อดิศักดิ์ส่งยิ้มอบอุ่นให้หญิงสาว แต่ก็ได้รับสายตาฉุนกึกมาแทน สงสัยคงจะโกรธเรื่องที่เขาหาว่าเธอเป็นเด็กอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ความเป็นจริงสาวน้อยคนนี้ดูจะอ่อนเยาว์ก็เถอะ หากไม่บอกว่าอายุยี่สิบหกเขาก็คงคิดว่าอัคคีกำลังคิดจะพรากผู้เยาว์เป็นแน่
“ก็เออสิ...แล้วแกคิดว่าฉันจะพาใครมาล่ะ”
“จะไปรู้แกเหรอไอ้คีย์ หรือว่าแกมีมากจนนับไม่หวาดไม่ไหว”
“เฮ้ย! พูดบ้าๆ ฉันมีแต่หนูน้ำคนเดียวเท่านั้นนะโว้ย”
อัคคีร้องเสียงหลง สายตาก้มลงมามองวารินหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ไม่นึกว่าอดิศักดิ์จะเล่นเผาซึ่งๆ หน้าแบบนี้ สงสัยงานนี้เขาคงจะถูกสาวน้อยใจดวงใจเกลียดแน่ๆ แค่เห็นสายตาคู่สวยกลมโตที่เงยขึ้นมองเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่ากลัวหรอกนะแต่แค่ไม่อยากให้หญิงสาวเข้าใจผิดเท่านั้น
อดิศักดิ์สบตาเพื่อนสนิทแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่นึกเลยว่าอัคคีก็กลัวสาวน้อยคนนี้เข้าใจผิด สงสัยจะรักจริงหวังแต่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดออกมาเช่นนี้ ชายหนุ่มก้มลงมายิ้มให้คนตัวเล็กอย่างเป็นมิตร สายตาก็แอบพิจารณาใบหน้าจิ้มลิ้มกับดวงตากลมโต เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพื่อนที่ถึงได้หลงรักสาวน้อยคนนี้
“สวัสดีครับน้องน้ำ”
“สวัสดีค่ะคุณศักดิ์”
“เรียกพี่ไม่ได้หรือครับ เรียกคุณฟังดูห่างเหินจัง”
น้ำเสียงนุ่มบอกอย่างอ้อนๆ เรียกเพื่อนเขาว่า ‘พี่’ แต่ทำไมเรียกเขาว่า ‘คุณ’ ได้อย่างไรกัน แบบนี้ลำเอียงกันชัดๆ เขาไม่ยอมหรอก มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักมาเป็นน้องถือว่าโชคดีไม่น้อย อาจเพราะครอบครัวของเขามีแต่ลูกชายก็ได้ เขาก็เลยอยากมีน้องสาวเหมือนคนอื่นๆ บ้าง
รอยยิ้มอบอุ่นและสายตาที่อ่อนโยนของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้วารินต้องยิ้มตอบ นึกเปรียบเทียบระหว่างอัคคีกับผู้ชายคนนี้ ดูแล้วช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เหมือนชาตานกับเทพบุตรยังไงยังงั้น คนหนึ่งกริยานุ่มนวล น่าเข้าใกล้ แต่อีกคนเอาแต่ใจ บ้าอำนาจ ร้ายกาจ อยู่ใกล้ก็รู้สึกกลัว อดหวาดระแวงไม่ได้
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ”
“ดีมากครับน้องน้ำ”
“จะคุยกันอีกนานไหม ยืนจนเมื่อยแล้ว”
คนที่เหมือนอยู่นอกวงสนทนาพูดเสียงขุ่น เมื่อรู้สึกว่าสาวน้อยใจดวงใจให้ความสนิทสนมกับเพื่อนจนเกินเหตุ นี่ถ้าเขาไม่รู้ว่าอดิศักดิ์เป็นเกย์ เขาคงคิดว่าเพื่อนกำลังคิดจะจีบคนของเขา แต่ถึงจะเป็นเกย์เขาก็ไม่ไว้ใจหรอกนะ เกิดไอ้เพื่อนบ้านี่เกิดชอบวารินขึ้นมาแล้วเขาจะทำไง
อดิศักดิ์ละสายตาจากใบหน้าจิ้มลิ้มแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตามองเพื่อนด้วยสายตารู้ทัน คิดมาได้ยังไงว่าเขาจะจีบวาริน ในเมื่อก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเขามีคนรักแล้ว หึงไม่เข้าท่าแบบนี้มันน่าแกล้งเสียให้เข็ด แต่อย่าดีกว่าเดี๋ยวคนรักมาเห็นเข้า เขาขี้เกียจทะเลาะกันอีก
“เสียมารยาทนะคะพี่คีย์ พี่ศักดิ์เขาเป็นเพื่อนของพี่คีย์นะคะ ทำไมต้องพูดอย่างนั้นด้วย”
“แต่พี่เมื่อยแล้วนิครับหนูน้ำ”
“เมื่อยหรือสำออยค่ะพี่คีย์”
วารินเงยหน้าขึ้นถามอัคคีเสียงขุ่น ก่อนจะหันมาสนใจหนุ่มหล่อนิสัยดีอย่างอดิศักดิ์ต่อ เฮ้อ...ยิ่งเปรียบเทียบก็ยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่างสองหนุ่ม ช่างไม่น่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันเลย
...นรกกับสวรรค์ชัดๆ...
