“ผมเข้าไปที่เรื่องของใจความสำคัญในพินัยกรรมที่เกี่ยวกับคุณป่านเลยก็แล้วกันนะครับ”
เมื่อทนายปภพเอ่ยถึงเธอ ปอป่านตั้งใจฟัง
“นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณปอป่านจะต้องไปทำงานที่บริษัทเฟื่องฟูคอร์เปอเรชัน ในฐานะกรรมการผู้จัดการ แต่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และเรียนรู้งานจากคุณธราเทพ”
“อะไรนะคะ” เธอโพล่งออกมาด้วยความแปลกใจ
“ยังไม่จบครับ” ทนายปภพสีหน้าจริงจัง ส่งสายตาปรามปอป่านที่ไม่รู้จักกาลเทศะ
“และถ้าคุณป่านไม่ยอมไปทำงานที่บริษัท สิทธิ์ทุกอย่างจะตกไปเป็นของคุณธราเทพตามประสงค์ของคุณเฟื่องรัตน์”
“หมายความว่ายังไง” ปอป่านถึงกับทำตาโต มองหน้าคุณอาสาวแบบไม่อยากจะเชื่อ หญิงสาวปากคอสั่นไปหมดแล้ว
“และเงื่อนไขอีกข้อสำหรับเรื่องของคุณปอป่าน คือคุณปอป่านต้องแต่งงานกับคุณธราเทพภายในปีนี้ และต้องมีทายาทหนึ่งคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ คุณป่านถึงจะได้รับมรดกที่คุณเฟื่องรัตน์จะมอบให้ครับ”
“.............” ปอป่านนิ่ง เธอถึงกับพูดไม่ออก อ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน แล้วที่น่าตกใจ ความคิดบ้า ๆ แบบนี้มันออกมาจากอาสาวของเธอได้อย่างไร
“มีคำถามไหมครับคุณปอป่าน” ทนายปภพส่งสายตาไปยังปอป่าน
“นี่ทุกคนจะทำอะไรกับชีวิตของป่านคะ ชีวิตเป็นของป่าน ทำไมต้องทำกับป่านถึงขนาดนี้ อะไรเข้าสิงคุณอาคะ อาเฟื่อง นี่ป่านนะคะ ป่านเป็นหลานของอานะคะ ทำไมต้องให้ผู้ชายคนนี้เข้ามาบงการเรื่องราวต่าง ๆ ในบ้านของเราด้วย” หญิงสาวปากสั่น ตัวชา กำหมัดในมือนิ่ง
“เงื่อนไขนี้ ถ้าป่านไม่อยากจะทำก็ไม่เป็นไร ก็คงต้องให้คุณทนายปภพจัดการตามที่อาได้ระบุไว้ ก็ตามนั้นเลยนะคะทนายปภพ”
“คุณอา” น้ำเสียงที่เอ่ยขานชื่อคุณอาแสนเศร้า น้ำตาของปอป่านพังทลายลงมา
‘มันเกิดอะไรขึ้นกับความคิดของอาเฟื่องตอนนี้กันแน่ และนายธราเทพคนนี้ เขาเป็นคนบงการอาเฟื่องทุกอย่าง ให้ทำแบบนี้ใช่ไหม ไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด’ เธอคิด
“ผมขอลายเซ็นในส่วนของคุณปอป่านด้วยนะครับ ถึงคุณปอป่านจะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ต้องเซ็น เพราะนี่เป็นไปตามประสงค์ของคุณเฟื่องรัตน์ แล้วตอนนี้คุณเฟื่องรัตน์ก็อยู่ต่อหน้าทุกคน คุณผุดผ่อง คุณธราเทพ ล้วนเป็นพยานได้”
ทนายปภพส่งปากการาคาแพงยื่นไปตรงหน้าของหญิงสาว
“ป่านไม่เซ็น” เธอมองทุกคนอย่างตัดพ้อ
“ก็แล้วแต่คุณนะครับ” ธราเทพพูดขึ้น ยิ้มเหมือนเยาะส่งมาให้หญิงสาว
ปอป่านกัดกรามแน่น
ทั้งคุณเฟื่องรัตน์และคุณผ่องถึงกับพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ นั่งลุ้นกันอยู่ว่า ปอป่านจะยอมรับข้อเสนอต่าง ๆ ไหม
ปอป่านตวัดปากกาออกมาจากมือของทนายปภพ จรดปากกาลงไปบนกระดาษแผ่นนั้นที่ระบุเป็นชื่อของเธอ หญิงสาวหันไปมองหน้าของธราเทพ ส่งสายตาร้ายและจองเวร
“ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ คุณอย่าหวังว่าจะฮุบอะไรที่เป็นของญาณประโพธิ์ไปเป็นของคุณแบบหน้าด้าน ๆ ได้แม้แต่ชิ้นเดียว ก็เอาสิ ระหว่างคุณกับฉัน เราสองคนต้องมาสู้กันสักตั้ง ดูสิว่าใครจะชนะ”
ปอป่านเซ็นชื่อของเธอลงไปอย่างรวดเร็ว
คุณอาสาวกับคุณผุดผ่องถึงกับถอนลมหายใจออกมา อย่างน้อยมันก็เป็นการการันตีได้ว่าปอป่านรับรู้ทุกอย่างแล้ว
“หมดเรื่องแล้วใช่ไหมคะ”
เธอหันไปมองหน้าของคุณอาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“ครับ” ทนายปภพตอบแทน
ปอป่านเดินปั้นปึ่งออกไปจากห้องตรงไปที่ห้องนอนของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เฟื่องรัตน์ถึงกับยกมือขึ้นกุมหัว
“คุณเฟื่อง” ผุดผ่องตกใจ
“พาคุณเฟื่องขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับ และคงได้เวลากินยาด้วย” ธราเทพลุกขึ้นก่อนจะสอดแขนอุ้มร่างของเฟื่องรัตน์ตรงไปที่ห้องของเธอ โดยมีคุณผุดผ่องตามไปติด ๆ
ทนายปภพจัดเอกสารต่าง ๆ ลงกระเป๋า รอการกลับลงมาของธราเทพอีกครั้งหนึ่ง
ปอป่านทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียง กรีดร้องด้วยความเจ็บใจซุกหน้าลงไปกับหมอนน้ำตาไหลพราก ๆ
“ทำไม ทำไมทุกคนทำกับป่านอย่างนี้ คอยดูนะ ป่านจะไม่มีวันยอม แล้วคนที่จะกระเด็นไปจากชีวิตของป่านก็คือไอ้ผู้ชายคนนั้น”
เธอกำหมัดในมือแน่นด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น
คุณพรรณรายถือตะกร้าใส่โถแกงเข้ามาในบ้าน
อังศุมาอยู่ใกล้ ๆ ออกมารับหน้า
“ทนายปภพมาทำอะไร” นางถามคนรับใช้ทันที
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของอัง” ปากก็ตอบ มือก็รับเอาของจากพรรณราย
อังศุมาก็รู้ว่าคุณพรรณรายไม่ค่อยมีพิษภัยเหมือนสามีของนางกับลูก ๆ แต่ก็ไว้ใจไม่ได้
สายตาของพรรณรายดูสอดส่อง
“คุณเฟื่องพักผ่อนอยู่ข้างบน กินข้าวแล้ว วันนี้คงไม่ลงมา คุณป่านก็อยู่ในห้อง รับอาหารกันหมดแล้ว แล้วคุณไก่เอาอะไรมาให้คะ” อังศุมาตอบแบบรู้ทัน
“แกงบวดฟักทองไก่บ้าน”
“มิน่า ห้อม หอม น่ากินเชียว”
“นี่อัง พอจะรู้ไหมว่าหนูป่านกับคุณธามเขาไปคบกันตอนไหน เมื่อวานนี้ที่งาน เขาประกาศหมั้นกัน พวกเราทั้งตกใจและแปลกใจกันทั้งบ้าน”
อังศุมายิ้มมุมปาก
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เรื่องของเจ้านาย บ่าวอย่างอังไม่อยากสอด” เธอกระทบเปรยเปรียบเหมือนว่าให้พรรณราย
คนถูกว่าก็รู้ตัว แต่ก็พูดให้หายเจ็บใจ
“โธ่เอ้ย... เคยรู้อะไรบ้างเนี่ย”
พรรณรายหัวเสียนิดหน่อยที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย
“ว่าแต่ว่า คุณไก่แค่เอาแกงบวดมาให้ใช่ไหมคะ พอดีว่าอังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องทำน่ะค่ะ ถ้าคุณไก่จะอยู่ต่ออีก คุณเฟื่องคงจะไม่ชอบใจแน่ ๆ ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะสำหรับแกงบวด” อังศุมาออกปากไล่