โตแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบ

1121 คำ
“ก็แค่สารภาพว่ารักคุณเฟื่อง และอยากแต่งงานกับเธอ” “เฮ้ย...” ธราเทพมีความประหลาดใจ เขาจับมือกับหมอมนัสแน่น “เรื่องจริง” มันเป็นโอกาสเดียวที่หมอมนัสควรพูดให้เฟื่องรัตน์ได้รู้ความจริงว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ “จริงที่สุด และกันต้องบอกเธอให้รู้ว่ากันรู้สึกยังไง อีกอย่างกันจะไม่ยอมให้คุณเฟื่องเป็นอะไร จะรักษาเธอจนสุดความสามารถ” “ขอบใจว่ะหมอ” “ใครจะปล่อยให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักหลุดมือ กันยังอยากพาคุณเฟื่องไปฮันนีมูนรอบโลกอยู่” หมอมนัสสีหน้าดูมีความหวัง “ในโลกนี้ไม่สิ้นความหวังหรอกไอ้หมอ” ทั้งสองยิ้มให้แก่กัน เมื่อกลับมาถึงบ้าน “ป่านอยู่ที่ไหน” เฟื่องรัตน์ถามหาหลานสาว “เอ่อ...” อังศุมาอึกอัก ก่อนจะตอบ “ยังอยู่ในห้องค่ะ” “ผมสั่งให้ล็อกห้องเอาไว้น่ะครับ” ธราเทพมองสบตากับเฟื่องรัตน์ “เมื่อเช้า อังเอาอาหารเข้าไปให้ ห้องเละเลยค่ะ” คุณผุดผ่องส่งสายตาดุ อังศุมาเลยถอยหลบออกไปจากตรงนั้น “จะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้ เรียกทนายปภพมาด้วยนะคะ” เฟื่องรัตน์สีหน้าหนักใจ “ผมจัดการเองครับ” ธราเทพรีบยกหูหาทนายปภพทันที หน้าห้องของปอป่าน “เปิดเลยครับคุณผ่อง” “ค่ะ” คุณผุดผ่องรีบเปิดประตูเข้าไป แค่บานประตูแง้มนิดเดียว เพล้ง... เสียงแตกของแก้วที่กระทบอยู่ที่ประตูดังขึ้น “คุณป่านคะ ป้าเองค่ะ” คุณผุดผ่องรีบเปล่งเสียง ก่อนจะเปิดประตูแง้มเข้าไป นางถึงกับตกใจกับห้องที่เละเป็นโจ๊กเหมือนดังที่อังศุมาบอก “โธ่... คุณหนูป่านคะ อย่าทำตัวแบบนี้เลยค่ะ” อังศุมาเดินตามเข้ามาอีกคน พร้อมกับอุปกรณ์เก็บกวาดและทำความสะอาด “รีบทำเร็วเข้า เก็บให้เรียบร้อย” คุณผ่องสั่งอังศุมา “ค่ะ ค่ะ” ปอป่านนั่งทิ้งหลังลงไปบนที่นอน เธอมองออกมาจากห้องนอน หญิงสาวคิดว่า อาเฟื่องคงจะเดินเข้ามาหาเพื่อปลอบใจเธอ แต่เธอกลับไม่เห็นอาสาวแม้แต่เงา ทันใดนั้น ธราเทพเดินเร็วเข้าไปในห้องถึงตัวปอป่านอย่างรวดเร็ว สองมือหนาจับยกแขนของเธอขึ้น ปอป่านยังไม่หายตกใจ จ้องมองเขาตาโปน แววตาชิงชัง “บ้าพอหรือยัง” เขาว่าให้เธอ สภาพเธอตอนนี้ยังคงดูไม่ได้ “บ้าแล้วจะทำไม ใครกันแน่ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ” “ทำตัวเองน่ะสิ เป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ ทำอะไรต้องรู้จักคิด ถ้าไม่พอใจอะไรต้องพูดกันด้วยเหตุผล” “เชอะ แล้วคุณกับอาเฟื่องมีเหตุผลอะไรที่มาบังคับฉันให้หมั้นกับคุณ แบบนี้ยังจะมาหาเหตุผลอะไรกับฉันตอนนี้” เธอลั่นปากว่าเขา โต้กลับแบบเสียงดังเช่นเดียวกัน “ถ้าอยากรู้ รีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวซะ แล้วไปเจอกันที่ห้องหนังสือข้างล่าง” เขาไม่พูดเปล่า แต่อุ้มร่างทั้งร่างของปอป่านตรงเข้าไปในห้องน้ำ “จะให้ผมอาบให้ หรือว่าคุณป่านจะอาบเองครับ” ธราเทพถามด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงสาวไม่ตอบ พอเท้าถึงพื้นยืนเองได้ ก็หันมาหาเรื่องคนตัวใหญ่ ยกสองมือผลักไปที่หน้าอกของธราเทพอย่างแรง จนร่างหนาเซถลาออกมานอกห้องน้ำ ตามมาด้วยเสียงปิดประตูใส่หน้าของเขาดังโครม อังศุมายกนิ้วหัวแม่โป้งให้กับธราเทพ แต่พอหันไปเห็นหน้าของคุณผุดผ่องก็หุบยิ้ม “คุณผ่องช่วยจัดการต่อให้เรียบร้อยด้วยนะครับ อย่าให้เกินหนึ่งชั่วโมง เพราะผมอยากให้คุณเฟื่องได้พักหลังจากที่พวกเราได้พูดคุยกันแล้ว” “ได้ค่ะคุณธาม” ปอป่านเดินเข้ามาพร้อมกับคุณผุดผ่อง “มานั่งตรงนี้มะ” เฟื่องรัตน์ตบมือลงไปบนเก้าอี้ข้างตัว ปอป่านยังงอนคุณอารีบเดินไปนั่งตัวที่ห่างออกไป ไม่ยอมสบตากับอาเฟื่อง เฟื่องรัตน์พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ เธอคงห้ามความคิดต่อต้านของปอป่านไม่ได้ ธราเทพนั่งลงไปบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ติดกับปอป่าน หญิงสาวหันมามองค้อน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน คุณผุดผ่องเดินไปยืนอยู่ข้างหลังของคุณเฟื่องรัตน์ “เชิญเลยครับทนายปภพ เริ่มเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ธราเทพรู้ว่าเฟื่องรัตน์เหนื่อยมาก จึงอยากจะจัดการเรื่องนี้ให้จบไปไว ๆ “วันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ที่ผม ทนายปภพ ในฐานะทนายความที่ดูแลทรัพย์สินของตระกูลญาณประโพธิ์ และทรัพย์สินส่วนตัวของคุณเอกสิทธิ์ คุณพ่อของคุณปอป่าน และทรัพย์สินส่วนตัวของคุณเฟื่องรัตน์มาโดยตลอด” ปอป่านหันไปมองใบหน้าของอาสาวที่ส่งยิ้มมาให้ เริ่มคิดว่า ‘ทำไมคุณอารีบทำพินัยกรรม’ เธอไม่เข้าใจ ส่งสายตามองหน้าอาสาวอย่างสงสัย “ผมจะมาแจกแจงข้อความสำคัญเท่าที่จำเป็นในขณะนี้ ในส่วนที่คุณปอป่านควรจะทราบเอาไว้ในพินัยกรรม” “ทำไมต้องทำพินัยกรรมคะอาเฟื่อง อาเฟื่องทำแบบนี้คือหมายความว่ายังไง ป่านไม่เข้าใจ อาเฟื่องยังแข็งแรง ยังทำงานได้ ทำไมต้องจัดแจงในเรื่องมรดกด้วย หรือคุณอาอยากผลักไสป่านไปให้ไกล ๆ คะ” ปอป่านลั่นความคลางแคลงใจออกมา ยังไม่วายต่อขานเฟื่องรัตน์ด้วย “อาคิดว่ามันเป็นเวลาที่สมควรแล้ว ป่านก็โตพอ ป่านต้องเป็นผู้ใหญ่ ป่านต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น” “คุณอายังมีเหตุผลที่มากกว่านี้อีกไหมคะ” เธอก็ยังตั้งแง่กับอาสาว “อะแฮ่ม... ผมขอขัดนิดหนึ่งนะครับทั้งสองท่าน เอาเป็นว่าอย่ามาถกเถียงกันให้เสียเวลาดีกว่านะครับ ถ้าคุณป่านมีคำถาม หลังจากนี้ค่อยถามกันก็ได้นะครับ” ทนายปภพเอ่ยปากเบรกเรื่องที่ทำท่าจะบานปลาย ปอป่านถอยตัวพิงหลังลงไปกับพนักเก้าอี้ ยังคงนั่งทำสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ ยังคงมองค้อนธราเทพเป็นระยะ ทุกคนจึงหันไปสนใจที่ทนายปภพ เฟื่องรัตน์เริ่มเวียนหัว แต่ก็ยังคงทำสีหน้าให้เป็นปกติ “ต่อเลยครับ” ธราเทพเอ่ยขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม