกการขัดขืน แต่เปิดเปลือยทุกความรู้สึกในห้วงอณูใจ เปิดเผยสิ่งที่เคยฝังเอาไว้ลึกสุดใจ
สาวน้อยชะงัก จากดิ้นรนจึงนิ่งขึง จากผลักไสกึ่งโอนอ่อนเริ่มตอบรับสัมผัสวาบหวามจากริมฝีปากสู่ปลายลิ้นหวานอย่างเต็มใจ
นี่มิใช่จุมพิตแรกระหว่างนางกับเขา เพียงแต่เป็นครั้งแรกที่เขาจุมพิตนาง ทุกคราล้วนเป็นนางที่ทำการอุกอาจอย่างเหิมเกริม เขาเพียงตอบรับนางอย่างเผลอไผลหนหนึ่งก็นับว่ามากเกินพอแล้ว
“เรื่องของเรา เจ้ารอข้า ได้หรือไม่?” บุรุษถามเสียงพร่าขณะริมฝีปากยังแนบชิดคลอเคลีย “ส่วนข้าก็จะรอเจ้าเช่นกัน...”
สาวน้อยหลับตาซึมซับสัมผัสหวามที่แสนอบอุ่นอ่อนโยน สำหรับนางเพียงได้เคียงข้างเขา จะฐานะใดล้วนไม่เกี่ยงทั้งนั้น
อุปสรรคทางรัก นางจะปล่อยให้เขานำพาขจัดขวากหนาม หวังเพียงมิต้องฝังไว้แค่ในใจก็พอ...
คืนวันผันผ่าน เขาแต่งงาน นางเฝ้ารอ...
“ในที่สุด ข้ากับท่านจะได้รักกันแล้วใช่ไหม?”
“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องหลบซ่อนมาโดยตลอด”
“ไม่โทษท่าน แค่วันนี้ได้รักท่าน ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”
ชายหนุ่มโอบกอดนางไว้แนบอกอย่างซาบซึ้ง ทว่าก้นบึ้งของแววตากลับรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น
ขณะที่สาวน้อยซึ่งบัดนี้เติบโตเพื่อเขามีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ยามแนบใบหน้ากับแผงอกอบอุ่นที่ถวิลหาช่างสุขใจหาใดเทียม
และแล้วเราสองก็ได้แต่งงานกัน นางได้เป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องเหมาะสม
รัก...ที่แค่ฝังใจ จึงถึงคราวเปิดเผยสู่ธารกำนัลอย่างสง่างาม