จังหวะเดียวกัน
“จะปล่อยหรือไม่ปล่อยพี่อัง” ปอป่านก็ง่วนกับการขัดขืนอังศุมา เธอถามเสียงแข็ง หญิงสาวไม่ได้สังเกตหน้าตา อาการ และท่าทางของคุณอาเฟื่องรัตน์เลยด้วยซ้ำไป
“ไม่ค่ะ อังไม่ปล่อย คุณป่านกลับขึ้นห้องไปเถอะค่ะ อย่าดื้อเลยนะคะ เชื่อพี่อัง” น้ำเสียงขัดใจแต่เต็มไปด้วยความกริ่งเกรง
“ทำไมฉันต้องเชื่อพี่ หึ... ก็ได้เลย อยากเจอดีใช่ไหม ก็เอาสิ... หึ... นี่แน่ะ...”
ปอป่านกระทืบรองเท้าส้นสูงลงไปที่หลังเท้าของอังศุมาอย่างแรง
“โอ๊ย...” อังศุมาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มือที่จับรัดปอป่านเอาไว้ปล่อยไปทันที ก้มตัวลงไปนอนกลิ้งจับไปที่หลังเท้าของตัวเองที่เจ็บปวด
“สมน้ำหน้า” เธอหันไปมองอังศุมาอยู่นิดหนึ่ง ก่อนจะเดินฉับ ๆ ตรงไปที่ประตู
ธราเทพเดินตรงเข้าไปหาปอป่านที่กำลังเดินลิ่ว ๆ ออกไปที่ประตู มือหนาใหญ่เหมือนคีมเหล็กหนีบเข้าไปที่แขนทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะหิ้วปีกเธอขึ้น หมุนร่างเล็ก ๆ ที่พยายามดิ้นหนีเอาตัวรอด ตรงขึ้นไปทางบันไดเพื่อไปยังห้องของเธอ
“ไอ้บ้า แกปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ แกจะทำอะไรฉัน อย่าคิดนะว่าเป็นคู่หมั้นแล้วจะทำอะไรฉันก็ได้ ฉันไม่มีวันยอมหรอก ไอ้คู่หมั้นกำมะลอ ไอ้... % $ #...” เธอดิ้นทุรนทุรายอยากไปจากกรงเล็บของเขา และพรั่งพรูคำด่าที่เจ็บปวดออกมาจากริมฝีปากสีแดงนั้นมากมาย
ตัวของปอป่านลอยขึ้นอยู่ในอ้อมแขนของธราเทพ เขาพาดเธอเอาไว้กับบ่ากว้างของเขา ฝ่ามือใหญ่ก็ตีลงไปที่แก้มสะโพกแน่น ๆ ของเธอด้วย
ปอป่านโกรธมาก ไม่เคยมีใครทำกับเธอแบบนี้ สองกำปั้นของหญิงสาวทุบไปบนแผ่นหลังของเขาดัง ปึก ปึก แต่ร่างหนาใหญ่ไม่สะทกสะท้านเลย
ที่ห้องรับแขก
เฟื่องรัตน์เซพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างทรมาน อาการของเธอดูแย่มากจริง ๆ
“อังไปบอกให้บรรเจิดเอารถออก เราต้องไปส่งคุณเฟื่องที่โรงพยาบาล เร็ว”
อังศุมาลนลานวิ่งออกไปตามคำสั่งของคุณผ่องอย่างรวดเร็ว
“ยายป่าน” เฟื่องรัตน์ยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับหลานสาว
“โธ่... คุณเฟื่องเป็นห่วงตัวเองนะคะ เรื่องของคุณหนูป่าน วางใจให้คุณธามจัดการนะคะ” คุณผ่องจ้องมองดูใบหน้าของคุณเฟื่องรัตน์แล้วน้ำตาไหล เธอเลี้ยงของเธอมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
“คุณเฟื่องต้องรักตัวเองนะคะ”
“โอ๊ย... ป้า เฟื่องปวด...” ตอนนี้ตัวเธอซีดจนเป็นสีขาวไปหมดแล้ว ก่อนจะสติดับวูบ
“ใครก็ได้ เร็วเข้า”
ห้องนอนของปอป่าน
ธราเทพโยนร่างบอบบางในชุดแสนเซ็กซี่นั้นลงไปบนเตียง
ตุบ...