“อย่าทะเลาะกันเลย”
อดิศักดิ์เห็นสายตาขุ่นขวางของเพื่อนแล้วก็อยากหัวเราะ แต่ติดตรงที่สายตาเอาเรื่องนั้นต่างหากที่ทำให้เขาต้องเงียบ ลองไปหัวเราะสิมีหวังเขาคงจะถูกโกรธ จนต้องทะเลาะกันอีก ไม่นึกเลยว่าอัคคีจะหวงสาวน้อยวารินคนนี้นัก
...หวงเสียด้วย อย่างกับหมาบ้าเลยนะแก...
“ไม่ได้ทะเลาะกันโว้ย ฉันนั่งโต๊ะเดิมนะไอ้ศักดิ์”
“รู้แล้วน่า เดี๋ยวฉันสั่งให้เด็กจัดโต๊ะให้”
“ดีมากเพื่อน เราไปกันเถอะหนูน้ำ”
อัคคีบอกเพื่อนแล้วหันมาพูดกับวารินด้วยสีหน้าอ่อนโยน มือทั้งสองข้างดันร่างเล็กให้ออกเดิน เมื่อเพื่อนสนิทเดินกลับเข้าไปในร้าน
“น้ำเดินเองได้ค่ะพี่คีย์”
“หนูน้ำก็เดินอยู่แล้วนิครับ พี่ไม่ได้อุ้มน้ำเข้าไปในร้านเสียหน่อย”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พร้อมกับดันร่างเล็กให้รีบเดินเข้าไปในร้าน เนื่องจากตอนนี้ลูกค้ากำลังเดินเข้ามา หากพวกเขายังยืนขวางอยู่แบบนี้ไม่ดีแน่ ชายหนุ่มยิ้มอยู่ตรงมุมปากเมื่อวารินรีบเดินเข้าไปในร้าน สายตากวาดมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าคืนนี้เขาจะโชคร้ายเจอคนที่ไม่อยากเจอหรือเปล่า ถ้าใครคนนั้นอยู่ในร้านนี่ด้วย การมาเที่ยวครั้งนี้ของเขาคงจะเลวร้ายน่าดู
...ขออย่าให้เจอเลย ไม่งั้นหนูน้ำต้องเกลียดและไม่อยากเข้าใกล้เราแน่...
//////////
02 : 30 นาฬิกา
อัคคีอุ้มร่างเล็กลงมาจากรถอย่างเอ็นดูปนหมั่นไส้ ไหนว่าดื่มเก่งที่แท้ก็โม้ทั้งเพ ดื่มพั้นซ์ไปไม่กี่แก้วก็คอพับคออ่อนแล้ว คราวต่อไปเขาต้องระวังเอาไว้หน่อย ไม่อย่างนั้นสุดที่รักของเขาอาจลำบากก็ได้ หากไปดื่มกับคนอื่น สองเท้าก้าวเดินไปยังประตูบ้านอย่างมั่นคง
“กลับมาแล้วหรือครับคุณคีย์”
ประตูบ้านเปิดพร้อมกับน้ำเสียงอบอุ่นที่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง เขาดูแลบ้านพักตากอากาศแห่งนี้มาตลอดยี่สิบปี ไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาพักที่นี่เลย ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรก และที่น่าแปลกใจก็คือผู้หญิงที่ผู้เป็นนายพามาคือเพื่อนสนิทของน้องสาวเจ้านายหนุ่มเอง
“ครับลุงนันท์”
“แล้วหนูน้ำเป็นอะไรไปล่ะครับคุณคีย์”
“เมาครับลุงนันท์ ดื่มพั้นซ์ไปไม่กี่แก้วเอง คออ่อนน่าดู”
“งั้นเดี๋ยวผมไปเรียกนังนวลมาให้เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หนูน้ำก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอกครับลุงนันท์ เดี๋ยวผมจัดการเอง ลุงนันท์กลับไปนอนเถอะ”
อัคคีพูดจบก็อุ้มวารินเดินผ่านลุงนันท์ไปทันที จุดหมายก็คือห้องนอนของเขา ตอนแรกก็คิดว่าจะตรงไปยังห้องนอนเล็กที่เขาเปิดเอาไว้ให้วาริน แต่มาคิดอีกทีเขาพาไปนอนห้องเขาเลยดีกว่า อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็จัดการแผนการขั้นต่อไปได้
ลุงนันท์แทบตาถลนกับคำพูดของเจ้านายหนุ่ม ก่อนหันหน้าไปมองร่างสูงกำยำที่กำลังเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ด้วยสีหน้างงงวย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหตุใดเจ้านายหนุ่มถึงทำเช่นนี้ อย่าบอกนะว่าหนุ่มสาวคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน
“พรุ่งนี้ต้องรีบโทรไปรายงานนายท่านทั้งสองเสียแล้ว”
นี่คงนับเป็นข่าวใหญ่ทีเดียว ไม่นึกเลยว่าสะใภ้เพียงคนเดียวของวีรเศรษฐกุลชัยจะเป็นเพื่อนสนิทของคุณหนูชลธิดา สงสัยบรรดาสาวๆ ที่ต่างก็หวังเป็นสะใภ้ของนายท่านทั้งสองคงต้องร้องไห้กันระงม หากรู้ว่าอัคคี วีรเศรษฐกุลชัยมีเจ้าของหัวใจเสียแล้ว
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...