“ท่านอ๋องพอได้แล้วเพคะ” สตรีโฉมสะคราญแม้จะควบคุมอารมณ์ตัณหาไม่ค่อยได้ แต่นางก็รู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ควรหยุดการกระทำทั้งหมดลง มิเช่นนั้นสิ่งที่พยายามหลีกหนีจะกลับเข้าสู่วังวนเดิม ทว่าสิ่งใดก็มิอาจห้ามหานเถิงซีให้หยุดได้ เขาเลียที่กึ่งกลางสตรีจนเปียกชุ่มไปหมด แน่นอนว่าหักห้ามใจไม่อยู่แล้ว
ขันทีเหลียนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกเห็นว่าท่านอ๋องนั้นลงจากรถช้ากว่าปกติก็เป็นกังวลใจ เกรงว่าจะเมาสุรามากจนลุกไม่ไหว
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” เสียงของขันทีเหลียนดังใกล้เข้ามา ถางเมิ่งหรูที่กำลังใกล้ถึงจุดหมายก็รีบใช้เท้ายันไหล่หานเถิงซีออกทันที นางตกใจกลัวเกรงว่าขันทีจะเข้ามาเห็นเรื่องที่ไม่สมควรนี้
“โอ๊ย!” หานเถิงซีตกลงที่นั่งล้มก้นจ้ำเบ้า ในสภาพเปลือยท่อนบนส่วนท่อนล่างนั้นมีกางเกงอยู่ครบ ถางเมิ่งหรูแม้ว่าจะเสียดายที่ไปไม่ถึงสวรรค์ชั้นฟ้า แต่นางก็รวบรวมสติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้! จะปล่อยให้เรื่องทั้งหมดเลยตามเลยไม่ได้” ร่างบางส่ายหน้าไล่ความรู้สึกแปลกประหลาดแล้วรีบเก็บเสื้อคลุมตัวนอกมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ...” ขันทีเหลียนเห็นว่าพระชายาเสด็จออกมาก่อน ทว่าการแต่งกายดูแปลกไปไม่เป็นปกติ ถางเมิ่งหรูไม่พูดอะไร แต่รวบรวมเรี่ยวแรงที่ยังเหลืออยู่เดินเข้าจวนไปในทันที อาการเมาสุรายังคงมีอยู่ สติสัมปชัญญะเริ่มจะเลือนรางกระทั่งมีฝ่ามือหนามารวบที่เอวคอดกิ่วเอาไว้ก่อนที่จะหน้ามืดล้มหน้าคะมำ
“เจ้าจะรีบไปที่ใดกันเล่า...” เสียงทุ้มที่ดังชิดริมหูถางเมิ่งหรูสัมผัสได้ว่ามีความไม่พอใจเจือปนอยู่ และไม่นานตัวของนางนั้นก็ลอยขึ้นมา
“ท่านอ๋องจะพาหม่อมฉันไปที่ไหนกันเพคะ” โฉมสะคราญยังรู้สึกมึนศีรษะเล็กน้อย อาการพวกนั้นเริ่มกลับมาอีกแล้ว แต่ทว่าร่างสูงไม่ยอมตอบคำถาม เขาอุ้มนางขึ้นมาแล้วพาเข้าไปในตำหนักใหญ่ท่ามกลางความประหลาดใจของเหล่าขันทีและนางกำนัลที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนัก
“ขันทีจางรีบไปเตรียมน้ำร้อนให้เต็มสระ ข้ากับพระชายาจะแช่ตัว” จวิ้นอ๋องเอ่ยจบก็เดินผ่านหน้าขันทีคนสนิทไปราวกับว่าเขาเป็นธาตุอากาศ ขันทีจางยืนอ้ำอึ้งสักพักก็รีบสั่งให้นางกำนัลไปเตรียมต้มน้ำร้อน
ร่างสูงอุ้มร่างบางเข้าห้องบรรทมทั้งที่ร้อยวันพันปี เขาไม่เคยอนุญาตให้นางเข้ามาก่อน “ปละ ปล่อยเพคะ” ถางเมิ่งหรูพยายามต่อต้านขัดขืน เมื่อถูกวางลงบนเตียงนอน นางก็รีบเคลื่อนตัวไปทางปลายเตียงทันที
“เจ้าถูกวางยา ข้าก็ถูกวางยา พวกเราช่วยกันปลดปล่อยมันไปจะไม่ดีกว่าหรือ” หานเถิงซีพูดกับถางเมิ่งหรูด้วยเหตุผล เขาเริ่มฝืนได้บ้างแล้วพยายามอย่างยิ่งที่จะอดทนอดกลั้น
ร่างบางที่มีเพียงเสื้อคลุมตัวนอกห่อหุ้มร่างกายรีบส่ายหน้าปฏิเสธ นางก็ต้องการเขามาก แต่ว่าไม่อยากให้โชคชะตาทั้งหมดหมุนวนกลับไปเหมือนเก่าก่อนอีกแล้ว
“ไม่เพคะ พวกเราไม่ได้รักกัน ท่านอ๋องไม่เคยชอบหม่อมฉัน ถ้าหากไม่รักก็อย่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันให้ปวดใจเลย” เมื่อแข็งใจพูดจนจบถางเมิ่งหรูก็ลุกขึ้นจะเดินกลับเรือนหลังเล็กที่ตั้งอยู่ท้ายจวน ทว่าทั้งตัวของนางกลับถูกดึงรั้งไว้แล้วเหวี่ยงลงบนเตียงนุ่มอย่างรวดเร็ว โดยมีหานเถิงซีคร่อมทับตัวเอาไว้ไม่ยอมให้เด็กดื้อหนีไปที่ใดได้
“ไม่ได้รักหรือ...” แววตาจวิ้นอ๋องนั้นดูเปลี่ยนไปมาก มันดูน่ากลัวก็ไม่ใช่ จะดูเสียใจก็ไม่เชิง
“อย่าทำแบบนี้เลยนะเพคะ” เนื้อตัวของถางเมิ่งหรูสั่นเทาด้วยฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัด อาการร้อนรุ่มหวนกลับมาอีกแล้ว เมื่อหลับตาลงก็ปรากฏภาพของชาติก่อนขึ้นมา ตอนจวิ้นอ๋องแตะต้องนาง ทั้งหมดไร้ความรักแม้ว่าคืนนั้นเขาจะทำอ่อนโยนด้วยแต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง นางจึงไม่อยากเจ็บปวดเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจ้องใบหน้างดงามใกล้ ๆ คำพูดขององค์ชายแปดที่สารภาพรักกับถางเมิ่งหรู แม้กระทั่งสายตาของบุรุษหลายคนให้ความสนใจในตัวนาง ทำให้หานเถิงซีรู้สึกปั่นป่วนอยู่ในใจ
“หรือว่าเจ้ากับหานหรงชิงจะสวมหมวกเขียวให้ข้ามานานแล้ว” อยู่ดี ๆ กลิ่นน้ำส้มก็คลุ้งไปทั่วห้อง จากนั้นหานเถิงซีก็ก้มลงมาประกบริมฝีปากถางเมิ่งหรูไม่เปิดโอกาสให้นางแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น
“อะอื้อ!” นัยน์ตาหงส์เบิกโพลงด้วยความตกใจ นางพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คล้อยตามไปกับเขา ทว่าก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน ฝ่ามือหนารวบข้อมือสตรีไว้เหนือศีรษะป้องกันการต่อต้าน ลิ้นร้อนของหานเถิงซีล่วงล้ำเข้ามาอย่างง่ายดาย ทำให้สติสัมปชัญญะถางเมิ่งหรูเลือนรางไปชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของพวกเขาเต้นแรง มีความรู้สึกแปลกประหลาดจู่โจมเข้ามา
“อย่าลืมว่าข้าเป็นพระสวามีของเจ้า” คำพูดประโยคนี้ทำให้ถางเมิ่งหรูพูดสิ่งใดไม่ออกรู้สึกเถียงไม่ได้
ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนมาที่ลำคอขาวแล้วขบเม้มด้วยความใคร่รวมทั้งมันเขี้ยว ถางเมิ่งหรูเม้มริมฝีปากล่างแน่นไม่ยอมให้เสียงครางกระเส่าหลุดออกมา หานเถิงซีเห็นถางเมิ่งหรูนอนนิ่งไปก็ขมวดคิ้วพันกันแน่น สีหน้าท่าทางดูฝืนอย่างมาก
“เจ้าไม่เต็มใจหรือ? หากไม่เต็มใจก็ออกไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้!” อยู่ ๆ จวิ้นอ๋องก็มีโทสะ ถางเมิ่งหรูสั่นไปทั้งตัวไม่ใช่ว่านางหวาดกลัวแต่พิษยาปลุกกำหนัดกำลังออกฤทธิ์เต็มที่ ทว่าก็ฝืนทำเหมือนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
“มะ หม่อมฉันทูลลาเพคะ” แต่นางก็เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี รีบลุกขึ้นมาควานเอาเสื้อคลุมที่หลุดไปกลับมาสวมคืน การกระทำของโฉมสะคราญทำให้เขาอึดอัดใจ
ร่างบางเดินอย่างเชื่องช้าไปที่ประตูเนื้อตัวสั่นสะท้านคล้ายจะควบคุมไม่อยู่ แต่สุดท้ายร่างสูงก็เดินมาช้อนมืออุ้มเอาไว้ ถางเมิ่งหรูอยากขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้
“เจ้ายังไปไม่ได้เพราะว่าข้าเปลี่ยนใจแล้ว” หานเถิงซีพูดเพียงเท่านั้นก็อุ้มถางเมิ่งหรูไปที่ห้องสรงน้ำ เพราะรู้ว่าค่ำคืนนี้ยากลำบากแล้ว ขันทีจางที่ยืนเฝ้าหน้าห้องบรรทมรีบเดินตามหลังมาทันที
“เตรียมน้ำร้อนใกล้เสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีจางไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ แม้กระทั่งจะแอบมองพระชายาก็มิกล้า เกรงว่าจวิ้นอ๋องจะไม่พอพระทัย
ภายในห้องสรงน้ำที่มีสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำร้อนที่ถูกผสมเข้ากับน้ำเย็นกลายเป็นน้ำอุ่นก็เกิดไอน้ำระเหยขึ้นเป็นหมอกจาง ๆ พวกนางกำนัลจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้นพอดี
“ออกไปให้หมด ไม่ต้องให้ใครมาเฝ้าหน้าห้องทั้งนั้น” หานเถิงซีตวาดเสียงดัง ในขณะที่วางร่างบางลงในสระน้ำอุ่น พวกนางกำนัลก้มหน้าลงไม่กล้าสอดส่ายสายตามอง
“เพคะ” จากนั้นนางกำนัลทั้งหมดก็รีบเดินออกจากห้องสรงน้ำแล้วปิดประตูมิดชิด ไม่มีใครกล้าฝืนคำสั่งยืนเฝ้าหน้าห้องสรงน้ำแม้แต่คนเดียว
ถางเมิ่งหรูหายตัวสั่นเมื่อได้แช่ร่างในน้ำอุ่น นางจึงรีบลูบไปตามตัวเพื่อคลายความทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด ส่วนหานเถิงซีถอดชุดคลุมกายโยนทิ้งไปบนขอบสระน้ำ ท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าน่ามองไม่น้อย จากนั้นก็รั้งเอวคอดกิ่วให้เคลื่อนเข้ามาใกล้กัน
“ทะ ท่านอ๋อง” นัยน์ตาหงส์ช้อนมองดวงหน้าหล่อเหลาแช่มช้าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ภายในหัวใจ
“มองข้าเช่นนี้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่” จวิ้นอ๋องตัดสินใจจะร่วมหอกับพระชายาในคืนนี้ คืนที่พวกเขาต่างก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น