“ว้าย... กรี๊ด...” เธอทั้งตกใจ เจ็บจุก และกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บใจ
หมอนที่มีอยู่บนเตียงถูกเจ้าของขว้างเข้าใส่ธราเทพจนหมดบนเตียงด้วยใบหน้าที่แดงเถือกด้วยความโกรธ
“เลว... สารเลว...” ปากคอยังเราะร้ายว่าให้เขา ปอป่านรีบมองหาสิ่งอื่นที่พอจะทำร้ายเขาได้
‘โคมไฟ’
เธอกระโจนเข้าไปยังโคมไฟ แต่ช้ากว่าธราเทพ เขาคว้าข้อมือน้อย ๆ ที่ตั้งใจจะทำร้ายเขาให้ได้รับบาดเจ็บ
“ปล่อยฉัน โอ๊ย...” แรงที่บีบอยู่ที่ข้อมือทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ทุกอย่างมันย่อมมีเหตุและผล แล้วคุณควรจะฟังคนอื่นเขาบ้าง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะสกัดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้เต็มที่ เพราะหน้าตาก็แดงก่ำปรากฏให้เห็น
“อะ... ไอ้...” เธอกำลังจะขยับปากด่าทอเขาอีกครั้ง
ธราเทพยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ตรงไปที่ใบหน้าของเธอ
“หยุด... อย่าเชียวนะ” เขาปรามเธอ
หญิงสาวหายใจฟึดฟัดด้วยความเจ็บใจ
“ไอ้บ้า...” มีหรือที่ปอป่านจะเชื่อและฟังเขา
สองมือที่แข็งแกร่งตะครุบลงไปบนตัวเธอ ก่อนจะทิ้งทั้งร่างทับร่างเล็ก ๆ ที่นั่งอยู่บนเตียงกำลังยื้อยุดกับเขา
ตุบ... แผ่นหลังเล็ก ๆ กระทบลงไปบนที่นอน ตามด้วยร่างใหญ่ที่โถมทับเข้ามาเต็ม ๆ
“อึก... อุบ...” ริมฝีปากสีแดงของเธอถูกปิดลงไปด้วยริมฝีปากหนาและร้อนรุ่มของธราเทพ
“อื้อ..... (ไอ้บ้า)...” เสียงที่ดังอื้ออ้าอยู่ในลำคอ อยากจะด่าเขาแบบนี้
ริมฝีปากของธราเทพบดขยี้เหมือนจะสั่งสอนให้หญิงสาวที่ปากดีหยุดทุกคำพูดให้มันกลืนหายเข้าไปในลำคอ ไม่ให้ส่งเสียงใด ๆ ที่จะลั่นออกมาด่าทอเขาอีก ปลายลิ้นที่สอดแทรกและควานหาความหวานในโพรงปากของเธอ ทำให้ปอป่านตกใจ เธอดิ้นรนอยู่ใต้ร่างของเขา แต่ก็แพ้แรงของคนตัวใหญ่
ธราเทพแสดงตัวตนให้เธอเห็นว่านับจากวันนี้ไป ปอป่านเป็นของเขา และควรจะต้องอยู่ใต้อาณัติของเขา ไม่ใช่มายืนเถียงหรือด่าทอเขาฉอด ๆ
เธอใช้แรงที่มีอยู่ผลักอกของเขาออกอย่างแรง ธราเทพผละออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาวอย่างเสียดาย
ลิปสติกสีแดงถูกละเลงจนเลอะปากของทั้งคู่
ปอป่านถลันตัวลุกขึ้นนั่งได้ ก็ส่งฝ่ามือน้อย ๆ ตีกระทบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มทันที
เผียะ...เผียะ... เขาถึงกับหน้าหันไปตามแรงมือ
น้ำตาของปอป่านไหลริน เธอยกหลังมือขยี้ปากตัวเองเหมือนจะให้ร่องรอยของธราเทพที่ประทับลงมาให้หมดไป
“ออกไป” เธอตะโกนลั่น
แวบนั้น ธราเทพมองใบหน้าของหญิงสาวมีแววเสียใจ แต่ก็แค่แวบเดียว เขาลุกขึ้นหยิบทิชชูใกล้ ๆ ขึ้นมาเช็ดที่ริมฝีปาก
“ถ้ายังมีพฤติกรรมแบบนี้ ก็จะถูกขังอยู่ในห้องนี้ จนกว่าคุณป่านจะทำตัวดีขึ้น และเชื่อฟัง”
“กรี๊ด...” เธอกรี๊ดลั่น ยกสองมือขึ้นทุบบนที่นอนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะซบหน้าลงไปร้องไห้สะอึกสะอื้นทำตัวเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต และไม่มองหาเหตุผลอะไรทั้งนั้น