“ยายป่าน หยุดก้าวร้าวกับคุณธามนะ” คุณเฟื่องรัตน์เรียกชื่อของหลานสาว และปรามเธอด้วยเสียงดัง
ปอป่านชี้หน้าธราเทพด้วยนิ้วมือและเนื้อตัวที่สั่นระริก เธอโกรธและรู้สึกเศร้าใจจริง ๆ กับเรื่องที่เธอไม่เต็มใจ หญิงสาวแสดงออกมาด้วยคำพูดที่แสนจะปวดร้าวของเธอด้วย
“ป่านต้องเชื่ออาสิ อาขอร้อง อาได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับป่านแล้ว”
สีหน้าและแววตาของปอป่านทั้งสิ้นหวังและเสียใจ รู้สึกสมเพชตัวเองเป็นที่สุด เธอปากคอสั่น น้ำตาไหลพราก ๆ
“ที่อาเฟื่องเรียกป่านให้กลับเมืองไทย ก็เพื่อสิ่งนี้หรือคะ เพื่อไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่หรือคะ มันทั้งทุเรศและบ้าบอที่สุด ก็เอาสิคะ ป่านจะทำให้อาเฟื่องและทุกคนรู้ว่า ป่านไม่มีวันยอม” เธอโมโหสุด ๆ แผลงฤทธิ์ออกมาไม่ไว้หน้าใคร
“ถ้าจะเป็นแบบนี้ อาเฟื่องทำไมไม่แต่งกับเขาเสียเองล่ะคะ ทำไมต้องเป็นป่าน ถ้าเขาคือคนที่ดีที่สุด อาเฟื่องควรเก็บเขาเอาไว้เอง ไม่ใช่มายัดเยียดให้ป่านแบบนี้ ป่านก็มีหัวใจ มีความรู้สึกนะคะ ฮือ...” หลานสาวสะบัดตามองเฟื่องรัตน์ด้วยความน้อยใน และฟาดสายตามองไปที่ธราเทพด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะวิ่งปึงปังขึ้นไปบนห้องของตัวเอง
เฟื่องรัตน์หน้าซีดราวกระดาษ ตัวเซเหมือนจะล้ม ยกสองมือขึ้นมาจับที่หัวของตัวเองจิกทึ้งผมของตัวเองอย่างแรง
“โอ๊ย...”
“คุณหนู” ป้าผ่องเข้ามาประคองเฟื่องรัตน์ นางเห็นสถานการณ์ทุกอย่าง แต่ช่วยเหลืออะไรใครไม่ได้ จ้องมองใบหน้าของเฟื่องรัตน์ด้วยความสงสารจับหัวใจ
“คุณเฟื่องเจ็บตรงไหนคะ อดทนนะคะ” น้ำเสียงของคุณผ่องสั่นเครือ
ธราเทพเข้าไปประคองเฟื่องรัตน์เอาไว้อีกคน พาเธอไปนั่งพักที่โซฟาตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด กิริยาอาการและแววตาของเขาดูเป็นห่วงเฟื่องรัตน์มากมาย
“โอ๊ย...” เฟื่องรัตน์ยกมือขึ้นกุมหัว ร้องโอดโอยขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
“คุณเฟื่องไปโรงพยาบาลเถอะครับ อย่าทนเลย” ธราเทพออกความคิดเห็น
เฟื่องรัตน์ยกใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดขึ้นมาสบตากับเขา
“นั่นน่ะสิคะ คุณหนูอย่าทำแบบนี้เลย ไปหาหมอ ไปรักษาตัวเถอะนะคะ” ป้าผ่องสีหน้าไม่ค่อยดี มองเฟื่องรัตน์ด้วยความเป็นห่วงจริง ๆ
“ขอให้เฟื่องจัดการเรื่องของยายป่านให้จบก่อนนะคะ”
“แต่ว่า...” ธราเทพไม่เห็นด้วย
“ธาม อาอยากจะขอร้องนะ ธามต้องดูแลยายป่าน แม้ว่ายายป่านจะทำให้ธามเสียใจ หรือทำอะไรร้าย ๆ กับธาม อาขอให้ธามใจเย็น ๆ อารักยายป่านที่สุด สิ้นบุญอาแล้ว ยายป่านก็ไม่มีใคร อาเชื่อใจธามที่สุดนะรู้ไหม อามองไม่เห็นใครอีกแล้ว” เฟื่องรัตน์น้ำตาคลอ
“คุณอาครับ ผมสัญญาครับ สิ่งไหนที่ผมรับปากกับคุณอาแล้ว ผมจัดการได้ ผมทำได้แน่นอน แต่เรื่องที่คุณอาไม่ยอมรับการรักษาตัวเอง ต่อจากนี้ไปผมจะไม่ยอมแล้วนะครับ”
สายตาของทั้งคู่สบกัน
ปัง... เสียงประตูปิดดังมาก
ตึง ตึง ตึง ตึง... เสียงวิ่งลงมาจากบันได
ปอป่านแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด แต่งหน้าจัดจ้านปากแดงแจ๋ วิ่งลงมาจากด้านบน
“คุณป่านจะไปไหนคะ” ป้าผ่องถาม มือก็ยังประคองคุณเฟื่องรัตน์อยู่
“อัง อัง...” คุณผ่องเรียกผู้ช่วยด้วยเสียงอันดัง
อังศุมาที่ลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ รีบวิ่งออกมาจากมุมมืด
“ค่ะ มาแล้วค่ะ ทำอะไรคะคุณผ่อง” อังศุมาทำเลิ่กลั่ก
“จับตัวคุณป่านเอาไว้” คุณผ่องออกคำสั่งกับอังศุมา
“อะไรนะ” ปอป่านตกใจกับคำพูดของคุณผุดผ่อง กำลังงงว่า ใครเป็นนาย ใครเป็นบ่าวกันแน่
อังศุมาทำหน้างง ๆ แต่ก็ปรี่เข้าไปจับตัวของคุณปอป่านเอาไว้
ปอป่านสู้ขัดขืน
“จะบ้าหรือไงพี่อัง ปล่อยป่านเดี๋ยวนี้ อยากเจอดีหรือไง” เธอดิ้นแรง
ปอป่านมองอังศุมาด้วยแววตาดุ แต่อังศุมาตัวใหญ่กว่าหนากว่าเหมือนทอมบอย ร่างบางจึงได้แต่ดิ้นกระทืบเท้าปึง ๆ
“ป่าน วันนี้อาขอร้องกลับขึ้นไปข้างบนซะ” ปากซีด ๆ พูดขึ้น น้ำเสียงแหบพร่า
“งานมงคลเพิ่งผ่านไป อย่าเพิ่งไปปาร์ตี้เลยนะ เดี๋ยวนักข่าวรู้เข้ามันจะไม่งาม” แววตาแกมขอร้อง
ปอป่านยิ่งเห็นอาการที่สนิทสนมของคุณอากับธราเทพแล้วก็ยิ้มหยัน ๆ
“อาเฟื่องไม่มีสิทธิ์มาบังคับป่านอีกต่อไปแล้วค่ะ นับตั้งแต่ที่อาเฟื่องทำแบบนี้กับป่าน” หญิงสาวคอแข็ง ปอป่านส่งสายตามองธราเทพตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“อาไม่ได้บังคับ อาแค่ขอร้อง กลับขึ้นไปบนห้องซะ” เฟื่องรัตน์อ่อนล้าเต็มทน แต่ก็ฝืนตัวเองไม่ให้อ่อนแอเต็มกำลังเพราะไม่อยากให้ปอป่านเห็น
ปอป่านยังคงดิ้น อังศุมาก็ยังรัดร่างเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้แน่น
“เหรอคะ ทำไมป่านจะต้องทำตามที่คุณอาสั่งด้วย” ปอป่านทำสีหน้าไม่พอใจ
ธราเทพมองสบตากับหญิงสาว ช่างพยศและแสนดื้อด้านขึ้นมาก ไม่เห็นเด็กหญิงปอป่านตัวเล็ก ๆ ที่ชอบวิ่งเล่นในสวนดอกไม้ของบ้านไร่บวรฤทธิ์ตอนเด็ก ๆ
“ผมขึ้นไปส่งคู่หมั้นของผมที่บนห้องได้ใช่ไหมครับ” เขาเอ่ยถามเฟื่องรัตน์ แต่ไม่ได้รอฟังคำตอบ
“คุณผ่องให้รถไปส่งคุณเฟื่องที่โรงพยาบาลด้วย เดี๋ยวผมจะตามไป” เขายังกระซิบสั่งให้เอาคุณเฟื่องรัตน์ส่งโรงพยาบาล เพราะตาของเธอลอยไปหมดแล้ว
“ค่ะ คุณธาม” ผ่องพยักหน้า